ตอนที่ 433 ตามข้ามา

ผู้เยาว์ทั้งหกนั้นตกตะลึงกันเป็นเวลานาน เจ้าชายแสงจันทร์ระดับชะตาลี้ลับที่ตายภายในพริบตา นี้มันน่าหวาดกลัวเกินไป พวกเขาเริ่มมองไปยังหลี่ฉีเย่โดยไม่เอ่ยสิ่งใดออกมา



" มันดูเหมือนว่าข้าจะยุ่งมากเกินไป ด้วยความสามารถของเจ้า นายน้อยหลี่คงไม่จำเป็นต้องให้เผ่าของเราปกป้อง " ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม



" ไม่ละ ข้าชื่นชอบความรักที่เจ้ามีให้ " หลี่ฉีเย่มองไปยังผู้หญิงที่สง่างามและทรงเสน่ห์ด้านหน้าก่อนยิ้มให้



ฉิวหรงว่านเสวี่ยทำได้เพียงยิ้มข่มขื่นกับการหยอดล้อของเขา นางนั้นไม่ได้โกรธ จนถึงตอนนี้นางพึงตระหนักได้ว่าความสงสัยที่นางมีต่อหลี่ฉีเย่ก่อนหน้านั้นไร้ประโยชน์เพราะว่าพวกนางไม่มีอะไรคุ้มค่าให้เขาต้องวางแผนมาตีสนิท



ด้วยการคาดการณ์ของนาง หลี่ฉีเย่อาจจะเป็นเซียนบรรพกาล พลังระดับนี้สามารถสร้างความดหวาดกลัวให้กับเผ่าเล็กๆอย่างเงาหิมะได้โดยง่าย



ด้วยพลังระดับนี้ เขาสามารถไปยังเผ่าใดก็ได้ที่เขาต้องการ นางทันใดนั้นก็รู้ได้ว่าที่เขาตามนางมาเพราะเหตุผลเดียว - หลุมฝังศพแห่งลางร้าย



จากนั้นนางก็ถอนหายใจเบาๆ การระมัดระวังหลี่ฉีเย่ก่อนหน้านี้เป็นเพียงเรื่องไร้ประโยชน์ หลี่ฉีเย่ไม่ได้มีเจตนาร้ายและยิ่งกว่านั้น ด้วยความแข็งแกร่งของพวกนางไม่สามารถทำอะไรได้หากเขามีเจตนาร้ายจริงๆ



กลุ่มของเจ้าชายแสงจันทร์หยินเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด เจ้าชายนั้นเป็นลูกหลานของนิกายระดับสอง ชะตาลี้ลับที่ทรงพลัง แต่เขาก็กลายเป็นเพียงมดปลวดเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ฉีเย่



ผู้เยาว์ทั้งหกคนรู้สึกระสับกระส่ายเล็กน้อย เผิงจางรีบเอ่ยอย่างระวัง " นี้...ศิษย์พี่หลี่ ไม่ สหายเต๋าหลี่..." สำหรับพวกเขา ชะตาลี้ลับนั้นแข็งแกร่งอย่างมาก พวกเขาอาจจะกลายเป็นผู้เชียวชาญได้เลยในเผ่าเงาหิมะ แต่ก็ยังนับว่าไม่เป็นตัวอันใดสำหรับหลี่ฉีเย่



ก่อนหน้านี้พวกเขาเรียกหลี่ฉีเย่ว่า ' พี่ชาย ' ไม่ต้องกล่าวถึงพวกเขา กระทั้งผู้อาวุโสหรือหัวหน้าเผ่าก็ต้องเคารพเขาในฐานะปรมจารย์



มันมีความสับสนอยู่ในจิตใจของพวกเขาและทำให้พวกกระสับกระส่าย



" พวกเจ้าสามารถเรียกข้าได้เช่นก่อนหน้า " หลี่ฉีเย่สังเกตเห็นการพูดติดอ่างของเผิงจางและเอ่ย



" เอ่อ...ย่อมได้ " เผิงจางเกาหัวของเขาและฉีกรอยยิ้มโง่งม เขาคิดว่ามันก็ไม่แย่หากจะตีสนิทกับผู้เชียวชาญไว้



" เจ้าเป็นใครกันแน่ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยสูดลมหายใจลึกและเอ่ยถามหลี่ฉีเย่



ทั้งหกนั้นจองไปยังหลี่ฉีเย่ ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าหลี่ฉีเย่เป็นเพียงผู้ฝึกตนพเนจรเดินทางไปมา ทว่าดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น เพียงผู้ฝึกตนพเนจรจะแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร ?



" ข้ารึ ? " หลี่ฉีเย่ชี้ไปที่จมูกของเขาและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ข้าเป็นผู้ฝึกตนมนุษย์จากดินแดนเมฆเหิน ความจริงที่ข้าเป็นใครนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญก็คือข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อพวกเจ้า "



ฉิวหรงว่านเสวี่ยทำได้เพียงฝืนยิ้ม หลี่ฉีเย่นั้นกล่าวถูกต้อง คนที่ทรงพลังเช่นเขาจะต้องมีต้นกำเนิดที่ท้าทายสวรรค์ ไม่มีสำคัญว่าเผ่าเล็กๆอย่างเผ่าเงาหิมะจะรู้ตัวตนเขารู้หรือไม่ อาจจะกล่าวได้ว่าทั้งสองฝ่ายไม่ได้อยู่ระดับเดียวกัน พวกเขามาจากโลกที่ต่างกัน



จากนั้นนางก็ประสานมือและกล่าวอย่างเคร่งขรึม " หากเป็นเช่นนั้น นายน้อยหลี่ พวกเราขอตัวก่อน พวกเราคงได้ได้พบกันอีกครั้ง " นางนั้นต้องการไปส่งเขาช่วงระยะเวลาหนึ่งเพื่อความปลอดภัย แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่จำเป็นแล้ว



" ไม่ " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวและเอ่ย " ฉิวหรง เจ้ามาติดตามข้า "



คำกล่าวเหล่านี้ทำให้ทุกคนกลายเป็นไร้คำพูดรวมถึงตัวฉิวหรงว่านเสวี่ย ผู้เยาว์ทั้งหกนั้นตกตะลึงอย่างสมบูรณ์และเปิดปากก้วาง พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นเงียบ การพัฒนาไปในเส้นทางนี้มันเร็วเกินไป ! จู่ๆเขาก็บอกให้หัวหน้าเผ่าติดตามเขาไป...หรือนี้จะเป็นเหตุการณ์แห่งความสุข ?



ใบหน้าของฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นกลายเป็นเขินอายอย่างมาก จากนั้นนางก็พยามสงบสติและเอ่ย " นายน้อยหลี่ เรื่องนี้นั้นไม่ตลกเลยซักนิด "



หลี่ฉีเย่มองไปยังการแสดงออกของทุกคนและเขาไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือว่าร้องไห้ดี พวกเขาเข้าใจความตั้งใจของเขาผิดไปทั้งหมด



" อ่า...เจ้าเข้าใจผิดแล้เว " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาและเอ่ย " ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น มันเป็นโชคชะตาที่พวกเราได้พบกัน และเจ้ากำลังตามหาสิ่งที่เผ่าสูญหายไปใช่หรือไม่ ? ตอนนี้ไม่ว่าเจ้าจะหาอะไร ติตดามข้าไปยังสุสานใหญ่และข้ามอบการสร้างใหม่ที่ดีให้ เผ่าของเจ้าจะได้ประโยชน์อย่างมากจาเรื่องนี้ "



หลังจากออกจากทะเลราตรี หลี่ฉีเย่ต้องการจะแยกตัวออกจากลุ่มของฉิวหรงว่านเสวี่ย ทว่าเพื่อที่จะปกป้องเขานางไม่สนใจที่จะเป็นศัตรูกับเจ้าชายแสงจันทร์หยิน - นี้ทำให้เขาสั่นไหว สมาชิกของเผ่าพันธ์ผียินดีที่จะปกป้องมนุษย์ เขานั้นชอบทัศนคติของนางและเขาทันใดนั้นก็ถูกกระตุ้นให้อยากพานางไปด้วย



" แน่นอนว่าหากเจ้ายินดีจะติดตามข้าไปชั่วชีวิต เช่นนั้นข้าก็จะคิดเกี่ยวกับมัน " หลี่ฉีเย่มองไปที่รูปร่างที่สง่างามของนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม



กลุ่มของผู้เยาว์ทั้งหกขยิบตาให้กัน ก่อนหน้านี้พวกเขานั้นต้องการให้ทั้งสองใกล้ชิดกัน และดูเหมือนว่าทุกอย่างจะมีแนวโน้มมากขึ้น



มึนงงอยู่ชั่วขณะ ฉิงหรงว่านเสวี่ยก็คิดเกี่ยวกับหลายสิ่ง นอกจากฝึกฝนผู้เยาว์และนำพวกเขามาเปิดหูเปิดตา นางมายังสุสานใหญ่ก็เพื่อที่จะตามหาสิ่งของที่เผ่านางทำหายไป



พวกเขานั้นสูญเสียมันเป็นเวลานานแล้ว ก่อนหน้าฉิวหรงว่านเสวี่ยมีหัวหน้าเผ่าจำนวนมากมายังสุสานใหญ่เพื่อค้น ทว่าพวกเขาก็ไม่พบสิ่งใด



นางนั้นไม่มีความหวังมากนักที่มายังสุสานใหญ่เพราะเรื่องนี้ หลังจากเรื่องทั้งหมดนางรู้ได้ว่าปฏิหาริย์นั้ยากจะเกิด ทว่าหลังจากจับได้จำนวนมากจากการนำของหลี่ฉีเย่ แสงของความหวังส่องประกายอีกครั้ง นางคิดว่าด้วยปลาจำนวนมากนี้อาจจะเป็นพอแลกเปลี่ยนเบาะแสสำคัญของมัน



แม้ว่าจะมีความหวังมากขึ้นแต่นางก็ยังไม่มั่นใจและไม่มีอะไรประกัน นี้คือสุสานใหญ่ทุกคนรู้ว่ามันมีสมบัติจำนวนมากรูปถึงอาวุธศักดิ์สิทธิ์อยู่ แต่น้อยคนนักที่จะนำสมบัติระดับนี้ออกมาได้



แม้แต่ผู้เชียวชาญจากเชื้อสายจักรพรรดิก็ยังกลับไปมือเปล่า ไม่ต้องเอ่ยถึงฉิวหรงว่านเสวี่ย



แต่ตอนนี้ หลี่ฉีเย่ประกาศอย่างมั่นใจว่าจะทำให้นางได้รับการสร้างใหม่ นี้่ทำให้นางลังเล นางรู้ว่าเขาไม่ได้ทอะไรหาไม่มีเป้าหมาย



" หัวหน้าท่านควรจะไปกับศิษย์พี่หลี่ " เผิงจางเอ่ยกระตุ้น " บางที่ศิษย์พี่หลี่อาจจะช่วยท่านหาของที่หายไปได้ "



ศิษย์คนอื่นๆก็เริ่มที่จะกระตุ้นนาง " ถูกต้อง หัวหน้าด้วยการคุ้มกันจากศิษย์พี่หลี่ ท่านจะสามารถไปยังสถานที่มากมายภายในสุสานใหญ่ได้ บางที่ของที่หายไปอาจจะอยู่ในพื้นที่ที่อันตราย "



ผู้เยาว์ทั้งหกพยามจะจับคู่ให้กับฉิวหรงว่านเสวี่ยและหลี่ฉีเย่



ฉิวหรงว่านเสวี่ยมองไปที่พวกเขาและเอ่ยถาม " แล้วพวกเจ้าละ ? " นางนั้นถูกล่อล่วงด้วยโอกาสแบบนี้ สถานการณ์ปัจจุบันของเผ่าเงาหิมะไม่ดีอย่างมาก



ตอนนี้เผ่าเงาหิมะและเผ่าเมฆทมิฬนั้นมีความขัดแย้งกันอยู่ที่ชายแดน ในปีที่ผ่านมากระทั้งเผ่าแสงจันทร์หยินก็มาจับตามองพวกนางอย่างใกล้ชิด



เผ่าแสงจันทร์หยินนั้นเป็นนิกายระดับที่ต้องการจะกลายเป็นนิกายระดับหนึ่ง ดังนั้นพวกเขาจะต้องกลืนกินดินแดนรอบๆ ทว่าเผ่าพันธ์ผีพวกเขาไม่ได้ใช้กำลังเข้าสู้กัน



เจ้าชายแสงจันทร์หยินนั้นต้องการจะแต่งงานกับฉิวหรงว่านเสวี่ย แต่นางรู้ว่านอกจากเขาจะชื่นชอบนางแล้ว เขายังต้องการดินแดนของเผ่าเงาหิมะ หากการแต่งงานเกิดขึ้นเผ่าเงาหิมะก็จะตกอยู่ในอำนาจของเผ่าแสงจันทร์หยิน



ดังนั้นหากหลี่ฉีเย่สามารถมอบผลประโยชน์จำนวนมากให้เผ่าเงาหิมะได้ เช่นนั้นฉิวหรงว่านเสวี่ยก็ยินดีจะติดตามเขาไป



เผิงจางรีบเอ่ย " หัวหน้า ท่านมั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเราได้ พวกเราจะไปที่เมืองเพื่อเก็บประสบการณ์และดูว่าสามารถซื้ออะไรได้บ้างหรือไม่ "



ฉิวหรงว่านเสวี่ยคิดชั่วครู่และรู้สึกว่ามันมีเหตุผล แม้ว่าสุสานใหญ่จะเป็นดินแดนแห่งสมบัติ กลุ่มของเผิงจางทั้งหกนั้นอ่อนแอเกินไปและคงไม่ไปยังสถานที่อันตราย นอกจากนี้ด้วยปลาหยางราตรีจำนวนมากอาจจะทำให้พวกเขาพบโชคที่ดี



" พวกเจ้าจะต้องระมัดระวังตัวเองให้มาก ทำให้แน่ใจว่าพวกเจ้าไม่ได้แสดงความมั่งคั่งของปลาหยางราตรีให้คนอื่นเห็น " ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ยเตือน " จำไว้ข้อความช่วยเหลือทันทีหากตกอยู่ในอันตราย "



" หัวหน้า ท่านอย่าได้กังวลและไปกับศิษย์พี่หลี่เถอะ พวกเราแน่นอนว่าจะไม่ก่อปัญหาใดๆ " ทั้งหกคนนั้นพูดออกมาพร้อมกัน...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้