ตอนที่ 449 พี่เขยของเจ้าเป็นตัวบัดซบอันใด

เย่ชาคนที่กำลังนอนหมอบอยู่บนพื้นจ้องหลี่ฉีเย่ที่กำลังเดินเข้ามาหา เขานั้นต้องการจะหนีไปให้ไกล แต่ร่างกายของเขานั้นไม่ตอบสนอง การฟาดจารึกของหลี่ฉีเย่นั้นไม่เพียงพอจะฆ่าเย่ชา แต่มันทำให้เขาบาดเจ็บจนไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว



หลี่ฉีเย่เข้ามาใกล้และมองลงมายังเย่ชา เย่ชาแม้จะบาดเจ็บหนักแต่เขาก็ยังแสดงออกอย่างไม่ยอมแพ้ " เจ้า..เจ้าต้องการจะทำอะไร ? อย่าได้ลืมว่า...ขะ..ข้าเป็น..ลูกหลานของนิกายเยือนราตรี หะ..หากเจ้า..กล้าฆ่าข้า เช่นนั้นนิกายเยือนราตรีจะไม่ปล่อยเจ้าไป ! แม้ว่าเจ้าจะวิ่งไปสุดขอบโลก นิกายก็จะตามล่าเจ้า ! "



" นิกายเยือนราตรี ? มีอะไรที่ข้าต้องกลัว ? " หลี่ฉีเย่ยิ้มอย่างสบายต่อการคุกคามของเย่ชาและกระทืบเท้าลงมา



" ม่ายย ! " เย่ชานั้นกรีดร้องอย่างไม่เต็มใจ แต่มันก็สายไปแล้ว หลี่ฉีเย่ฆ่าเขาด้วยการเหยียบให้จมดิน



เห็นหลี่ฉีเย่เหยียบเย่ชาจนทำให้เขาต้องตายเหล่าผู้ชมล้วนหลั่งเหงื่อเย็น ภายในพริบตาชายคนนี้ฆ่าสองลูกหลานจากนิกายขนาดใหญ่ นี้เป็นการท้าทายต่ออำนาจของนิกายเยือนราตรีและนิกายปีศาจนภาอย่างมาก



ทว่าหลี่ฉีเย่ก็ยังคงไม่ได้แยแสสิ่งใด นี้เป็นบุคคลแบบใดกันที่กระทั้งไม่เกรงกลัวอำนาจของนิกายทั้งสอง ? ความโหดร้ายของเขานั้นถึงขั้นไม่ไว้หน้าสองนิกายขนาดใหญ่เลยรึ ?



" ชายคนนี้อันตรายอย่างมาก " ชายคนหนึ่งพึมพำและสั่นสะท้าน โม่หลี่ต้าและเย่ชานับได้ว่ามีชื่อเสียงอย่างมาก แต่พวกเขาก็ถูกหลี่ฉีเย่ฆ่าอย่างง่ายดาย



หลังจากเหยียบเย่ชาจนมิดเท้า หลี่ฉีเย่ก็มองไปรอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะจองไปยังเจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์ เขาทันใดนั้นก็เอ่ยช้าๆ " ยังมีใครมีปัญหากับข้าอีกบ้าง ? ข้านั้นยินดีตอนรับอย่างยิ่ง เช่นนั้นอย่าลังเลที่จะแสดงตัว "



การแสดงออกของเจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์นั้นเปลี่ยนไปหลังจากถูกจ้องโดยหลี่ฉีเย่ เจ้าสารเลวนี้กระทั้งกล้ายั่วยุเขา นี้เป็นควาอัปยศอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าหลี่ฉีเย่นั้นทรงพลังอย่างมาก



ไม่ว่าจะอย่างไร เจ้าชายก็ไม่สามารถแสดงความอัปยศแต่หน้าผู้คนจำนวนมากได้ เขาทันใดนั้นก็เอ่ยช้าๆ " มันมีสัตว์ปรมจารย์จำนวนมากบนโลก..."



หลี่ฉีเย่มองไปยังเจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " เจ้าเป็นหนึ่งในนั้นรึเปล่า ? "



เจ้าชายนั้นตื่นตระหนกอย่างมากและเผลอถอยหลังกลับโดยสัญชาตญาณ การแสดงความอ่อนแอต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากเช่นนี้ทำให้เขาอับอาย เมื่อเขาลองคิดอีกว่าหลี่ฉีเย่เป็นเพียงมนุษย์ เขาก็สูดลมหายใจลึกและยืนอกขึ้นอย่างภาคภูมิ



เจ้าชายนั้นเอ่ยอย่างเย็นชา " ข้ายอมรับว่าเจ้านั้นแข็งแกร่งมาก แต่เจ้าก็ไม่มีอะไรเทียบกับพี่เขยของข้าได้ ใครก็ตามกล้ายั่วยุพี่เขยของข้าจะไม่ได้พบกับจุดจบที่ดี ! ไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดไหน เจ้าก็เป็นเพียงมดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา..."



เจ้านั้นรู้ว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ฉีเย่ดังเขาจึงแสดงผู้สนับสนุนเขาแทน - พี่เขยของเขา ตี๋เชา !



หลายคนนั้นรำคาญความเย่อยิ่งของเจ้าชาย แต่ทุกคนก็ต้องปิดปากเมื่อเขาเอ่ยถึงพี่เขย พวกเขาทำได้เพียงกลืนความโกรธของพวกเขาลงไปและไม่ได้แสดงสิ่งใด



" ปัง ! " ทว่าก่อนที่เจ้าชายจะกล่าวจบ หลี่ฉีเย่ก็ตบหน้าเขาจนเขาปลิวออกไป !



ปากของเจ้าชายนั้นเต็มไปด้วยเลือดหลังจากที่เขาถึงตบ และมองหลี่ฉีเย่อย่างงุนงง



หลี่ฉีเย่กล่าวอย่างสบายๆ " เจ้าและข้าไม่เคยมีปัญหากันและข้าไม่ชอบสังหารผู้บริสุทธิ์ ทว่าหากมีคนกล้าหยิ่งยโสต่อหน้าข้า เช่นนั้นก็ขอโทษด้วย มือของข้ามักจะเคลื่อนไหวตบคนออกไปเอง อย่าได้นำมันมาใส่ใจ "



" นี้เจ้า ! " เจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์นั้นโกรธจนแทบอาเจียนเป็นเลือดและการแสดงออกของเขากลายเป็นบิดเบี้ยว เขานั้นปราถนาจะวิ่งไปฆ่าเจ้าสารเลวนี้ แต่เหตุผลก็คือเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน เช่นนั้นทางเลือดของเขาคืออดทน



หลี่ฉีเย่มองไปยังเจ้าชายและกล่าวอย่างมีความสุข " เจ้าอาจจะกำลังพูดถึงพี่เขยเจ้า แต่ข้าขออภัยด้วย ข้าไม่รู้ว่าพี่เขยของเจ้า...มันเป็นตัวบัดซบอันใด ? "



ทุกคนนั้นอ้าปากค้างหลังจากได้ยินประโยคเหล่านี้ หลี่ฉีเย่นั้นโอหังเกินไป ผู้ฝึกตนในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ล้วนแต่ต้องเคยได้ยินชื่อตี๋เชา



ตี๋เชา ลูกหลานบัลลังก์หมื่นกระดูก มีข่าวลือว่าเขานั้นฝึกฝนคัมภีร์จักรพรรดิของจักรพรดริอมตะถึงสามคน เขาเป็นหนึ่งในวีรบุรุษของโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ ตำนานนั้นบอกว่าตี๋เชามีอำนาจสยบสวรรค์ เมื่อเขาปรากฏผู้คนจะต้องเรียกเขาว่า ' ท่าน '



แต่ตอนนี้ หลี่ฉีเย่กับกล่าวว่า " เขาเป็นตัวบัดซบอันใด ? " นี้เป็นการยั่วยุตี๋เชาอย่างชัดเจน และมันทำให้หัวใจของหลายคนเต้นรัว หากเจ้าเด็กนี้ไม่เหนื่อยที่จะมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นเขาก็ต้องโอหังอย่างมาก



หลี่ฉีเย่นั้นไม่ได้สนใจเจ้าชาย จากนั้นเขาก็กอดฉิวหรงว่านเสวี่ยและเคลื่อนไหวร่างกายของเขาและหายไปในยามราตรี



หลังจากหลี่ฉีเย่หายไป ชายคนหนึ่งพึมพำ " ชายผู้โหดเหี้ยมอย่างแท้จริงได้ปรากฏขึ้นแล้ว "



เจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่สามารถกลืนความโกรธนี้ได้ หลังจากหลี่ฉีเย่จากไป เขาก็ถ่มน้ำลายไปยังทิศทางนั้นและกัดฟันเอ่ย " เจ้าสัตว์เดรัจฉาน ! รอก่อน เจ้าจะได้สัมผัสกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย ! "



นายน้อยกระดูกทองคำพยามจะปลอบโยน " น้องชาย เจ้าเพียงทนมันอีกหน่อย เจ้ามนุษย์สารเลวนี้ยโสอีกได้ไม่นานหรอก เมื่อท่านตี๋เชามา เขาแน่นอนว่าจะต้องตายด้วยดาบของท่านตี๋เชาแน่ "



นายน้อยกระดูกทองคำนั้นเป็นอัจฉริยะของรุ่นและมั่นใจในตัวเองอย่างมาก ทว่าหลังจากเห็นว่าหลี่ฉีเย่จัดการโม่หลี่ต้าอย่างไร หัวใจของเขาล้วนสั่นสะท้าน เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสุ้ของหลี่ฉีเย่ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้ากล่าวอะไรเมื่อหลี่ฉีเย่ดูถูกเจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงเวลาสำคัญนี้หากเขาเร่งรีบแสดงตัวเองออกมา เช่นนั้นจะเป็นกายฆ่าตัวตายอย่างสมบูรณ์ เขาไม่ต้องการสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยเจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์



วันนี้เจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์ได้สูญเสียหน้าทั้งหมด เขานั้นเป็นเจ้าชายของประเทศประกายศักดิ์สิทธิ์และมักจะหยิ่งยโสกับตัวตนสูงส่งของเขาเสมอ นับตั้งแต่พี่สาวของเขานั้นเป็นคู่หมั้นตี๋เชา ประเทศของเขาก็มีชื่อเสียงอย่างมากภายในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นอัจฉริยะจากที่ใดก็ล้วนแต่ต้องสุภาพต่อหน้าเขา



วันนี้เขาถูกทำให้อับอายด้วยเด็กเหลือขอจากเผ่ามนุษย์ต่อหน้าคนจำนวนมาก นี้อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นความอัปยศสูงสุดในชีวิตของเขา



สายตาของเขากลายเป็นโหดร้ายมากขึ้นและพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว " รอก่อนเจ้าเดรัจฉาน เมื่อไหร่ที่พี่เขยของข้ามาถึงเจ้าเป็นเพียงแค่มดตัวหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงเขาเพียงแค่พี่สาวข้าก็พอแล้วที่จะฆ่าเจ้า ! ในเวลานั้นข้าจะทำให้เจ้ามากราบแทบเท้าข้า ! "



เจ้าชายนั้นไม่มีทางให้อภัยหลี่ฉีเย่ที่ทำให้เขาได้รับควาอัปยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต เมื่อหลี่ฉีเย่ตกสู่มือของเขา เขาจะทรมานมันอย่างช้าๆ



เจ้าชายนั้นไม่มีความสามารถที่จะได้รับชื่อว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่รุ่นเยาว์ เขากระทั้งไม่มีความสามารถเมื่อเทียบกับนายน้อยกระดูกทองคำ แต่หลายคนก็ยังให้ความยำเกรงเขา ก็ใครบอกให้เขามีพี่สาวที่ดีและพี่เขยที่น่าตกตะลึงกันเล่า ?



ความจริงหลายคนสั่นสะท้านเมื่อคิดมาถึงจุดนี้ เจ้าหญิงฟินิกซ์ประกายศักดิ์สิทธิ์ ความงดงามของนางกล่าวได้ว่าสามารถล่มอาณาจักร นางนั้นเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่ง ความจริงนางกระทั้งแข็งแกร่งกว่านายน้อยกระดูกทองคำ



บางคนกล่าวยกย่องนางว่ามีความงามเป็นอันดับหนึ่งในดินแดนเมฆเหิน แต่นี้ก็เป็นเพียงการสรรเสริญ



ไม่ว่านางจะสวยที่สุดหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน ทว่านางแน่นอนว่าไม่ใช่ลำดับหนึ่งในหมู่ผู้เชียวชาญรุ่นเยาว์ในดินแดนเมฆเหิน ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าจะดูถูกนาง ระดับการบ่มเพาะของนางนั้นอาจจะกล่าวได้ว่าแข็งแกร่งและน่ากลัว - นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมคนจำนวนมากหวาดกลัวต่อนาง



นางไม่ได้เป็นเพียงดอกไม้ประดับแจกันให้สวยงามแต่ความสามารถของนางก็ยังน่าประทับใจ ไม่เช่นนั้นนางจะเป็นคู่หมั้นกับตี๋เชาได้อย่างไร ?



นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมคนจำนวนมากหวาดกลัวเมื่อชื่อของนางถูกยกขึ้นมา



" รอก่อนเจ้าสารเลว พี่สาวของข้ากำลังจะมาที่นี่ ! " เจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์เอ่ยอย่างเครียดแค้น



แม้ว่าหลายคนจะไม่ชอบการข่มขู่ของเจ้าชาย แต่หัวใจของพวกเขาก็ยังสั่นสะท้านเมื่อชื่อของเจ้าหญิงฟินิกซ์ถูกยกขึ้นมา หากนางมาที่นี่จริงๆ เช่นนั้นไม่ต้องรอถึงมือตี๋เชา เพียงความดุร้ายของนางยังมีใครกล้าจะต่อต้านอีก ?



ตี๋เชานั้นเป็นตัวตนระดับสูงในหมู่เมฆ บางคนที่พวกเขาไม่มีวันเอื้อมถึง เหล่าผู้เยาว์ล้วนไม่เคยอยู่ในสายตาของตี๋เชา



เมื่อตี๋เชามาที่นี่ อัจฉริยะทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะมีความสามารถขนาดไหนพวกเขาก็ล้วนอับแสง ต่อหน้าตี๋เชาที่เปล่งประกาย อัจฉริยะทุกคนล้วนถูกบดบังและกลายเป็นไร้ค่า



ตี๋เชานั้นเป็นภูเขาขนาดใหญ่ที่กดดันผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ทุกคน เขาานั้นกำราบได้ทุกคนและไม่มีใครต้านทานเขาได้ !



* * *



หลี่ฉีเย่นั้นกอดฉิวหรงว่านเสวี่ยตลอดทางกับที่พัก นางนั้นยังคงอยู่ในอาการงุนงงเมื่อเขาวางนางลง เขาเคาะไหล่ของนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ฉิวหรง นี้เจ้ากลัวหรือว่าคิดถึงอ้อมกอดของข้าจนไม่อยากจะจากไปกัน ? "



สติของฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นกลับมาและร่างกายของนางกลายเป็นร้อนขึ้น แก้มของนางนั้นแดงปลั่ง ดวงตาของนางใสราวกับน้ำค้างฤดูใบไม้ผลิและเต็มไปด้วยความเย้ายวน...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้