ตอนที่ 432 สังหารหมู่

เจ้าชายแสงจันทร์หยินนำกลุ่มของศิษย์แสงจันทร์เข้ามาใกล้ ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นกลายเป็นตื่นตระหนกทันที่หลังจากเห็นคนกลุ่มนี้ การมาถึงของเขาแน่นอว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นางสุดท้ายก็เข้าใจได้ว่าทำไมขุนนางน้อยเมฆทมิฬจึงไม่มีทีท่าเกรงกลัว



หลี่ฉีเย่ทำเพียงยิ้มหลักจากเห็นการปรากฏตัวของเจ้าแสงจันทร์หยินและกลุ่มของเขา เขานั้นไม่ได้โกรธ ฉากละครบทนี้นั้นไม่สามารถรอดจากสายตาเขาไปได้ หลี่ฉีเย่เห็นเล่ห์กลต่างๆบทโลกมามาก ดังนั้นการแสดงละครเล็กๆน้อยๆของเจ้าไม่ได้ทำให้เขากังวล



ฉิวหรงว่านเสวี่ยสายตากลายเป็นเย็นชาก่อนจะเอ่ยถามอย่างจริงจัง " เจ้าชายแสงจันทร์หยิน เผ่าแสงจันทร์หยินของท่านต้องการจะยุ่งเรื่องนี้ด้วย ? "



เจ้าชายแสงจันทร์ยิ้นนั้นยิ้มอย่างมั่นใจและเอ่ย " แม่นางฉิวหรง ข้านั้นเป็นศิษย์ของเผ่าแสงจันทร์หยินดังนั้นข้าจึงไม่ลำเอียงข้างฝ่ายใด ข้าได้ยินบทสนทนาระหว่างพวกเจ้าทั้งสอง แม้ว่าแม่นางฉิวหรงจะคิดว่านั้นเพียงการกล่าวหาข้างเดียวจากกลุ่มของขุนนางน้อยเมฆทมิฬ..."



" หากมีคนขโมยสมบัติของเผ่าเมฆทมิฬไป เช่นนั้นข้าคงไม่สามารถปล่อยเรื่องนี้ไปได้ " เจ้าชายแสงจันทร์หยินเอ่ยอย่างสบายๆ " นอกจากนี้มันยังเป็นว่าแม่นางฉิวหรงไม่ต้องการให้ขุนนางน้อยเมฆทมิฬพาเขาไปเพราะว่าเขานั้นเป็นแขกของเผ่าท่าน "



เอ่ยถึงตอนนี้เขาก็ไอเล็กน้อยและเอ่ย " ทว่าสถานการณ์เช่นนี้นั้นเป็นความขัดแย้งของทั้งสองฝั่ง เอาเช่นนี้เป็นอย่างไร ข้าจะเป็นคนตัดสินเรื่องนี้เอง หากนายน้อยหลี่ไม่ได้ขโมยสิ่งใดไปจากเผ่าเมฆทมิฬจริง เช่นนั้นโปรดนำสิ่งของออกมาเป็นประกันไว้ "



" เจ้าหมายความว่าอย่างไรที่ให้นำของมาเป็นประกัน !? " ศิษย์ของเผ่าเงาหิมะอดไม่ได้ที่จะแค่นเสียง การปรากฏตัวของเผ่าแสงจันทน์หยินนั้นไม่ดีต่อหลี่ฉีเย่อย่างมาก



เจ้าชายแสงจันทร์หยินยิ้มและเอ่ย " ในเมื่อที่นี้เป็นสุสานใหญ่ พวกเราควรจะนำสิ่งของในสุสานใหญ่มาเป็นเครื่องประกัน นายน้อยหลี่จับปลาหยางราตรีและเต่าแปลกๆได้ก่อนหน้า เช่นนั้นพวกเราสามารถใช้พวกมัน หากเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์เช่นนั้นของเหล่านี้จะกลับคืนสู่นายน้อยหลี่ แน่นอนว่าหากเจ้าหนีไปพวกเราจะใช้ของเหล่าหนีชดเชยให้กับเผ่าเมฆทมิฬ ขณะเดียวกันแม่นางฉิวหรงก็ไม่ต้องรับผิดชอบสิ่งใด "



เขายิ้มและเอ่ยถามฉิวหรงว่านเสวี่ย " ท่านเห็นด้วยหรือไม่ แม่นางฉิวหรง ? "



ในฐานะหัวหน้าเผ่า ฉิวหรงว่านเสวี่ยเข้าได้ใจทันทีว่าทั้งหมดนี้เป็นกับดึกที่เจ้าชายและขุนนางน้อยสร้างขึ้นมา หลังจากกล่าวทุกอย่างเป็นวงกลม จุดประสงค์ของพวกเขาก็คือเต่าของหลี่ฉีเย่ มันมีเพียงปลาหยางราตรีในทะเลราตรีดั้งนั้นการปรากฏตัวของเต่านี้จะต้องน่าตกตะลึงอย่างแน่นอน นี้จึงสร้างความโลภให้กับเจ้าชายแสงจันทร์หยิน



ฉิวหรงว่านเสวี่ยส่ายหัวของนางและเอ่ยอย่างรุนแรง " เจ้าชายแสงจันทร์หยิน พวกเราไม่สามารถปล่อยสมบัติของนายน้อยหลี่ให้ได้เพียงเพราะคำกล่าวของขุนนางน้อยเมฆทมิฬฝ่ายเดียว หากท่านต้องการเป็นผู้ตัดสิน เช่นนั้นเผ่าเงาหิมะของพวกเราก็ยินดีจะเข้าร่วม นางน้อยหลี่นั้นเป็นแขกของเผ่าเรา หากเผ่าเมฆทมิฬมีหลังฐานจริงเช่นนั้นก็มาตัดสินที่เผ่าข้า "



" แม่นางฉิวหรง เจ้าไม่ควรจะทำอย่างนี้ " เจ้าชายแสงจันทร์หยินส่ายหัวและเอ่ย " ข้าเชื่อเจ้า แต่ไม่ได้หมายความว่าข้าเชื่อใจมนุษย์ หากเขาไม่นำสิ่งของใดออกมาเป็นประกัน เช่นนั้นข้าก็ต้องตามข้ากลับไป "



กลุ่มของเผิงจางทั้งหกกลายเป็นโกรธและจ้องหน้าเจ้าชาย เจ้าชายชัดเจนแล้วว่าเขาต้องการจะใส่ร้ายหลี่ฉีเย่



ฉิวหรงว่านเสวี่ยทันใดนั้นก็เคลื่อนไหวไปด้านหน้าของหลี่ฉีเย่และเอ่ยอย่างจริงจัง " เจ้าชายแสงจันทร์หยิน เผ่าของเราจะรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของแขก พวกเราไม่อนุญาติให้ใครนำเข้าไป ! "



การแสดงออกของเจ้าชายแสงจันทร์หยินนั้นกลายเป็นเย็นชาและเอ่ย " แม่นางฉิวหรง ข้าชอบเจ้าและข้าอยากจะช่วย แต่เรื่องนี้ไม่ควรทำให้มันยุ่งยาก หากเจ้าปกป้องหัวขโมยมนุษย์นี้ แม้ว่าข้าจะเต็มไปใจช่วยแต่ผู้อาวุโสของเผ่าจะต้องตั้งคำถามกับข้า หากเผ่าของเจ้าชวยมนุษย์เช่นนั้นเจ้าจะไม่มีที่อยู่ในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ ตอนนั้นมันจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากอย่างมาก และเจ้าจะต้องชดใช้อย่างมหาศาล ! "



" นี้เจ้ากำลังขู่ข้า ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยอุทานด้วยความโกรธ แม้ว่าเผ่าเงาหิมะของนางจะอ่อนแอ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมาดูถูกศักดิ์ศรีของนางได้



หลี่ฉีเย่มองไปยังฉิวหรงว่านเสวี่ยที่กำลังทำตัวราวกับมารดาปกป้องบุตร เขาเพียงจับไปที่ไหล่ของนางและอมยิ้มเอ่ย " หัวหน้าฉิงหรง ปล่อยเรื่องเล็กน้อยนี้ให้ข้าจัดการเถอะ "



" แต่ว่า..." ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ยอย่างกังวล



หลี่ฉีเย่โบกมือให้นางหยุดก่อนจะก้าวไปข้างหน้า เขามองไปยังกลุ่มของเจ้าชายแสงจันทร์หยินและเอ่ยช้าๆ " ข้ามีสองทางให้พวกเจ้าเลือก ไสหัวไปหรือให้ข้าฆ่าพวกเจ้าทิ้ง! ทางเลือกที่ฉลาดก็คือควรจะหนีไป เพราะหากเจ้าทำให้ข้าโกรธจริงๆ ข้าจะทำลายเผ่าของพวกเจ้าทั้งหมด ! "



กลุ่มของเผิงจางกลายเป็นตกตะลึง คำกล่าวของหลี่ฉีเย่นั้นหยิ่งยโสและเอาแต่ใจเกินไป ขณะที่ฉิวหรงว่านเสวี่ยเริ่มที่จะกังวล หลี่ฉีเย่ยังคงไม่แยแสแม้ว่าจะยืนอยู่ต่อหน้าศัตรูของเขา



สำหรับฉิวหรงว่านเสวี่ยเผ่าเมฆทมิฬนั้นไม่นับเป็นตัวอันใด แต่เผ่าแสงจันทร์หยินนั้นไม่ง่ายที่จะจัดการ เพียงตัวของเจ้าชายนั้นไม่แข็งแกร่งแต่เป็นเผ่าของเขาที่อยู่ด้านหลัง - กองกำลังของประเทศ



เจ้าชายแสงจันทร์หยินกลายเป็นโกรธเกรี้ยวหลังจาได้ยินคำกล่าวของหลี่ฉีเย่ " เจ้าโง่ ! เจ้าเลือกทีจะไม่สนใจเส้นทางไปสู่สวรรค์และเดินลงนรก..." กล่าวเสร็จเขาก็ระเบิดพลังงานในสายเลือดและปลดปล่อยพลัง



แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบของเขาก็ถูกจับโดยหลี่ฉีเย่และถูกยกขึ้นสูง



ความเร็วของหลี่ฉีเย่นั้นเร็วเกินไปและไม่มีใครเห็นการกระทำของเขาอย่างชัดเชน พวกเขาเห็นเพียงเจ้าชายถูกหลี่ฉีเย่จับไว้แล้ว



" หยุดเขาซะ ! " ศิษย์จากเผ่าแสงจันทร์หยินตะโกนราวกับเห็นฉากสยองขวัญ ศิษย์ทุกคนนำอาวุธออกมาและโจมตีหลี่ฉีเย่



หลี่ฉีเย่ขี้เกียจเกินไปที่มองไปยังคนกลุ่มนี้เขาเพียงขยับฝ่ามือเบาๆ ฝ่ามือขนาดยักษ์กดลงมาจากชั้นฟ้าและโจมตีกลุ่มศิษย์



" โผละ ! " เหล่าศิษย์คนมี่มีสมบัติถือยู่ในมือไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น จนสุดท้ายเพียงเขาทำได้เพียงตายและกลายเป็นแอ่งเลือดด้วยฝ่ามือของหลี่ฉีเย่



การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง ใบหน้าของเจ้าชายแสงจันทร์หยินที่ถูกจับคออยู่กลายเป็นซีดขาวและฉี่ใส่กางเกงของเขา



" หากเจ้า...เจ้า...ต่อต้านเผ่าพันธ์ผี..ในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์..จะไม่เห็นอภัยเจ้า.." เจ้าชายแสงจันทร์หยินนั้นเต็มไปด้วยความกลัวขณะพูดติดอ่าง



หลี่ฉีเย่จองมองเขาและเอ่ยอย่างสบายๆ " ต่อต้านเผ่าพันธ์ผี ? เผ่ากระจอกอย่างเผ่าแสงจันทร์ไม่มีคุณสมบัติพอจะเป็นศัตรูข้า นอกจากนี้หากเป็นศัตรูกับเผ่าพันธ์ผีแล้สยังไง ? ไม่ต้องกล่าวถึงเผ่าพันธ์ผี กระทั้งเทพหรือตัวตนอมตะ หากพวกมันกล้าขว้างทางข้า ข้าก็จะฆ่าพวกมันทิ้งให้หมด ! "



" เจ้า..! " เจ้าชายแสงจันทร์หยินเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ก่อนที่เขาจะเอ่ยสิ่งใด เสียง ' ตุบ ' ก็ดังออกมา นิ้วทั้งห้าของหลี่ฉีเย่บีบเข้าด้วยกันและเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นเศษเนื้อ



" โอ้วแม่เจ้า..พวกเรา..หนี ! " ขุนนางน้อยเมฆทมิฬและศิษย์ของเขาทั้งหมดกลายเป็นหวาดกลัว พวกเขานั้นวิ่งทันทีที่เห็นสถานการณ์นี้่



" ในเมื่อพวกเจ้าอยู่ที่นี่ อย่าได้คิดหนี " หลี่ฉีเย่เอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนจะสะบัดมือออกไป กลุ่มที่หลบหนีออกไปได้ไม่เกินสองกล่าวทันใดนั้นพวกเขาก็กลายเป็นหมอกเลือด



" กล้าเป็นศัตรูกับข้าไม่ใช่ทางเลือกที่ฉลาด " หลังจากจัดการฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดเสร็จ หลี่ฉีเย่ก็ปัดมือของเขาเล็กน้อย สำหรับเขานี้เป็นเพียงเล็กน้อยอย่างแท้จริง



ฉิวหรงว่านเสวี่ยและผู้เยาว์ทั้งหกตกอยุ่ในความหวาดกลัว คนจำนวนมากถูหลี่ฉีเย่ฆ่าตายภายในพริบตา ขุนนางน้อยหรือเจ้าชายไม่มีแม้แต่อำนาจจะต่อต้านหลี่ฉีเย่ พวกเขานั้นไม่ต่างจากมด ไม่สิ อ่อนแอยิ่งกว่ามดเมื่อยู่ต่อหน้าหลี่ฉีเย่



แม้ว่าจะสูดลมหายใจเข้าลึก ฉิวหรงว่านเสวี่ยก็ยังไม่สามารถสงบหัวใจที่สั่นสะท้านของนางได้



ขุนนางน้อยนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง แต่เจ้าชายนั้นเป็นระดับชะตาลี้ลับ พลังของเขานั้นกระทั้งไม่อ่อนแอกว่านาง



กระทั้งชะตาลี้ลับที่ทรงพลังก็ยังไม่ต่างจากมดเมื่อเผชิญหน้ากับหลี่ฉีเย่ คนที่บดขยี้เขาเพียงพริบตา



นี้จะไม่ให้ฉิวหรงว่านเสวี่ยตกตะลึงได้อย่างไร ? พวกเขานั้นรู้จักหลี่ฉีเย่มามากกว่าหนึ่งเดือน แม้ว่าความสามารถในการจับปลาหยางราตรีของเขาจะลึกลับแต่มันก็ยังอยู่เพียงในทะเลราตรี จากมุมมองของนางเขาไม่มีอะไรที่ดูเหมือนผู้เชี่ยวชาญอมตะ



การแสดงออกของหลี่ฉีเย่นั้นธรรมดาอย่างมากและอายุของเขาก็แทบจะไม่ต่างจากลุ่มของเผิงจาง ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ดูไม่เหมือนผู้เชียวชาญ ทว่าวันนี้เขาฆ่าชะตาลี้ลับราวกับมดตัวหนึ่ง สิ่งก็เพียงพอแล้วที่จะจินตนาการถึงระดับการบ่มเพาะของเขา

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้