ตอนที่ 434 ประตูห้าเขตแดน

หลี่ฉีเย่มองไปที่กลุ่มของทั้งหกคนและเอ่ย " แน่นอนว่ามันมีของที่ดีจำนวนมากที่สามารถซื้อภายในสุสานใหญ่ได้ แต่มันต้องอาศัยโชคและตาที่ดีเป็นอย่างมาก มันไม่ง่ายสำหรับพวกเจ้าที่จะจับปลา ดังนั้นอย่าใช้จ่ายมันอย่างสูญเปล่า ข้าจะแนะนำสถานที่ให้พวกเจ้า มันมีเมืองเล็กๆทางด้านตะวันออก หากเจ้าเห็นสัญลักษณ์นี้ เช่นนั้นจ่ายปลาเล็กน้อยทำหลายๆครั้ง ไม่ว่าพวกเจ้าจะได้รับอะไรมามันขึ้นอยู่กับโชคของพวกเจ้าแล้ว " หลี่ฉีเย่ดึงสัญลักษณ์ออกมาและมอบให้กับเผิงจาง



หลังจากรับสัญลักษ์มาแล้วเผิงจางกลายเป็นมีความสุขก่อนจะยิ้มเอ่ย " ศิษย์พี่หลี่ พวกเราจะไปก่อน พวกเราจะปล่อยท่านหัวหน้าให้อยู่ในความดูแลของท่าน " จากนั้นเขาก็ขยิบตาให้กับหลี่ฉีเย่เผยให้เห็นการแสดงออกที่ซุกซน



หลี่ฉีเย่ทำเพียงหัวเราะกับการแสดงออกของกลุ่มเผิงจาง เขาจะไม่รู้วิธีการที่สารเลวพวกนี้คิดได้อย่างไร ?



พวกเขานั้นมีความสุขในการจากลาและเดินทางไปอย่างตื่นเต้น ฉิวหรงว่านเสวี่ยถอนหายใจขณะมองพวกเขาจากไปไกล ทั้งหกนั้นเป็นเมล็ดพันธ์ที่ดีของเผ่าเงาหิมะ ดังนั้นไม่มีทางที่นางจะไม่กังวลที่ต้องปล่อยพวกเขาไปเพียงลำพัง ทว่าภายใต้การดูแลของนางพวกเขาจะไม่มีทางเป็นอิสระ



" พวกเราจะไปกันตอนนี้เลยหรือไม่ ? " นางหันไปเอ่ยถามกับหลี่ฉีเย่



หลี่ฉีเย่หรี่ดวงตาของเขาและเอ่ย " พวกเราจะไปยังประตูห้าเขตแดนเพื่อทดสอบโชคของพวกเรา "



" ประตูห้าเขตแดน ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ยอย่างไม่มั่นใจ " มันเป็นสถานที่ที่อันตราย ภายในห้าแขตแดน สี่เขตแดนในพวกมันนั้นเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างมาก "



หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " หากไม่รับความเสี่ยงในสุสานใหญ่และวางเรื่องทั้งหมดไว้ หัวหน้าฉิวหรงจะไม่พบความมั่นคั่งที่รออยู่ "



ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นพยักหน้าโดยไม่คัดค้าน นางนั้นตัดสินใจที่จะติดตามหลี่ฉีเย่ ดังน้้นนางจะไปตามที่ที่เขาต้องการ



แม้ว่าสุสานใหญ่นั้นจะเป็นเมืองผีและมีจิตวิญญาณอยู่ทุกที่ มันก็ไม่เป็นปัญหา ตรงกันข้ามมองภายนอกพวกมันราวกับผู้ฝึกตนผีแทน



พวกเขานั้นเป็นเพียงคนตาย ที่ปราศจากความทรงจำจากชีวิตก่อนหน้านี้ มันเป็นชีวิตใหม่ที่ปราศจากความเป็นอมตะ หากความรู้สึกของพวกเขาไม่แข็งแกร่งพวกเขาก็จะหายไปตามกาลเวลา



นับตั้งแต่ยุคใดก็ไม่สามารถบอกได้ ผีเหล่านี้เริ่มต้นบ่มเพาะในสุสานใหญ่ มันมีนิกายในสุสานใหญ่และกระทั้งเก่าแก่กว่าในเก้าโลก ต้นกำเนิดของพวกเขานั้นไม่มีใครรู้



นิกายที่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่ดีในสุสานใหญ่ถูกพิจรณาว่าเป็นสถานที่ที่อันตรายมากที่สุด



เป็นความจริงที่สุสานใหญ่นั้นเต็มไปด้วยสมบัติ แต่สมบัติเหล่านี้สำหรับผู้ฝึกตนแล้วมันไม่มีข้าแม้แต่เหรีญเดียวเพราะว่ามันเป็นเพียงกลุ่มก้อนความรู้สึก พวกเขาบ่มเพาะพลังโดยใช้อำนาจในสุสานใหญ่ด้วยตัวเอง มันต่างจากผู้ฝึกตนที่ดูดซับพลังงานโลก



ผู้ฝึกตนในสุสานใหญ่นั้นมีความเชื่อมั่นในตัวเอง ยิ่งผีเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้องกับดินแดนความรู้สึกของพวกเขาก็ยิ่งจะหยั่งรากลึก ยิ่งนานไปกลุ่มก้อนความรู้สึกของพวกเขาก็จะยิ่งทรงประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น



ด้วยเหตุผลนี้สมบัติสำหรับผู้ฝึกตนจึงไม่มีประโยชน์สำหรับเหล่าผี ทว่าผีนั้นครอบครองพื้นที่ที่เต็มไปด้วยสมบัติและนำมันมาเป็นเจ้าของ ผู้ฝึกตนคนใดต้องการจะเป็นเจ้าของสมบัติเหล่านั้นจะต้องจ่ายปลาหยางราตรีก่อนที่จะเข้าไปในนิกาย



ผู้ฝึกตนต้องการสมบัติขณะที่ผีในสุสานใหญ่ต้องการปลาหยางราตรี นี้เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย



ประตูห้าเขตแดนนั้นเป็นเชื้อสายในสุสานใหญ่ เชื้อสายที่โบราณอย่างมาก มันครอบครองภูเขาห้าลูกผ่านทางทิศเหนือ มีข่าวลือว่ามีสิ่งทีน่าตื่นเต้นอยู่ภายในภูเขาเหล่านี้ และกุญแจในการเปิดหลุมฝังศพแห่งลางร้ายก็อยู่ภายใน



นี้เป็นเหตุผลว่าทำไมผู้ฝึกตนต้องการจะเข้าไปภายในและดูว่าพวกเขาสามารถหาอะไรได้บ้าง



เมื่อหลี่ฉีเย่นำฉิวหรงว่านเสวี่ยมายังประตูห้าเขตแดน มันสองแถวยาวปรากฏอยู่ด้านนอก พวกเขานั้นเป็นผู้ฝึกตนจากภายนอก มีทั้งบุรุษ สตรี ผี มนุษย์ ปีศาจ ปีศาจสวรรค์...



" สุสานใหญ่นั้นมีชีวิตชีวาอย่างมากเมื่อไม่นานนี้ " ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นแถวที่ยาวและเอ่ยกับหลี่ฉีเย่



หลี่ฉีเย่มองไปยังแถว จากนั้นทั้งสองก็เข้าร่วม



ทั้งแถวนั้นเต็มไปด้วยผู้เยาว์จากหลายเผ่าที่ต่างกัน นอกเหนือจากทั้งสองแถวแล้วยังมีผู้พิทักษ์ของผี ใครก็ตามที่ต้องการจะเข้าไปต้องจ่ายปลาหยางราตรี



ขณะที่กำลังต่อแถวอยู่ เสียงระเบิดทัดใดนั้นก็ดังออกมาจนแผ่นดินสั่นสะเทือน ทุกคนนั้นเห็นยักษ์ปรากฏและเข้าก็เข้าร่วมต่อแถว



นี้เป็นชายหนุ่มที่มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ปกติถึงสามเท่า เขาเป็นคนที่มีลักษณะที่แข็งแกร่ง เขาปลดปล่อยกลิ่นอายที่รุนแรงและมีห่วงปรากฏอยู่เหนือหัวของเขา



แม้จะมีขนาดใหญ่แต่เขาก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดตรงกันข้ามเขากับดูหล่อเหลา ทั้งสามห่วงที่อยู่เหนือหัวของเขาปลดปล่อยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์



ชายหนุ่มนั้นเดินเข้ามาใกล้และมองมาที่แถวอย่างเย็นชา บรรดาคนที่อยู่ใกล้ล้วนหลีกทางให้และเดินไปข้างหน้าอย่างไม่กังวล



ผู้ฝึกตนจากดินแดนเมฆเหินเอ่ยด้วยอารมณ์ " โม่หลี่ต้า ! "



หลี่ฉีเย่เหลืบอมองสามห่วงบนหัวของเขาและเอ่ยอย่างประหลาดใจ " เผ่าปีศาจนภา "



เผ่าปีศาจนภาเป็นหนึ่งในสาขาของเผ่าปีศาจสวรรค์ มันเป็นเผ่าที่หายากอย่างมากในสถานที่แห่งนี้



ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นสังเกตเห็นว่าหลี่ฉีเย่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ดังนั้นางจึงเอ่ย " เขาคือโม่หลี่ต้า ลูกหลานของประตูปีศาจนถา "



จากนั้นนางก็กระซิบ " ข้าได้ยินว่าเขาเป็นคนไร้ความปราณีอย่างมากในดินแดนเมฆเหิน "



แม้ว่าจะเป็นเพียงเผ่าเล็กๆ ในฐานะหัวหน้าเผ่าฉิวหรงว่านเสวี่ยให้ความสนใจกับข่าวของโลกเสมอ ดังนั้นนางจึงมีความรู้เกี่ยวกับคนที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน



หลี่ฉีเย่ยิ้ม คนจำนวนมากยังเรียกเขาว่าคนไร้ความปราณีในโลกจักรพรรดิมนุษย์ ดังนั้นเขาจึงอย่างรู้เล็กน้อยว่าโม่หลี่ต้าโหดร้ายขนาดไหนถึงถูกเรียกเช่นนี้



หลังจากที่รอคอยมานาน สุดท้ายก็ถึงรอบของพวกเขา



ผู้พิทักษ์ผีจ้องไปยังทั้งสอง และเอ่ยอย่างไร้อารมณ์บนใบหน้า " ปลาห้าสิบห้าตัวต่อหนึ่งคน สองคนหนึ่งร้อยตัว เจ้าสามารถเลือกภูเขาได้เพียงหนึ่งลูกในแต่ละครั้ง "



ผีในสุสานใหญ่นั้นรู้วิธีการค้าขายอย่างแท้จริงที่เรียกเก็บถึงปลาห้าสิบห้าตัว มันไม่สำคัญว่าคนๆนั้นจะเป็นใครแต่พวกเขาจะต้องจ่ายเท่ากัน



หลี่ฉีเย่และฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นจ่ายปลาไปหนึ่งร้อยตัวและได้รับอนุญาติให้เข้าไป



" เลือกภูเขามาหนึ่งที่จะเดินผ่านจากทั้งห้า " ผู้คุ้มกันผีเอ่ย



" พวกเราเลือกภูเขาเคลื่อนคล้อย " หลี่ฉีเย่มองไปยังภูเขาทั้งห้าและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม



หลายคนมองไปที่เขาหลังจากเห็นเขาเลือก ผุ้เยาว์คนหนึ่งเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี " น้องชาย นี้เป็นครั้งแรกที่เจ้ามาใช่หรือไม่ ? แม้ว่าภูเขาเคลื่อนคล้อยจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย แต่มันก็เป็นสถานที่ที่ไร้ความหวังมากที่สุด เจ้าทั้งสองไม่สามารถจะผ่านภายในของมันได้ แม้แต่องค์รักษ์เทพสวรรค์ก็ยังไม่สามารถทำได้ พวกเจ้าเลือกเส้นทางเแรกเป็นอย่างไร ? มันมีความเสี่ยงที่ต่ำและโอกาสจำนวนมาก แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้อะไรเจ้าก็จะสูญเสียไม่มาก และหากเจ้าโชคดีเจ้าจะได้รับสมบัติทีน่าตื่นใจ "



ผู้เยาว์คนนี้นั้นเป็นคนใจดีอย่างมาก สุดท้ายเผ่าพันธ์มนุษย์นั้นอ่อนแอย่างมากในที่แห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องช่วยเหลือซึ่งกันและะกัน



" ขอบคุณ พี่ชาย " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย " ข้าต้องการจะรับโชคที่ดี บางที่พวกเราอาจะจได้รับบางอย่าง "



" โชคที่ดี ? พวกเจ้าเนี้ยนะ ? ลืมมันซะ " ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์อีกคนส่ายนหัวและเอ่ย " แม้ว่าพวกเจ้าจะเข้าไปด้านใน พวกเจ้าก้ไม่สามารจะหาอะไรพบได้ "



หลี่ฉีเย่เพียงยิ้มก่อนจะนำฉิวหรงว่านเสวี่ยเข้าไปภายใน



" ทั้งสองนั้นเสียปลาหยางราตรีไปหนึ่งร้อยตัวฟรีๆ ช่างน่าเสียดายจริงๆ " คนอื่นกลายเป็นสงสารหลักจากทั้งสองคนเข้าไป



หลี่ฉีเย่และฉิวหรงว่านเสวี่ยพบกับความร้อนและความแห้งแล้งเมื่อพวกเขาเข้ามา คนที่พึงเข้ามาอาจจะคิดว่าพวกเขามาผิดที่หลังจากเห็นฉากตรงหน้า



ตรงหน้าพวกเขานั้นเป็นทะเลทรายที่กว้างใหญ่ สิ่งที่แปลกก็คือทะเลทรายนี้แห้งแล้งอย่างสมบูรณ์ และผู้คนจะรู้สึกว่ากำลังถูกเผา



หากไม่มีทางเข้าอยู่เบื้องหลัง คนที่เขามาที่นี้ก็ล้วนสูญเสียจิตใจ สถานที่แห่งนี้ดูไม่เหมือนจะอยู่ในสุสานใหญ่



" ภูเขาเคลื่อนคล้อย ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยไม่สามารถหยุดงุนงงได้หลังจากเห็นทะเลทรายเบื้องหน้า นางนั้นไม่เคยมาที่นี่มาก่อนแต่นางเคยได้ยินชื่อเสียงของมันมาบ้าง



" พวกเราจะสามารถผ่านมันไปได้จริงๆ ? " นางถามโดยไม่มั่นใจ " ข้าได้ยินว่าไม่มีสมบัติใดอยู่ที่นี่ และมันยังมีความยากสูงสุดในบรรดาทั้งห้าเส้นทาง "



" มันเป็นการเดิมพัน " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " แม้ว่าอีกสีเส้นทางจะมีโอกาสสูงที่จะได้รับสมบัติ พวกมันก็เป็นเพียงสมบัติธรรมดา หากเจ้าต้องการเดิมพัน เจ้าจะต้องเดิมพันกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ หากพวกเราโชคดีนั้นจะเป็นโชคลาภที่แท้จริง "

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้