ตอนที่ 498 ปรมจารย์หยินหยาง
เมื่อฉานหยางเข้าไปยังดินแดนบรรพชน ชื่อเสียงของเขา , ความสามารถ และความสำเร็จของเขาทำให้เขาเทียบได้กับตี๋เชาและเทียนหุยหลี่ ตอนนี้ด้วยการประสบความสำเร็จกายาย่อยขั้นสมบูรณ์ ผู้คนจะไม่รู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไรหลังจากได้ยินเรื่องนี้ ?
หากสำเร็จกายาอมตะขั้นสมบูรณ์แล้ว เช่นนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นจักพรรดริอมตะ เขาก็ยังเป็นตัวตนอมตะที่น่าะพรึงกลัว
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เผ่าพันธ์ผีได้รับรู้ถึงศักยภาพของประตูหยินหยาง ลูกชายของปรมจารย์หยินหยางนั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก ไม่เพียงแต่จะได้รับการยอมรับจากดินแดนบรรพชน แต่เขาอาจจะประสบความสำเร็จในกายาอมตะขั้นสมบูรณ์ในอนาคตอีกด้วย
ตำแหน่งของผู้นำนิกายและและนิกายของเขาได้ยกระดับขึ้นสูงอีกครั้ง
" กยายาอมตะย่อยขั้นสมบูรณ์ ! " ความจริง หลังจากข่าวนี้ออกมา หลายคนสั่นสะท้าน เผ่าพันธ์ผีและเผ่ามนุษย์ล้วนอยู่ไม่สุข
" บะ..บางที เงาของฉานหยางอาจจะเหนือกว่าเทียนหุยหลี่และตี๋เชา หรือเขาจะเป็นผู้นำในสามวีรบุรุษ ? " บางคนอดไม่ได้ที่จะพึมพำ
นับตั้งแต่ฉานหยางเข้าสู่ดินแดนบรรพชน เขานั้นก็หายไปจากโลกเป็นเวลานาน ในเวลาตี๋เชาได้กวาดล้างศัตรูของเขาด้วยการต่อสู้ที่ทรงเกียรติ ดังนั้นเขาจึงมีชื่อเสียงมากกว่าเทียนหุยหลี่และฉานหยาง
แต่ตอนนี้ ข่าวเกี่ยวกับการสำเร็จกายาอมตะย่อยขั้นสมบูรณ์ได้กระจายออกไป ผู้คนตระหนักได้ว่าแม้ว่าเขาจะยังอยู่ในดินแดนบรรพชน มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอ่อนแอกว่าตี๋เชาและเทียนหุยหลี่ บางทีกายาอมตะย่อยขั้นสมบูรณ์ของเขาอาจจะเพิ่มช่องว่างระหว่างเขาและอีกสองคนด้วยซ้ำ !
ข่าวนี้ได้ดังมาถึงภูเขาบรรพชนด้านนอกของหลุมฝังศพแห่งลางร้าย หลังจากได้ยินข่าว เสียงโบราณหัวเราะและเอ่ยแสดงความเห็น " เพียงแค่กายาอมตะย่อย รอจนกระทั้งเป็นกายาอมตะขั้นสมบูรณ์ก่อนเช่นนั้นค่อยพูด มันไม่ใช่ว่าบัลลังก์หมื่นกระดูกไม่เคยมีกายาอมตะขั้นสมบูรณ์ "
มันคงฟังดูหยิ่งยโสและดูโง่เงาหากมันเป็นคนอื่นพูด แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเมื่ออกมาจากตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของบัลลังก์ พวกเขานั้นไม่เพียงสร้างจักรพรรดิอมตะ พวกเขายังมีกายาอมตะขั้นสมบูรณ์ มันเป็นหนึ่งในนิกายหายากที่มีคัมภีร์กายาอมตะขั้นสมบูรณ์
สำหรับเทียนหุยหลี่คนที่ยังยืนอยู่ด้านนอกหลุมฝังศพ เขาก็ยังยิ้มอย่างไม่สามารถอ่านได้หลังจากได้ยินฉานหยางมีกายาอมตะย่อย นี้เป็นรอยยิ้มลึกลับเพียงสิ่งนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเขาเชื่อมั่นในตัวเองแม้จะเจอความสำเร็จของฉานหยาง
ปรมจารย์หยินหยงบอกกล่าวเพิ่มเติมเพื่อให้คนอื่นตกตะลึง " ผู้อาวุโสของเมืองบรรพชนจะมาเยี่ยม ในเวลานี้การเปิดของหลุมฝังศพแตกต่างจากอดีต "
เมืองบรรพชนนั้นเป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นโดยดินแดนบรรพชน มันจุดที่หยุดตรวจเหล่าอำนาจและแสดงเจตนารมณ์ของพวกเขา
เมืองบรรพชนนั้นไม่ค่อยได้สนใจความขัดแย้งของเผ่าพันธ์ผี พวกเขานั้นแทบไม่เคยมายังหลุมฝังศพเมื่อมันเปิดก่อนหน้า แต่ในเวลานี้ต่างออกไป ซึ่งน่าตกตะลึงอย่างมากที่พวกเขาจะมา หลายคนรู้สึกว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่
ปรมจารย์หยินหยางและนิกายของเขาตั้งค่ายอยู่ด้านนอกหลุมฝังศพ หลังจากที่พวกเขาตั้งเสร็จ กลุ่มแรกที่พวกเขาไปเยี่ยมไม่ใช่บัลลังก์หมื่นกระดูก แต่เป็นนิกายพันแม่น้ำหวน
นิกายพันแม่น้ำจัดพิธีตอนรับในการมาถึงของพวกเขา แต่ผู้นำนิกายยังนั่งอยู่บนแทนอย่างสบายเมื่อเขาเข้ามา เขาไม่แม้แต่จะมาทักทายเต๋าเบ่ากุ้ย ทำเพียงแค่หยักหน้าเมื่อเจอเท่านั้น
ผู้อาวุโสของนิกายนั้นไม่พอใจกับการแสดงออกของปรมจารย์หยินหยาง แต่เต๋าเบ่ากุ้ยยังคงยิ้มอย่างสบายๆให้กับแขกของเขา
ปรมจารย์จากนั้นก็ถูเชิญไปในห้อง ขณะที่นั่งบนเก้าอี้รูปพยัคฆ์ เขามองลงมายังเต๋าเบ่ากุ้ยและเอ่ย " สหายเต๋าเบ่ากุ้ย ข้าอยากจะเป็นหลี่ฉีเย่ ผู้พิทักษ์ของท่าน "
เหล่าผู้อาวุโสล้วนไม่มีความสุขอย่างมาก พวกเขาอยากจะโยนเจ้าสารเลวนี้ออกไปหากไม่ใช่แขก
ประตูหยินหยางนั้นเป็นเชื้อสายจักรพรรดิ แต่นิกายแม่น้ำก็เช่นกัน พวกเขาเชื่อมันในความแข็งแกร่งของตัวเองและมั่นใจว่าไม่ได้อ่อนแอว่าประตูหยินหยาง
ปรมจารย์หยินหยางนั้นมีลูกชายที่ดีที่ได้เป็นลูกหลานของดินแดนบรรพชน แต่นิกายพันแม่น้ำไม่ได้เกรงกลัวเรื่องนี้ ดินแดนบรรพชนนั้นเป็นเพียงรากฐานของเผ่าพันธ์ผี แต่นิกายพันแม่น้ำหวนรากฐานของมนุษย์และปีศาจ ไม่มีความจำเป็นต้องไว้หน้าดินแดนบรรพชน ! นี้เป็นเหตุผลที่เหล่าผู้อาวุโสล้วนไม่พอใจที่คนจากเผ่าพันธ์ผีมาแสดงความยโส
อย่างไรก็ตาม เต๋าเบ่ากุ้ยยังคงส่ายหัวและยิ้มอย่างอารมณ์ดี " ข้าขออภัย ผู้นำประตูหยินหยาง ผู้พิทักษ์ของพวกเขานั้นกำลังเก็บตัวบ่มเพาะและไม่อยากยุ่งกับผู้ใด "
" เขาจะต้องออกมาแม้ว่าจะไม่ต้องการก็ตาม ! " ปรมจารย์หยินหยางตะโกนเสียง จากนั้นเขาก็ประกาศ " นี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะตัดสินใจ ! "
ทัศนคติของเหล่าผู้อาวุโสยิ่งกลายเป็นร้ายแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเหล่าคนที่สนับสนุนหลี่ฉีเย่อย่างผู้อาวุโสสูงสุดหยาง คนที่สนับสนุนหลี่ฉีเย่มาตลอด ผู้อาวุโสหยางยิ้มและเอ่ย " ผู้นำประตูหยินหยาง เกี่ยวกับสถานะ ผู้พิทักษ์ของพวกเรานั้นมีตำแหน่งสูงกว่าผู้นำนิกายและผู้อาวุโส มันไม่ยากหากอยากจะพบผู้พิทักษ์ของพวกเรา ไปบอกให้บรรพชนของนิกายท่านมาด้วยตัวเอง บางทีผู้พิทักษ์ของพวกเราอาจจะออกมา ! "
" บางทีนิกายพันแม่น้ำหวนของพวกเจ้าคงอยากจะเป็นศัตรูกับเผ่าพันธ์ผีของพวกเรามาก ? " ปรมจารย์หยินหยางเอ่ยอย่างเย็นชาและมืดมน " ข้ามาในฐานะตัวแทนของเมืองบรรพชน ! "
การแสดงออกของผู้อาวุโสสูงสุดหยางเปลี่ยนเป็นเย็นชา ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายแม่น้ำ เขานั้นเป็นปรมจารย์ที่หายากในปัจจุบันและไม่เคยถูกรบกวนอารมณ์
" เมืองบรรพชนแล้วยังไง ? " ในเวลานี้เสียงที่ดูเกียจคร้านดังออกมา " ข้าไม่ได้เห็นมันอยุ่ในสายตา การเป็นศัตรูกับเผ่าพันธ์ผีทั้งหมดล้วนไม่เห็นมีอะไรยาก มันไม่ใช่สิ่งที่ข้าไม่เคยทำมาก่อน ข้าเป็นพวกชอบฆ่าทุกคนที่มันกล้าขว้างทางข้า ดังนั้นหากเผ่าพันธ์ผีของเจ้าจะมาสักล้านตัว ข้าก็ยินดีที่จะฆ่าพวกมันล้านตัว ! "
ในเวลานี้หลี่ฉีเย่เดินออกมาพร้อมกับหลานอวิ๋นจู เหล่าผู้อาวุโสยืนขึ้นเพื่อทักทายเขา
เต๋าเบ่ากุ้ยยิ้มและเอ่ย " นายน้อยบ่มเพาะเสร็จแล้ว "
" ข้าเพียงตั้งใจออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ แต่ข้าได้ยินว่ามีคนมาโอ้อวดอย่างไร้ยางอายที่นี่ จึงออกมาดู " หลี่ฉีเย่นั่งลตำแหน่งตรงข้ามกับปรมจารย์หยินหยาง
เหล่าศิษย์คนที่ถือที่นั่งของปรมจารย์หยินหยางอยู่ตะโกนใส่หลี่ฉีเย่ " เจ้าเด็กน้อย เลิกทำท่าอวดดีได้แล้ว ! "
หลี่ฉีเย่ขี้เกียจเกินไปที่จะมองไปยังศิษย์ดังกล่าวและเอ่ย " กล้าที่จะตะโกนต่อหน้าข้า ? ตบปากมัน "
" ปัง ! ปัง ! " เสียงตบดังสนั่นออกมา หลานอวิ่นจูคนที่ยืนอยู่ด้านข้างของหลี่ฉีเย่เขาไปตบศิษย์อ้วนดังกล่าวสองของ แม้แต่ปรมจารย์หยินหยางก็หยุดไม่ทัน !
การแสดงออกของปรมจารย์กลายเป็นน่าเกลียดอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเพียงศิษย์ที่ถือที่นั่งมันก็ยังเป็นคนที่อยู่ในอำนาจของเขา ตอนนี้หลานอวิ๋นจูตบมันต่อหน้าเขา - นี้เป็นการไม่ไว้หน้ากันสักนิดเดียว ปรมจารย์คำรามก้อง " เจ้าไม่รู้ความยิ่งของสวรรค์และปฐ.."
หลี่ฉีเย่เอ่ยขัดอย่างไม่แยแส " ความยิ่งใหญ่ของสวรรค์และไม่ได้เป็นปัญหากับข้า และไม่ว่าปฐพีจะหนาแค่ไหน ข้าก็ทำลายมันได้ด้วยหนึ่งการกระทืบ " เขากล่าวอย่างสงบ " ในเก้าชั้นฟ้าและสิบแผ่นดิน บิดาของเจ้าคนนี้สามารถมาและไปได้ทุกที่ที่ข้าต้องการ หากเจ้าไม่มีอะไรจะเอ่ย เช่นนั้นก็ไสหัวไป อย่าได้มาทำตัวยโสในเขตแดนของข้า รีบไสก้นของเจ้าออกไปให้ไกล ! "
คำหยาบคายและความโอหังจากคำพูดของหลี่ฉีเย่ ต่างทำให้ผู้อาวุโสของนิกายพันแม่น้ำหวน อ้าปากค้างและดวงตาเบิกกว้าง คนที่มีสถานะเช่นนั้นเขาปกติแล้วไม่ควรพูดหยาบคายและหยิ่งยโสเช่นนี้
ปรมจารย์หยินหยางเต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะชี้ไปที่หลี่ฉีเย่และตะโกน " เจ้าเด็กน้อย นี้เจ้า...! "
หลี่ฉีเย่เบื่อหน่ายก่อนจะลุกขึ้นยืนและบอกกับเต๋าเบ่ากุ้ย " ผู้นำนิกาย ส่งแขกของเรา เวลาของข้านั้นมีค่าและไม่อยากเสียมันไปกับขยะ "
เต๋าเบ่ากุ้ยนั้นไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ความก้าวร้าวของหลี่ฉีเย่ไม่ใช่มารยาทที่ดีของนิกายทรงอำนาจ แต่เหล่าผู้อาวุโสล้วนมีความสุขที่ได้เห็นปรมจารย์หยินหยางโกรธ พวกเขานั้นไม่มีความสุขอยากมากกกับคำกล่าวของปรมจารย์ แต่เป็นเพราะสถานะพวกเขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากหุบปาก คำกล่าวของหลี่ฉีเย่ทำให้พวกเขามีความสุข
" หยุด ! " เห็นหลี่ฉีเย่กำลังจะจากไป ปรมจารย์หยินหยางรีบยืนขึ้น พลังงานในสายเลือดของเขาและเบิดออกมาและดูเหมือนจะโจมตี
เมื่อเห็นท่าทางของปรมจารย์ว่าเขากำลังจะโจมตีหลี่ฉีเย่ ผู้อาวุโสหยางยืนขึ้นและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " โอ้ว ? ปรมจารย์หยินหยางท่านต้องการจะทำอะไรรึ ? ชายแก่คนนี้นั้นมีความสุขที่จะให้ความเพลิดเพลินกับท่าน ข้าสงสัยจริงๆว่าความสามารถของปรมจารย์หยินยางนี้ไปถึงระดับบรรพชนเที่ยงธรรมหรือยัง ? "
ผู้อาวุโสหยางนั้นเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกาย พลังอำนาจของเขาจัดอยู่ในระดับที่ไม่สามารถจินตนาการได้ ผู้นำนิกายยังไม่กล้ายั่วยุเขา แม้แต่ผู้นำนิกายจากเชื้อสายจักรพรรดริอื่นก็ยังไม่กล้า
ปรมจารย์หยินหยางนั้นรู้สึกกดดันอย่างมาก นี้คืออาณาเขตของนิกายพันแม่น้ำหวนและผู้อาวุโสสูงสุดทุกคนล้วนอยู่ที่นี่ เขาจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอนหากเกินการต่อสู้ขึ้น แต่เขาพบว่ามันยากที่จะกลืนความโกรธนี้
" พวกเจ้าฟังไว้ให้ดี " ปรมจารย์หยินหยางเอ่ยอย่างเย็นชา " ดินแดนบรรพชนต้องการกุญแจเปิดหลุมฝังศพแห่งล้างร้าย หากนิกายพันแม่น้ำหวนไม่ส่งมอบมาให้ เช่นนั้นหมายถึงสงคราม ! "
เมื่อฉานหยางเข้าไปยังดินแดนบรรพชน ชื่อเสียงของเขา , ความสามารถ และความสำเร็จของเขาทำให้เขาเทียบได้กับตี๋เชาและเทียนหุยหลี่ ตอนนี้ด้วยการประสบความสำเร็จกายาย่อยขั้นสมบูรณ์ ผู้คนจะไม่รู้สึกหวาดกลัวได้อย่างไรหลังจากได้ยินเรื่องนี้ ?
หากสำเร็จกายาอมตะขั้นสมบูรณ์แล้ว เช่นนั้นแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นจักพรรดริอมตะ เขาก็ยังเป็นตัวตนอมตะที่น่าะพรึงกลัว
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ เผ่าพันธ์ผีได้รับรู้ถึงศักยภาพของประตูหยินหยาง ลูกชายของปรมจารย์หยินหยางนั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก ไม่เพียงแต่จะได้รับการยอมรับจากดินแดนบรรพชน แต่เขาอาจจะประสบความสำเร็จในกายาอมตะขั้นสมบูรณ์ในอนาคตอีกด้วย
ตำแหน่งของผู้นำนิกายและและนิกายของเขาได้ยกระดับขึ้นสูงอีกครั้ง
" กยายาอมตะย่อยขั้นสมบูรณ์ ! " ความจริง หลังจากข่าวนี้ออกมา หลายคนสั่นสะท้าน เผ่าพันธ์ผีและเผ่ามนุษย์ล้วนอยู่ไม่สุข
" บะ..บางที เงาของฉานหยางอาจจะเหนือกว่าเทียนหุยหลี่และตี๋เชา หรือเขาจะเป็นผู้นำในสามวีรบุรุษ ? " บางคนอดไม่ได้ที่จะพึมพำ
นับตั้งแต่ฉานหยางเข้าสู่ดินแดนบรรพชน เขานั้นก็หายไปจากโลกเป็นเวลานาน ในเวลาตี๋เชาได้กวาดล้างศัตรูของเขาด้วยการต่อสู้ที่ทรงเกียรติ ดังนั้นเขาจึงมีชื่อเสียงมากกว่าเทียนหุยหลี่และฉานหยาง
แต่ตอนนี้ ข่าวเกี่ยวกับการสำเร็จกายาอมตะย่อยขั้นสมบูรณ์ได้กระจายออกไป ผู้คนตระหนักได้ว่าแม้ว่าเขาจะยังอยู่ในดินแดนบรรพชน มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอ่อนแอกว่าตี๋เชาและเทียนหุยหลี่ บางทีกายาอมตะย่อยขั้นสมบูรณ์ของเขาอาจจะเพิ่มช่องว่างระหว่างเขาและอีกสองคนด้วยซ้ำ !
ข่าวนี้ได้ดังมาถึงภูเขาบรรพชนด้านนอกของหลุมฝังศพแห่งลางร้าย หลังจากได้ยินข่าว เสียงโบราณหัวเราะและเอ่ยแสดงความเห็น " เพียงแค่กายาอมตะย่อย รอจนกระทั้งเป็นกายาอมตะขั้นสมบูรณ์ก่อนเช่นนั้นค่อยพูด มันไม่ใช่ว่าบัลลังก์หมื่นกระดูกไม่เคยมีกายาอมตะขั้นสมบูรณ์ "
มันคงฟังดูหยิ่งยโสและดูโง่เงาหากมันเป็นคนอื่นพูด แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเมื่ออกมาจากตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของบัลลังก์ พวกเขานั้นไม่เพียงสร้างจักรพรรดิอมตะ พวกเขายังมีกายาอมตะขั้นสมบูรณ์ มันเป็นหนึ่งในนิกายหายากที่มีคัมภีร์กายาอมตะขั้นสมบูรณ์
สำหรับเทียนหุยหลี่คนที่ยังยืนอยู่ด้านนอกหลุมฝังศพ เขาก็ยังยิ้มอย่างไม่สามารถอ่านได้หลังจากได้ยินฉานหยางมีกายาอมตะย่อย นี้เป็นรอยยิ้มลึกลับเพียงสิ่งนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าเขาเชื่อมั่นในตัวเองแม้จะเจอความสำเร็จของฉานหยาง
ปรมจารย์หยินหยงบอกกล่าวเพิ่มเติมเพื่อให้คนอื่นตกตะลึง " ผู้อาวุโสของเมืองบรรพชนจะมาเยี่ยม ในเวลานี้การเปิดของหลุมฝังศพแตกต่างจากอดีต "
เมืองบรรพชนนั้นเป็นป้อมปราการที่สร้างขึ้นโดยดินแดนบรรพชน มันจุดที่หยุดตรวจเหล่าอำนาจและแสดงเจตนารมณ์ของพวกเขา
เมืองบรรพชนนั้นไม่ค่อยได้สนใจความขัดแย้งของเผ่าพันธ์ผี พวกเขานั้นแทบไม่เคยมายังหลุมฝังศพเมื่อมันเปิดก่อนหน้า แต่ในเวลานี้ต่างออกไป ซึ่งน่าตกตะลึงอย่างมากที่พวกเขาจะมา หลายคนรู้สึกว่ามีบางอย่างซ่อนอยู่
ปรมจารย์หยินหยางและนิกายของเขาตั้งค่ายอยู่ด้านนอกหลุมฝังศพ หลังจากที่พวกเขาตั้งเสร็จ กลุ่มแรกที่พวกเขาไปเยี่ยมไม่ใช่บัลลังก์หมื่นกระดูก แต่เป็นนิกายพันแม่น้ำหวน
นิกายพันแม่น้ำจัดพิธีตอนรับในการมาถึงของพวกเขา แต่ผู้นำนิกายยังนั่งอยู่บนแทนอย่างสบายเมื่อเขาเข้ามา เขาไม่แม้แต่จะมาทักทายเต๋าเบ่ากุ้ย ทำเพียงแค่หยักหน้าเมื่อเจอเท่านั้น
ผู้อาวุโสของนิกายนั้นไม่พอใจกับการแสดงออกของปรมจารย์หยินหยาง แต่เต๋าเบ่ากุ้ยยังคงยิ้มอย่างสบายๆให้กับแขกของเขา
ปรมจารย์จากนั้นก็ถูเชิญไปในห้อง ขณะที่นั่งบนเก้าอี้รูปพยัคฆ์ เขามองลงมายังเต๋าเบ่ากุ้ยและเอ่ย " สหายเต๋าเบ่ากุ้ย ข้าอยากจะเป็นหลี่ฉีเย่ ผู้พิทักษ์ของท่าน "
เหล่าผู้อาวุโสล้วนไม่มีความสุขอย่างมาก พวกเขาอยากจะโยนเจ้าสารเลวนี้ออกไปหากไม่ใช่แขก
ประตูหยินหยางนั้นเป็นเชื้อสายจักรพรรดิ แต่นิกายแม่น้ำก็เช่นกัน พวกเขาเชื่อมันในความแข็งแกร่งของตัวเองและมั่นใจว่าไม่ได้อ่อนแอว่าประตูหยินหยาง
ปรมจารย์หยินหยางนั้นมีลูกชายที่ดีที่ได้เป็นลูกหลานของดินแดนบรรพชน แต่นิกายพันแม่น้ำไม่ได้เกรงกลัวเรื่องนี้ ดินแดนบรรพชนนั้นเป็นเพียงรากฐานของเผ่าพันธ์ผี แต่นิกายพันแม่น้ำหวนรากฐานของมนุษย์และปีศาจ ไม่มีความจำเป็นต้องไว้หน้าดินแดนบรรพชน ! นี้เป็นเหตุผลที่เหล่าผู้อาวุโสล้วนไม่พอใจที่คนจากเผ่าพันธ์ผีมาแสดงความยโส
อย่างไรก็ตาม เต๋าเบ่ากุ้ยยังคงส่ายหัวและยิ้มอย่างอารมณ์ดี " ข้าขออภัย ผู้นำประตูหยินหยาง ผู้พิทักษ์ของพวกเขานั้นกำลังเก็บตัวบ่มเพาะและไม่อยากยุ่งกับผู้ใด "
" เขาจะต้องออกมาแม้ว่าจะไม่ต้องการก็ตาม ! " ปรมจารย์หยินหยางตะโกนเสียง จากนั้นเขาก็ประกาศ " นี้ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะตัดสินใจ ! "
ทัศนคติของเหล่าผู้อาวุโสยิ่งกลายเป็นร้ายแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเหล่าคนที่สนับสนุนหลี่ฉีเย่อย่างผู้อาวุโสสูงสุดหยาง คนที่สนับสนุนหลี่ฉีเย่มาตลอด ผู้อาวุโสหยางยิ้มและเอ่ย " ผู้นำประตูหยินหยาง เกี่ยวกับสถานะ ผู้พิทักษ์ของพวกเรานั้นมีตำแหน่งสูงกว่าผู้นำนิกายและผู้อาวุโส มันไม่ยากหากอยากจะพบผู้พิทักษ์ของพวกเรา ไปบอกให้บรรพชนของนิกายท่านมาด้วยตัวเอง บางทีผู้พิทักษ์ของพวกเราอาจจะออกมา ! "
" บางทีนิกายพันแม่น้ำหวนของพวกเจ้าคงอยากจะเป็นศัตรูกับเผ่าพันธ์ผีของพวกเรามาก ? " ปรมจารย์หยินหยางเอ่ยอย่างเย็นชาและมืดมน " ข้ามาในฐานะตัวแทนของเมืองบรรพชน ! "
การแสดงออกของผู้อาวุโสสูงสุดหยางเปลี่ยนเป็นเย็นชา ในฐานะผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายแม่น้ำ เขานั้นเป็นปรมจารย์ที่หายากในปัจจุบันและไม่เคยถูกรบกวนอารมณ์
" เมืองบรรพชนแล้วยังไง ? " ในเวลานี้เสียงที่ดูเกียจคร้านดังออกมา " ข้าไม่ได้เห็นมันอยุ่ในสายตา การเป็นศัตรูกับเผ่าพันธ์ผีทั้งหมดล้วนไม่เห็นมีอะไรยาก มันไม่ใช่สิ่งที่ข้าไม่เคยทำมาก่อน ข้าเป็นพวกชอบฆ่าทุกคนที่มันกล้าขว้างทางข้า ดังนั้นหากเผ่าพันธ์ผีของเจ้าจะมาสักล้านตัว ข้าก็ยินดีที่จะฆ่าพวกมันล้านตัว ! "
ในเวลานี้หลี่ฉีเย่เดินออกมาพร้อมกับหลานอวิ๋นจู เหล่าผู้อาวุโสยืนขึ้นเพื่อทักทายเขา
เต๋าเบ่ากุ้ยยิ้มและเอ่ย " นายน้อยบ่มเพาะเสร็จแล้ว "
" ข้าเพียงตั้งใจออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ แต่ข้าได้ยินว่ามีคนมาโอ้อวดอย่างไร้ยางอายที่นี่ จึงออกมาดู " หลี่ฉีเย่นั่งลตำแหน่งตรงข้ามกับปรมจารย์หยินหยาง
เหล่าศิษย์คนที่ถือที่นั่งของปรมจารย์หยินหยางอยู่ตะโกนใส่หลี่ฉีเย่ " เจ้าเด็กน้อย เลิกทำท่าอวดดีได้แล้ว ! "
หลี่ฉีเย่ขี้เกียจเกินไปที่จะมองไปยังศิษย์ดังกล่าวและเอ่ย " กล้าที่จะตะโกนต่อหน้าข้า ? ตบปากมัน "
" ปัง ! ปัง ! " เสียงตบดังสนั่นออกมา หลานอวิ่นจูคนที่ยืนอยู่ด้านข้างของหลี่ฉีเย่เขาไปตบศิษย์อ้วนดังกล่าวสองของ แม้แต่ปรมจารย์หยินหยางก็หยุดไม่ทัน !
การแสดงออกของปรมจารย์กลายเป็นน่าเกลียดอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเพียงศิษย์ที่ถือที่นั่งมันก็ยังเป็นคนที่อยู่ในอำนาจของเขา ตอนนี้หลานอวิ๋นจูตบมันต่อหน้าเขา - นี้เป็นการไม่ไว้หน้ากันสักนิดเดียว ปรมจารย์คำรามก้อง " เจ้าไม่รู้ความยิ่งของสวรรค์และปฐ.."
หลี่ฉีเย่เอ่ยขัดอย่างไม่แยแส " ความยิ่งใหญ่ของสวรรค์และไม่ได้เป็นปัญหากับข้า และไม่ว่าปฐพีจะหนาแค่ไหน ข้าก็ทำลายมันได้ด้วยหนึ่งการกระทืบ " เขากล่าวอย่างสงบ " ในเก้าชั้นฟ้าและสิบแผ่นดิน บิดาของเจ้าคนนี้สามารถมาและไปได้ทุกที่ที่ข้าต้องการ หากเจ้าไม่มีอะไรจะเอ่ย เช่นนั้นก็ไสหัวไป อย่าได้มาทำตัวยโสในเขตแดนของข้า รีบไสก้นของเจ้าออกไปให้ไกล ! "
คำหยาบคายและความโอหังจากคำพูดของหลี่ฉีเย่ ต่างทำให้ผู้อาวุโสของนิกายพันแม่น้ำหวน อ้าปากค้างและดวงตาเบิกกว้าง คนที่มีสถานะเช่นนั้นเขาปกติแล้วไม่ควรพูดหยาบคายและหยิ่งยโสเช่นนี้
ปรมจารย์หยินหยางเต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนจะชี้ไปที่หลี่ฉีเย่และตะโกน " เจ้าเด็กน้อย นี้เจ้า...! "
หลี่ฉีเย่เบื่อหน่ายก่อนจะลุกขึ้นยืนและบอกกับเต๋าเบ่ากุ้ย " ผู้นำนิกาย ส่งแขกของเรา เวลาของข้านั้นมีค่าและไม่อยากเสียมันไปกับขยะ "
เต๋าเบ่ากุ้ยนั้นไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ความก้าวร้าวของหลี่ฉีเย่ไม่ใช่มารยาทที่ดีของนิกายทรงอำนาจ แต่เหล่าผู้อาวุโสล้วนมีความสุขที่ได้เห็นปรมจารย์หยินหยางโกรธ พวกเขานั้นไม่มีความสุขอยากมากกกับคำกล่าวของปรมจารย์ แต่เป็นเพราะสถานะพวกเขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากหุบปาก คำกล่าวของหลี่ฉีเย่ทำให้พวกเขามีความสุข
" หยุด ! " เห็นหลี่ฉีเย่กำลังจะจากไป ปรมจารย์หยินหยางรีบยืนขึ้น พลังงานในสายเลือดของเขาและเบิดออกมาและดูเหมือนจะโจมตี
เมื่อเห็นท่าทางของปรมจารย์ว่าเขากำลังจะโจมตีหลี่ฉีเย่ ผู้อาวุโสหยางยืนขึ้นและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " โอ้ว ? ปรมจารย์หยินหยางท่านต้องการจะทำอะไรรึ ? ชายแก่คนนี้นั้นมีความสุขที่จะให้ความเพลิดเพลินกับท่าน ข้าสงสัยจริงๆว่าความสามารถของปรมจารย์หยินยางนี้ไปถึงระดับบรรพชนเที่ยงธรรมหรือยัง ? "
ผู้อาวุโสหยางนั้นเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกาย พลังอำนาจของเขาจัดอยู่ในระดับที่ไม่สามารถจินตนาการได้ ผู้นำนิกายยังไม่กล้ายั่วยุเขา แม้แต่ผู้นำนิกายจากเชื้อสายจักรพรรดริอื่นก็ยังไม่กล้า
ปรมจารย์หยินหยางนั้นรู้สึกกดดันอย่างมาก นี้คืออาณาเขตของนิกายพันแม่น้ำหวนและผู้อาวุโสสูงสุดทุกคนล้วนอยู่ที่นี่ เขาจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอนหากเกินการต่อสู้ขึ้น แต่เขาพบว่ามันยากที่จะกลืนความโกรธนี้
" พวกเจ้าฟังไว้ให้ดี " ปรมจารย์หยินหยางเอ่ยอย่างเย็นชา " ดินแดนบรรพชนต้องการกุญแจเปิดหลุมฝังศพแห่งล้างร้าย หากนิกายพันแม่น้ำหวนไม่ส่งมอบมาให้ เช่นนั้นหมายถึงสงคราม ! "
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น