ตอนที่ 497 เผ่าผีแมลงกระดอง

" นี้พวกเขาอาจจะมาเพื่อสนับสนุนตี๋เชา ไม่เช่นนั้นบัลลังก์ภูเขาบรรพชนคงจะไม่ออกมาเช่นนี้ " หลายคนอ้าปากค้างเมื่อเห็นภูเขาลูกนี้



อีกเสียงหนึ่งกระซิบ " ในเมื่อผู้อาวุโสของนิกายพันแม่น้ำหวนมาที่นี่ บัลลังก์หมื่นกระดูกตัวตนอมตะในชายแดนใต้ก็ไม่มีทางถอย ทั้งสองฝ่ายจะต้องอยู่ในสถานะการณ์ตีงเครียดเป็นแน่ "



หลี่ฉีเย่และตี๋เชาเป็นศัตรูกันนี่คือสิ่งที่ทุกคนรู้ ตี๋เชานั้นไม่มีทางยกโทษให้กับหลี่ฉีเย่ที่เอาชนะเจ้าหญิงฟินิกซ์และฆ่าผู้เชียวชาญผีจำนวนมาก การต่อสู้ของทั้งสองนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้



ตอนนี้ความตั้งใจของบัลลังก์นั้นชัดเจนอย่างมากโดยการให้ภูเขาบรรพชนปรากฏ ถ้ามันเป็นการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่งแล้วบัลลังก์อาจจะไม่เข้ามายุ่ง แต่หากนิกายพันแม่น้ำหวนต้องการจะเล่นด้วยจำนวน บัลลังก์ก็จะไม่นั่งเฉย



" ตูม ! " ขณะที่ทุกคนประหลาดใจ เสียงหึ่งจากภูเขาบรรพชนก็ดังออกมา ท้องฟ้านั้นกลายเป็นมืดครึม ผู้ฝึกตนจำนวนมากเงยหน้าขึ้นมองและสังเกตเห็นบางอย่างที่ปิดกั้นท้องฟ้า



" โอ้วไม่นะ นั้นมันเผ่าแมลงกระดอง วิ่งเร็ว ! " หลังจากได้เห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ปิดกันชั้นฟ้า คนนับไม่ถ้วนสูญเสียจิตใจของพวกเขา



" วิ้งง ! " ขณะนั้นแมลงกระดองจำนวนนับไม่ถ้วนได้ร่วมตัวกันเป็นมนุษย์ที่มีขนาดเท่ากับภูเขา



ช่วงเวลาที่แมลงกระดองเข้าร่วมร่างกันมันกลายเป็นชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ว่วจะเป็นเพียงการรวมร่างของแมลงจำนวนมากมันก็ยากที่จะบอกว่ายักษ์แมลงกระดองตัวนี้ไม่ใช่เป็นคนจริงๆ



ยักษ์ตัวนั้นหัวเราะออกมาพร้อมกับกลิ่นอายอันตรายและเอ่ย " ฮ่าฮ่า ! ไม่ต้องตื่นตระหนก เผ่าแมลงกระดองของข้ามาที่นี่เพื่อหลุมฝังศพ ไม่ใช่เพื่อสังหารผู้บริสุทธิ์ "



ได้ยินเช่นนี้หลายคนที่กำลังหลบหนีได้หยุดชั่วคราว แต่พวกเขาก็รีบถอยหลังอย่างรวดเร็วและมองดูยักษ์แมลงตัวนี้จากที่ห่างไกล



เผ่าแมลงกระดองนั้นเป็นสาขาที่น่ากลัวอย่างมากในเผ่าพันธ์ผี ทุกคนจะรู้สึกสั่นสะท้านเมื่อเชื่อของพวกเขาถูกเอ่ยขึ้นมาในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์



เผ่าพันธ์นี้นั้นอยู่มาเป็นเวลานานและบางคนสันนิฐานว่าพวกเขาอยู่มาก่อนยุครกล้าง แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยสร้างจักรพรรดิอมตะ ตำนานก็กล่าวว่าบรรพบุรุษของเผ่าพันธ์นี้ในอดีตมีความแข็งแกร่งเทียบได้กับจักรพรรดิอมตะ



และนี้ยังไม่ใช่สิ่งทีน่ากลัวที่สุดของเผ่าพันธ์ผี แต่มันคือความสามารถในการสิบพันธ์ ตราบใดที่เงื่อนไขของพวกเขาถูกต้อง พวกเขาจะสืบพันธ์ได้ในทันที นี้หมายความว่าเผ่าพันธ์นี้ผลิตลูกหลานนับล้านภายในระยะเวลาสั้นๆ !



ดังนั้นการเป็นศัตรูกับเผ่าพันธ์ผีนี้หมายความว่าจะไม่ได้ตายอย่างสมบูรณ์ ดินแดนของพวกเขาที่ถูกทำลายจะถูกกัดกินจนไม่เหลือเศษซากใดๆ



ร่างกายของพวกเขานั้นแข็งแกร่งมากและฆ่ายาก ในอีกคำคือสมาชิกของพวกเขานั้นเหมือนแมลงสาป หนึ่งแมลงสาปยังพอทน แต่หนึ่งล้านแมลงสาปนี้น่ากลัวเกินไป



มันมีคำกล่าวในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ มันจะดีกว่าหากเป็นศัตรูกับเชื้อสายจักรพรรดิ ดีกว่าสร้างความขุ่นเคืองให้กับเผ่าแมลงกระดอง !



การมาถึงของเผ่าแมลงกระดองนี้ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับหลายคน ไม่มีใครต้องการกลายเป็นอาหารของแมลงเหล่านี้ พวกเขาสามารถกินอะไรก็ได้แม้แต่สิ่งสกปรกบนพื้นดิน ถูกกินโดยแมลงเหล่านี้พวกเขาจะไม่เหลือแม้แต่กระดูก



หลายคนสั่นและหนีไปหลังจากคิดถึงชะตากรรมดังกล่าว



" ดังนั้นเป็นราชาแมลงกระดอง ไม่คาดว่าท่านจะเดินทางไกลจากดินแดนหมอกลวงตามายังที่นี่ " ในเวลานี้มีเสียงปรากฏ กลิ่นอายหยินหยางนั้นปรากฏขึ้นบนชั้นฟ้า ผู้เชียวชาญนับพันปรากฏ



ช่วงเวลาที่กลิ่นอายหยินหยางมาถึงด้านหน้าของหลุมฝังศพแห่งลางร้าย มันกลายเป็นสัญลักษณ์หยินหยางขนาดยักษ์และเห็นชายวัยกลางคนยืนอยู่ตรงกลาง



เขานั้นสวมเสื้อคลุมหยินยางพร้อมด้วยกลิ่นอายของปราชญ์ มันง่ายที่จะบอกว่าเขาเป็นชายที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา



กระทั้งราชาแมลงกระดองก็ยังไม่กล้าที่จะละเลยการทักทายชายคนนี้่อย่างสุภาพ " อ่า เป็นปรมจารย์หยินหยางนี้เอง ขออภัยด้วยหากข้าทักทายล่าช้า "



" ปรมจารย์หยินหยาง - บิดาของฉานหยางและผู้นำนิกายประตูหยินหยาง " ผู้คนส่วนหลังจากได้ยินชื่อนี้



ประตูหยินหยางนั้นเป็นนิกายทรงอำนาจในชายแดนใต้ พวกเขาถูก่อตั้งโดยจักรพรรดิอมตะหยินหยาง ในสมัยก่อนเมื่อประตูหยินหยางปรากฏ พวกเขาจะถึงสองคน นั้นคือปรมจารย์หยินหยางและฉานหยาง



เขานั้นได้รับการสนับสนุนอย่างสมบูรณ์เมื่อถูกขนาดนามว่าเป็นบิดาของฉานหยาง



ฉานหยางคือใคร ? หนึ่งในสามวีรบุรุษ ! คนที่เทียบได้กับตี๋เชา ! สิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดสำหรับฉานหยางก็คือพวกเขาได้ถูกรับเลือกโดยดินแดนบรรพชนให้รับมรดก



ดินแดนบรรพชนนั้นเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเต็มไปด้วยความลึกลับ



ตำนานกล่าวว่าในยุคที่ไกลออกไป ดินแดนบรรพชนนั้นเป็นความรุ่งโรจน์ของเผ่าพันธ์ผี ผีหลายตนเชื่อว่าพวกเขาจะไม่มีวันนี้หากไม่มีดินแดนบรรพชน สำหรับล้านปีต่อมา จักรพรรดิอมตะของเผ่าพันธ์ผีไม่ว่าจะอย่างก็ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับดินแดนบรรพชน



ตัวอย่างเช่นจักรพรรดิอมตะเย่ชิ , จักรพรรดิอมตะเอ๋อชิ , จักรพรรดิอมตะหยินยาง และจักรพรรดิอมตะฉงหาน...พวกเขาทั้งหมดล้วนมีความสัมพันธ์กับดินแดนบรรพชน



แม้ว่าดินแดนบรรพชนนั้นจะอยู่ห่างไกลและหายาก พวกเขาก็ยังมีสถานะอย่างสูงในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ ในช่วงเวลาพิเศษ ทุกเผ่าพันธ์ผีในโลก ไม่ว่าจะเป็นเชื้อสายจักพรรดริ หรือบัลลังก์หมื่นกระดูกก็ยังต้องระวังดินแดนบรรพชน



ฉานหยางนั้นเป็นบุตรของปรมจารย์หยินหยางและลูกหลานของประตูหยินหยาง ในตอนที่อายุยังเยาว์ฉานหยางนั้นมีความรู้ที่ดีมาก ต่อมาบรรพชนของดินแดนบรรพชนเลือกเขาให้ได้รับมรดก ก่อนหน้านี้ศิษย์เผ่าพันธ์ผีได้ยืนชื่อของศิษย์มีความสามารถจำนวนมาก แต่ดินแดนบรรพชนไม่ได้สนใจอัจฉริยะเหล่านั้น รวมถึงคนจากบัลลังก์หมื่นกระดูกและยอดยุคอาณาจักรโบราณ รวมถึงพรรคที่อยู่อย่างสันโดษ กระทั้งตี๋เชาและเทียนหุยหลี่ก้ไม่ได้ถูกเลือก



เมื่อบรรพชนเห็นฉานหยางที่กำลังบ่มเพาะ เขาทันใดนั้นก็ตัดสินใจเลือกและพากลับไปยังดินแดนบรรพชนทันที



ข่าวนี้ทำให้คนจำนวนมากสั่นสะท้านในเวลานั้น การเป็นลูกหลานของดินแดนบรรพชนนั้นเป็นเรื่องที่ตกตะลึงอย่างมาก เพราะหากพวกเขาไม่ได้เป็นจักรพรรดิอมตะในอนาคต พวกเขาก็จะได้เป็นผู้นำดินแดนบรรพชนตัวตนอมตะในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ และราชาของเผ่าพันธ์ผี



เผ่าพันธ์ผีทุกเผ่าเข้าใจความสำคัญที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเหล่านี้ การกลายเป็นลูกหลานของดินแดนบรรพชนเป็นชื่อเสียงตลอดชีวิตและมีความสามารถในการสั่งส่วนที่เหลือของโลกได้



ที่นั่งดังกล่าวอยู่เหนืออัจฉริยะจำนวนมาก



ด้วยเหตุนี้ ประตูหยินหยางจึงกลายเป็นได้รับแรงสนับสนุน เพียงคืนเดียวสถานะของประตูหยินหยางก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าบัลลังก์หมื่นกระดูก



ขณะที่บิดาของเขา ปรมจารย์หยินหยางเป็นธรรมดาที่จะภูมิใจบุตรชายของตน



ทว่าเขานั้นไม่ได้กลายมาเป็นคนมีชื่อเสียงเพราะว่าบุตรชายของเขา ในช่วงวัยหนุ่มเขานั้นเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมและสงบทั่วดินแดน อายุยี่สิบเขากลายเป็นเซียนบรรพกาล นั้นเป็นช่วงเต๋าที่ยุ่งยาก ดังนั้นการกลายเป็นเซียนบรรพกาลในช่วงเวลานี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงอย่างมาก บางคนกระทั้งคิดว่าหากปรมจารย์หยินหยางไม่ได้เกิดในยุคเต๋าที่ยุ่งยากเขาอาจจะกลายเป็นจักรพรรดิอมตะ



ต่อมาปรมจารย์ฝืนบ่มเพาะในช่วงยุคเต๋าที่ยุ่งยาก แต่การบ่มเพาะของเขาก็ต้องหยุดลงเพราะบาดเจ็บ ถ้าไม่ได้เป็นเพราะเรื่องนี้ ด้วยอายุในปัจจุบันและพลังงานในสายเลือดบางทีเขาก็อาจจะมีโอกาสแบกเจตจำนงแห่งสวรรค์



การมาถึงของปรมจารย์หยินหยางได้ก่อให้เกิดความวุ่นวาย เนื่องจากแม้แต่ราชาแมลงก็ยังต้องสุภาพต่อปรมจารย์ นิกายอื่นๆจึงเข้ามาทักทายเขา



กลุ่มของผู้นำนิกายคนอื่นเริ่มที่จะเข้ามาพูดคุย " ข้าขอถามท่านได้หรือไม่ว่า ฉานหยางกลับมารึยัง ? "



หลายคนในโลกใต้พิภพศักดิ์ศิทธิ์นั้นอยากรู้สถานการณ์ของฉานหยาง มากกว่าตี๋เชา



ตี๋เชานั้นมีอนาคตที่สดใสและมีโอกาสที่สูงที่จะกลายเป็นจักรพรรดิอมตะ บัลลังก์หมื่นกระดูก หนึ่งนิกายสามจักรพรรดิแน่นอนว่าพวกเขาเป็นเชื้อสายที่น่ากลัว



ทว่า ฉานหยางนั้นต่างออกไป ในฐานะลูกหลานของดินแดนบรรพชน แม้ว่าเขาจะไม่ได้กลายเป็นจักรพรรดิอมตะในอนาคต เขาก้ต้องกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุดของดินแดนบรรพชน



หนึ่งควรจะรู้ว่าไว้ดินแดนนบรรพชนนั้นเป็นตัวแทนของเผ่าพันธ์ผีทั้งหมดที่จะสั่งการได้ทั่วโลก บัลลังก์หมื่นกระดูกก็ยังไม่สามารถเทียบเกียรติของดินบรรพชนได้



ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงให้ค่ากับฉานหยางมากกว่าตี๋เชา ไม่ว่าจะอย่างไรตี๋เชาก็ไม่แน่ว่าจะได้เป็นจักรพรรดิอมตะหรือไม่ ขณะที่ฉานหยางได้เป็นผู้ปกครองดินแดนบรรพชนอย่างแน่นอน !



ปรมจารย์หยินหยางยิ้มและเอ่ยตอบ " ลูกชายของข้ายังไม่กลับมาจากดินแดนบรรพชนในตอนนี้ กายาอมตะของเขากำลังเข้าสู่หายนะกายา ตอนนี้เขาจะต้องทะลวงมันเพื่อให้ได้กายาอมตะย่อยขั้นสมบูรณ์ "



" กายาอมตะย่อยขั้นสมบูรณ์ ! " กลุ่มของผู้อาวุโสปากค้างหลักจากได้ยินคำตอบ



ทุกคนในโลกรู้ว่าฉานหยางนั้นมีความสาารถ เขาแน่นอว่าต้องได้บ่มเพาะทักษะและคัมภีร์ที่ดีในฐานะลูกหลานของดินแดนบรรพชน ทรัพยากรของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเชื้อสายจักรพรรดิ ดังนั้นหลังจากพบว่าเขากำลังเข้าสู่กายาอมตะย่อยขั้นสมบูรณ์ นี้จะไม่ให้ผู้คนสั่นสะท้านได้อย่างไร ?

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้