ตอนที่ 484 ต่อต้านทั้งหมดเพียงลำพัง

" เจ้าโง่ , ยังมาทำเป็นพูดจาไร้สาระหลังจากฆ่าน้องชายของข้าอีกรึ..." ดวงตาของเจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าราวกับเป็นราชีนีผู้บ้าคลั่ง



" เจ้าหมายถึงเจ้าชายไร้ประโยชน์นั้น ? มันสามารถอธิบายได้ว่าทำไมเขาถึงตายอย่างอนาถเช่นนั้น เขากล้าที่จะสมคบคิดกับคนอื่นต่อต้านข้า ข้าเมตตาพอแล้วที่ไม่ได้เหมาะรวมไปถึงประเทศประกายศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าด้วย "



" วันนี้จะเป็นงานศพของเจ้า ข้าจะมอบหัวของเจ้าไว้ในงานศพของน้องชายข้า เพื่อเซ่นจิตวิญญาณของเขาที่อยู่บนเก้าชั้นฟ้า ! " เจ้าหญิงฟินิกซ์เอ่ยด้วยใบหน้าเย็นชา



หลี่ฉีเย่ขี้เกียจเกินไปที่จะกล่าวสิ่งใดเพิ่ม เขาจึงเอ่ย " เช่นนั้นก็หยุดเสียเวลา มาเริ่มกันและดูกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะในตอนสุดท้าย เจ้าต้องการเข้ามาก่อนหรือให้พวกเหล่านักเลงรับจ้างพวกนี้เข้ามาก่อน ? "



เจ้าหญิงฟินิกซ์จ้องหน้าเขาและเอ่ยอย่างเย็นชา " เหล่าวีรบุรุษ จากนี้ไปรางวัลของเขาจะเพิ่มเป็นสองเท่า จับหลี่ฉีเย่แบบมีชีวิตจะได้สามหยดเลือดชีวิตบรรพชนเที่ยงธรรม , หัวของหลี่ฉีเย่ - จะได้หนึ่งเม็ดยาราชาและขวดที่บรรจุวงแหวนชีวิตอายุล้านปี ชิ้นส่วนในร่างกายของเข - จะได้คัมภีร์ทักษะและสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมระดับแท้จรง..."



" อะไรนะ !? สามหยดเลือดชีวิตบรรพชนเที่ยงธรรม " ความโกลาหลปะทุขึ้น บางคนเริ่มจะอุทาน " ขวดที่บรรจุวงแหวนชีวิตอายุล้านปี ! "



หนึ่งหยอดเลือดชีวิตเพื่ออายุหมื่นปี หนึ่งหยดเลือดชีวิตจากหมื่นหยดเลือด - นี้เป็นวลีที่อธิบายคุณค่าของหยอดเลือดชีวิต หยดเลือดชีวิตบรรพชนเที่ยงธรรมนั้นมีค่าอย่างมากเพราะมันมาจากตัวตนระดับสูงอย่างบรรพชนเที่ยงธรรม บางคนกล่าวหยดเลือดชีวิตบรรพชนเที่ยงธรรมนั้นใกล้เคียงกับหยดเลือดจักรพรรดิอมตะ พวกเขาเป็นผู้อยู่เกือบจุดสูงสุดของการบ่มเพาะ บางคนกล่าวว่าอำนาจขอวพวกเขาเทียบได้กับจักรพรรดิอมตะ



ดังนั้น สามหยดเลือดชีวิตบรรพชนเที่ยงธรรมจะไม่ให้หัวใจผู้คนเต้นระรั่วได้อย่างไร ? เหล่าตัวตนที่ยิ่งใหญ่สุดท้ายก็ตาลุกวาวหลังจากได้ยินรางวัลนี้



เหล่าคนตายที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดต่างก็ต้องการลงมือ ชีวิตของพวกเขานั้นแห้งเหี่ยว แต่สามหยดเลือดชีวิตบรรพชนเที่ยงธรรมจะทำให้พวกเขามีชีวิตอยู่อีกหลายปี



ทว่าเหล่าคนตายนั้นมีชีวิตมานาน พวกเขานั้นไม่เร่งรีบที่จะลงมือและสังเกตพลังที่แท้จริงของหลี่ฉีเย่



ไม่กี่คนในพวกเขาระวังตัวอย่างมาก ไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็เป็นผู้พิทักษ์ของนิกายพันแม่น้ำหวน พวกเขาไม่แน่ใจว่านิกายจะปกป้องเขาหรือไม่ยามถูกโจมตี



เงื่อนไขใหม่ของเจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นไม่สามารถทำให้ผู้เชียวชาญทนได้อีกต่อไป เหล่าผู้เชียวชาญที่ต้องการฆ่าหลี่ฉีเย่กลายเป็นตื่นเต้นมากขึ้น



ในเวลานี้ สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องมองมายังเขา ในเวลานี้เขาเป็นชิ้นส่วนของเนื้อที่ทุกคนอย่างจะได้



ผู้ฝึกตนมองหลี่ฉีเย่ราวกับหมาป่าหิวโหย แต่ไม่มีใครกล้าจะเคลื่อนไหวเป็นคนแรก หลี่ฉีเย่ชัดเจนว่ามีความสามารถหลังจากฆ่ากลุ่มของนายน้อยกระดูกทองคำได้ ดังนั้นไม่มีใครต้องการจะเป็นคนแรกที่ท้าทาย หลายคนรอเพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์



" อะไรกัน ? ไม่มีคนลงมือ ? " หลี่ฉีเย่มองไปยังกลุ่มเบื้องหน้าด้วยรอยยิ้มแจ่มใส่ก่อนจะก้าวไปหาเผ่าพันธ์ผี



บรรยากาศกลายเป็นตรีงเครียด หลายคนอยากจะเคลื่อนไหว เหล่าผู้เชียวชาญผีจับอาวุธของพวกเขาแน่น ช่วงเวลาที่มีคนพุ่งเข้าหาหลี่ฉีเย่ ทุกคนพร้อมจะระเบิดพลังออกมา



สุดท้ายผู้เยาว์ก็ยังเป็นวัยที่วู่วามและห่าม ในที่สุดก็มีผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ทนรอไม่ไหวและกระโดดออกมาจากฝูงชน



ชายคนนี้นั้นถูกปกคลุมไปด้วยหมอกขณะที่เขากำลังเคลื่อนไหว เขากระโดดและตะโกนใส่หลี่ฉีเย่ " เจ้ามนุษย์สารเลว เจ้าอยากจะให้เรื่องนี้มันง่ายหรือทำให้มันยุ่งยาก ? "



หลี่ฉีเย่หัวเราะก่อนจะมองไปยังผู้เยาว์ที่มาท้าทายเขาเป็นคนแรกและเอ่ย " ดูเหมือนเจ้าจะมีความมั่นใจในตัวเอง ? "



" แน่นอน ! ในสายตาของข้าการฆ่ามนุษย์มดเช่นเจ้านั้นง่ายยิ่ง ! " ด้วยความมั่นใจดังกล่าว เขาทันใดนั้นก็หยิบตาข่ายออกมา นี้เป็นตาข่ายที่บริสุทธิ์ราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า



" มันเป็นไบ๋หลงเฟย ! " ผู้เชียวชาญเผ่าพันธ์ผีรู้ตัวตนของชายคนนี้และอุทาน



" ตาข่ายทรายดารา " หลี่ฉีเย่ประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นตาข่ายที่อยู่ในมือ



ชายหนุ่มคนนั้นหัวเราะอย่างมั่นใจ " เจ้าก็มีความรู้ที่ดี เจ้าสารเลวมนุษย์ ความสามารถพิเศษของข้าคือการจับคนอื่น เมื่ออยู่ในสายตาข้าไม่มีใครจะหนีไปได้แม้ว่าพวกมันจะมีปีก ไม่มีใครในโลกนี้เร็วกว่าข้า "



ผู้เชียวชาญมนุษย์ที่มองดูจากระยะไกลเอ่ยเตือนหลี่ฉีเย่ " ระวังตาข่ายทรายดารานั้นไว้ ! เขานั้นมีกายามังกรทะยานย่อยขั้นสมบูรณ์ ดังนั้นเขาจึงเร็วอย่างมาก ตาข่ายของเขายากที่จะหลีกเลี่ยง "



ดังนั้นไบ๋หลงเฟยเกิดมาพร้อมกับกายามังกรทะยาน กายาราชัน กายาราชัน ควรจะรู้ว่านี้เป็นหนึ่งในสองกายาราชันที่เป็นสาขาของกายาไร้นภาอมตะ กายานี้นั้นมอบความเร็วให้กับผู้ฝึก ไบ๋หลงเฟยนั้นเกิดมาพร้อมกับกายานี้และตอนนี้มันอยู่ในขั้นกายาย่อยขั้นสมบูรณ์ แม้แต่องค์รักษ์น้อยก็ไม่สามารถหนีการจับกุมของเขาได้



ตาข่ายทรายดาราของเขากลั่นมาจากดวงดาราในจักรวาล ช่วงเวลาที่ตาข่ายถูกโยนมันราวกับเป็นบ่วงขนาดใหญ่ ด้วยความเร็วของไบ๋หลงเฟยพร้อมกับอำนาของตาข่ายทำให้เขาจับคนได้โดยง่าย แม้ว่าเขาจะอ่อนแอหากเทียบกับอัจฉริยะคนอื่น เขาก็ยังน่ากลัวมากที่เดียว



" มันยังไม่สายเกินไปที่จะยอมแพ้ละลดความทรมาน " ไบ๋หลงเฟยเอ่ย " ไม่เช่นนั้นเมื่อข้าลงมือมันจะไม่มีโอกาสให้เจ้าได้ตอบโต้ "



ขณะที่ไบ๋หลงเฟยเอ่ย เขาทันใดนั้นก็เคลื่อนไหวปรากฏเป็นร่างเงาทั้งสี่ล้อมรอบหลี่ฉีเย่ ไม่มีใครรู้ว่าคนไหนเป็นไบ๋หลงเฟยตัวจริง



" ด้วยความเร็วขนาดนี้ มันน่าเสียดายที่ไบ๋หลงเฟยไม่ได้มาจากเชื้อสายจักรพรรดิ นี้ทำให้ากายาที่ยอดเยี่ยมเสียเปล่า " องค์รักษ์เทพสวรรค์คนหนึ่งเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นความเร็วของไบ๋หลงเฟย



หลี่ฉีเย่ยืนอยู่เฉยๆโดยไม่กระพริบตาและเอ่ย " เร็วเขารีบโจมตีมา ข้าไม่มีเวลามาฟังเจ้าพ่นน้ำลายทั้งวัน "



" เจ้าโง่ เช่นนั้นก็โดนจับซะ ! " เงาทั้งหมดของไบ๋หลงเฟยตะโกน ร่างจริงอยู่ตรงไหนล้วนไม่มีใครสัมผัสได้ ไบ๋หลงเฟยเหวี่ยงตาข่ายทรายดาราด้วยความเร็วทีน่าเหลือเชื่อและจับหลี่ฉีเย่



นี้เป็นความเร็วที่หลายคนตกตะลึง ไม่ประหลาดใจว่าทำไมไบ๋หลงเฟยถึงสามารถจับแม้แต่องค์รักษ์น้อยได้ ความเร็วของเขานั้นไม่ได้เอ่ยเกินจริง



" ปัง แกร๊ก ! " เสียงของกระดูกแตกหักดังออกมาก่อนที่จะปรากฏศพของไบ๋หลงเฟยลอยอยู่บนฟ้า หลี่ฉีเย่ปรากฏตัวไปด้านหลังร่างจริงของเขาก่อนจะบดขยี้หัวของเขาให้แหลกละเอียด



ไบ๋หลงเฟยนั้นไม่เห็นสิ่งใดแม้แต่ช่วงเวลาที่เขาตาย เขานั้นไม่รู้ว่าหลี่ฉีเย่มาปรากฏตัวด้านหลังของเขาด้วยความเร็วระดับใด



" นี้เป็นเพียงการแสดงทักษะเล็กน้อยแต่หน้าผู้เชียวชาญที่แท้จริง " หลี่ฉีเย่ไม่แม้แต่จะมองไปยังศพของเขาและเอ่ย ความเร็วของไบ๋หลงเฟยนั้นไม่ต่างจากหอยทากสำหรับหลี่ฉีเย่



หลี่ฉีเย่นั้นไม่แม้แต่จะใช้กายาไร้นภาอมตะสู้กับไบ๋หลงเฟย เพียงหกปักษาสายปีกลำพังก็เพียงพอแล้วที่จะฆ่าเจ้าสารเลวนี้



หลายคนกลายเป็นตกตะลึงที่เห็นหลี่ฉีเย่ฆ๋าไบ๋หลงเฟยอย่างง่ายดาย มันเห็นได้ชัดว่าเขาเร็วยิ่งกว่าไบ๋หลงเฟย



หลี่ฉีเย่เดินเข้ามาใกล้กับที่ตั้งเผ่าและหยุดต่อหน้าชายวัยกลางคนสามคน



หนึ่งนั้นถือโล่ขนาดใหญ่ , อีกคนนั้นถือกระบี่ , และคนสุดท้ายนั้นถือไม้เท้า มีวงแหวนแปดวงปราฏอยู่รอบร่างกายของพวกเขา ไม่ต้องสงสัยพวกเขานั้นเป็นองค์รักษ์น้อย



" ทวีปปีกสามเซียน ! " หัวใจของผู้คนสั่นสะท้านหลังจากเห็นชายทั้งสามคน



เซียนทั้งสามนี้แข็งแกร่งว่าองค์รักษ์น้อยธรรมดา พวกเขามาถึงระดับองค์รักษ์เทพสวรรค์ในยุคเต๋าที่ยุ่งยาก พวกเขานั้นเกิดมาผิดยุคและใช้ยุคทองของพวกเขาในการผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจจะเป็นถึงราชันเทพสวรรค์หรือบรรพชนเที่ยงธรรม



นอกจากนี้พวกเขาทั้งสามยังเป็นพี่น้องและเติบโตมาด้วยกัน พวกเขานั้นฝึกเต๋าและทักษะึวบคู่ไปพร้อมกันๆ พวกเขานั้นมีการเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ในรูปแบบการต่อสู้



เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรู ไม่ว่าจะเป็นคนเดียวหรือทั้งกองทัพ พวกเขาทั้งสามนั้นจะสู้ด้วยกันเสมอ ผู้อาวุโสสุดถือโล่ขนาดใหญ่เพื่อป้องกัน , น้องคนกลางถือกระบี่เพื่อโจมตี และคนสุดท้ายถือไม้เท้าเพื่อโจมตีจุดบอด ทั้งสามนั้นทำงานด้วยกันอย่างสมบูรณ์ และมีคนน้อยมากที่ต้านทานการโจมตีของพวกเขาได้ แม้แต่ยอดองค์รักษ์ก็ยังตายภายในน้ำมือของทั้งสาม



" เจ้าเด็กน้อย ตอนนี้เจ้าจะทำอย่างไร ? " ชายที่อาวุโสที่สุดและถือโล่กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม



หลี่ฉีเย่หยิบกระบี่ที่ข้างเอวเขาออกมา มันเป็นเพียงกระบี่เหล็กธรรมดา จากนั้นเขาก็ส่งพลังงานในสายเลือดลงไปและมันเปล่งประกายสีแดงเข้มราวกับสมบัติ ในเวลานี้หลี่ฉีเย่มีทั้งดาบและกระบี่พร้อมกัน เขาต้องการจะฝึกตัวเองโดยการหลีกเลี่ยงการใช้กายาอเวจีอมตะและกายาไร้นภาอมตะ ไม่เช่นนั้นการต่อสู้นี้จะไม่มีความท้าทายกับเขาเลย



หลี่ฉีเย่ชี้กระบี่ของเขาออกไปและเอ่ย " เข้ามา อย่าได้พูดมาก " กล่าวเสร็จกระบี่ก็ส่งเสียงออกมา กระบี่ธรรมดาทันใดนั้นก็เต็มไปด้วยพลังงานในสายเลือดราวกับมีจิตวิญญาณ



" เจ้าโง่ ! " พี่ชายลำดังสองคำรามและโจมตีด้วยกระบี่คู่ของเขา กระบี่นี้ทันใดนั้นก็ร่ายรำอย่างต่อเนื่อง มันราวกับเป็นการโจมตีที่หลื่นไหลของสายน้ำ การกวาดผ่านนี้สามารถแยกปฐพีและภูเขาได้อย่างง่ายดาย



" นี้เจ้าไม่อายหรือไงที่แสดงทักษะกระบี่ระดับต่ำแบบนี้ต่อหน้าข้า ? " หลี่ฉีเย่ยิ้ม " เช้งงง ! " เขาทันใดนั้นก็ชูกระบี่ขึ้นฟ้า ในเวลานี้กระบี่ที่ดูธรรมดาได้กลายเป็นมังกรวารี...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้