ตอนที่ 442 เล่าเรื่อง
" ท่านคือ...ภูติปีศาจ ? " บางคนนั้นเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจหลังจากเห็นคนคนนี้ปรากฏตัว
ชายคนนี้เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม " ข้ายืนยันว่าข้าคือภูติปีศาจและภูติปีศาจก็คือข้า "
ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์นั้นมองไปรอบๆและเห็นเพียงชายคนนี้ยืนอยู่ทำให้พวกเขาสับสน หลังจากได้ยินชื่อการประมูลภูติปีศาจเคาะโลงศพ หลายคนคิดว่าผู้นำประมูลจะต้องเป็นผีจากสุสานใหญ่
ชายคนที่ปรากฏตัวตรงหน้าล้วนไม่เคยอยู่ในจินตนาการของพวกเขา ! เขาเป็นเพียงชายชราที่ค่อนข้างอ้วน ผมของเขาเป็นสีขาวและมีเคราที่ยาว รูปลักษณ์ภายของเขาเหมือนคุณปู่ใจดี
ไม่มีใครสามารถเชื่อมโยงชายคนนี้กับภูติปีศาจได้ เขาเห็นได้ชัดว่าเป็นชายชราใจดี
หลายคนพยามเปิดดวงตาสวรรค์เพื่อมองให้เห็นว่าชายคนนี้เป็นมนุษย์หรือผี แต่ไม่มีใครสามารถมองผ่านเขาได้
" ท่านเป็นมนุษย์หรือผี ? " บางคนเอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
" นั้นเป็นความลับ ! " ภูติปีศาจอมยิ้มเอ่ย ความลึกลับของเขายิ่งทำให้ผู้ฝึกตนต่างอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
แม้กระทั้งดวงตาสวรรค์ก็ยังไม่สามารถมองออกไปได้ว่าเขานั้นมีชีวิตหรือว่าตายไปแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะมองอย่างไรชายคนนี้ก็ดูไม่เหมือนผี ทว่าเขาจะเป็นอะไรหากไม่ใช่ผี ? ผู้ฝึกตนจากรุ่นเก่าล้วนไม่สามารถเข้ามายังสุสานใหญ่ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะทรงพลังขนาดไหน
หากชายชราคนนี้ยังมีชีวิต เช่นนั้นทำไมเขาถึงเข้ามายังสุสานใหญ่ได้ ? หรือผลกระทบของสุสานใหญ่จะไม่มีผลต่อเขา ? ปกติแล้วพลังงานในสายเลือดของพวกเขาจะต้องถูกปนเปื้อนโดยเฉพาะชายชรา แต่ไม่ใช่กับภูติปีศาจ
นี้ยิ่งทำให้ผู้คนตั้งคำถาม ฉิวหรงว่านเสวี่ยคนที่ยืนอยู่ข้างหลี่ฉีเย่กระซิบถาม " เขาเป็นผีจริงๆ ? "
ในตอนแรกนางนั้นคิดว่าภูติปีศาจจะเป็นยักษ์ หรือผีรุ่นเยาว์ นางไม่คาดว่าเขาจะเป็นชายชราที่ดูใจดี
" เขารึ ? " หลี่ฉีเย่มองไปยังภูติปีศาจก่อนจะส่ายหัวและเอ่ย " นี้...ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครรู้ "
ทว่าฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นเชื่อว่าหลี่ฉีเย่จะต้องรู้หนึ่งถึงสองอย่าง
" เอาละ อย่าได้พูดให้มากความ การประมูลเริ่มขึ้นแล้ว ! กฏของการประมูลนั้นง่ายมาก ที่นี่ไม่ต้องการอาวุธหรือผลึก และไม่ต้องการปลาหยางราตรี ข้าจะนำสิ่งของออกมาและข้าจะแลกเปลี่ยนกับคนที่มีของที่ข้าชอบ "
ทุกคนนั้นเหลือบมองหน้ากันและกัน - นี้เป็นการประมูลแบบใดกัน ? นี้ราวกับเป็นการซื้อขายกันมากกว่า
ภูติปีศาจนั้นนำโลงศพขนาดเล็กเท่ากล่องออกมา มันดูเหมือนจะถูกสร้างมาจากมณีมีค่าที่ส่งกลิ่นอายเย็นออกมา บางทีนี้อาจจะเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นจากสวรรค์
ภูติปีศาจนั้นค่อยๆเปิดโลงศพ มีหยกที่ส่องแสงสว่างออกมาพร้อมกับสิ่งที่ดังราวกับว่ามีอัญมณีกลิ่งไปมาบนจานหยก
ทุกคนสังเกตได้ว่าโลงศพขนาดเล็กนี้นั้นถูกห่อหุ้มราวกับรังไหมขนาดเท่ากำปั้น มันมีสีเขียวเหมือหยกและเต็มไปด้วยมนต์ขลัง
ภูติปีศาจนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " นี้คือรังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ ! เมื่อมันแตกออก จักจั่นหยกสวรรค์จะปรากฏตัวออกมา " จากนั้นเขาก็ปิดโลงศพและเอ่ย " ตอนนี้นำสมบัติของพวกเจ้าออกมา "
หลายคนนั้นค่อยข้างงง บางคนนั้นไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับรังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องนำสมบัติของพวกเขาออกมาเพื่อแลกมัน
ทว่าผู้ฝึกตนที่มีจากตระกูลโบรารนั้นเอ่ยด้วยอารมณ์ " รังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ ! - สัตว์ในตำนานที่มีชีวิตอยู่ในดินแดนอมตะบรรพกาล ! "
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ ทุกคนกลายเป็นสั่นไหว ใครก็ตามที่สามารถเข้าไปยังดินแดนอมตะบรรพกาลจะได้รับปาฏิหาริย์ , โชคลาภที่ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องคำนึงถึงว่าเป็นที่ใดในหกดินแดนอมตะบรรพกาล คนที่เขาไปได้จะได้รับผลประโยชน์ที่ดี
จักจั่นหยกสวรรค์นั้นเติบโตในดินแดนอมตะบรรพกาล แล้วนี้จะไม่ทำให้ผู้ชมทุกคนตกตะลึงได้อย่างไร ?
ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์นำกระดิ่งของเขาออกมาและเอ่ย " ข้ามีสมบัติเต๋าที่ชื่อกระดิ่งดาวตก.. "
ทว่าก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคของเขา ภูติปีศาจทันใดนั้นก็คว้าตัวเขาไว้และโยนออกไปจากกลางเมือง
" ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องการอาวุธ " เขากระทั้งขว้างผู้ฝึกตนคนนั้นได้อย่างง่ายได้นี้ทำให้คนจำนวนมากเริ่มตระหนักถึงความแข็งแกร่งของเขา
ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์อีกคนนำกล่องสมบัติออกมาและเอ่ย " ข้ามีอัญมณีเพื่อแลกเปลี่ยน " กล่องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ ผู้เยาว์นั้นเปิดมันให้ภูติปีศาจดูและทำให้คนอื่นไม่เห็นของภายใน
ภูติปีศาจส่ายหัวของเขาและเอ่ย " ไม่ต้องการ "
" ข้ามีกระดูกโบราณ " นายน้อยกระดูกทองคำจากเผ่าร้อยกระดูกศักดิ์สิทธิ์เอ่ย จากนั้นนำกระดูกที่มีขนาดเท่าฝ่ามืออกมา มันกะโหลกศีรษะที่มีสำดำสนิท เมื่อมันถูกนำออกมาเสียงกรีดร้องที่โหยห้วนก็ดังมาด้วย
" น่าสนใจเล็กน้อย " ภูติปีศาจมองไปยังกะโหลกนั้นก่อนจะพยักหน้าเอ่ย
นายน้อยกระดูกทองคำอดไม่ได้ที่จะมีความสุข เขานั้นมีโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนเขานั้นมีโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนกับ รังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ของภูติปีศาจ
" ให้ข้าเล่าเรื่องให้ฟังเป็นอย่างไร ? " ในเวลานั้น หลี่ฉีเย่ก็เอ่ยขึ้นช้าๆ
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นกลายเป็นตกตะลึงและรู้สึกว่านี้มันโอหังเกินไป คนอื่นนั้นใช่สมบัติในการแลกเปลี่ยน แต่หลี่ฉีเย่ต้องการใช้เรื่องเล่า ?
หลังจากเห็นหลี่ฉีเย่เป็นเผ่ามนุษย์ นายน้อยกระดูกทองคำก็แค่นเสียงเย็นชา " ฮึ่ม ! หากเจ้าไม่มีสมบัติ เช่นนั้นอย่าได้มาเสนอหน้า "
" แน่นอน " ภูติปีศาจพยักหน้าอย่างรวดเร็วและเอ่ย " แต่เจ้าต้องระวัง หากเจ้าเล่าเรื่องที่เจ้าสร้างขึ้นมา ข้าจะขว้างเจ้าออกไป แน่นอนว่าหากข้าชอบเรื่องนั้น ข้ายินดีแลกกับ รังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ "
ทุกคนกลายเป็นไม่อยากเชื่อ เล่าเรื่องแลกสมบัติ - นี้มันบ้าบอเกินไป พวกเขานั้นไม่เคยเห็นการแลกเปลี่ยนเช่นนี้มาก่อน
หลี่ฉีเย่อมยิ้มและเอ่ย " เจ้ามันใจได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ดี " จากนั้นเขาก็กระแอมและเอ่ย " นานมาแล้ว มันมีอีกาที่สามทารถพูดได้อยู่ ก่อนหน้านั้นมีคนชื่อว่ากงหยางจากโลกอเวจี วันหนึ่งเมื่อีกาได้พบกับกงยางเขาเอ่ย ' มันมีสถานที่ที่ชื่อถ้ำปีศาจอมตะที่มีความเป็นอมตะอยู่ภายใน ความเป็นอมตะนี้หมายถึงชีวิตนิรันดร์ นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีหญ้าอมตะ หากคนได้กินหญ้าอมตะนี้ พวกเขาก็จะสามารถมีชีวิตนิรันดร์...' "
หลังจากได้ฟังถึงตอนนี้ เจ้าชายประกาศศักดิ์สิทธิ์เอ่ยอย่างเย็นชา " นี้มันเป็นเรื่องแบบใดกัน ? ช่างไร้เหตุผล..."
" หุบปาก ! " ภูติปีศาจคนที่กำลังตั้งใจฟังเรื่องอยู่ตวาดใส่เจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์ และทำให้เขาหุบปากทันที
" ทว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะได้รับหญ้าอมตะจากถ้ำปีศาจอมตะ อีกานั้นบอกกับกงหยางว่าเขานั้นมีวิธีที่จะได้รับหญ้าอมตะนี้ ตราบใดที่กงหยางทำตามคำแนะนำของเขา กงหยางนั้นเชื่อคำกล่าวของอีกา..."
หลี่ฉีเย่นั้นเล่าเรื่องช้าๆและเป็นตำนานที่น่าเบื่อมาก ผู้เยาว์หลายคนนั้นเกือบจะหลับและไม่ได้ฟังรายละเอียดของมัน นี้เป็นเพียงตำนานโง่เง่า กระทั้งเด็กยังรู้และไม่อยากได้ยินมัน สำหรับผู้ฝึกตนเช่นพวกเขา พวกเขาพบเรื่องแปลกประหลาดตลอดเวลาและการฟังตำนานแต่งแบบนี้ช่างน่าเบื่อย่างมาก
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นรู้สึกว่าเรื่องนี้นั้นไม่เลว แต่ตำนานใดๆเกี่ยวกับจักรพรรดิอมตะล้วนดีกว่า ตำนานเช่นนี้สามารถกล่อมเด็กในโลกมนุษย์ได้ แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ฝึกตน
" กงหยางนั้นทำตามคำบอกของอีกและไปถ้ำปีศาจอมตะ เพื่อหาหญ้าอมตะ กงหยางนั้นถามถ้ำปีศาจอมตะถึงหญ้าอมตะ แต่ถ้ำปีศาจอมตะ..." หลี่ฉีเย่หยุดชั่วคราวเมื่อถึงตอนนี้
" จากนั้นเล่า ? " เทียบกับหลายคนที่เบื่อ ภูติปีศาจนั้นตื่นเต้นที่จะได้ยิน หลายคนสงสัยว่าเขาทำไมถึงได้โง่เชื่อเรื่องดังกล่าว
" จากนั้นตระกูลของกงหยางก็เผชิญหน้ากับการโดนฆ่าล้างตระกูล " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ยสรุป
นี้เป็นครั้งแรกที่ฉิวหรงว่านเสวี่ยที่อยู่ข้างหลี่ฉีเย่มาตลอดกลายเป็นไร้คำพูด นี้เป็นเรื่องแบบใดกัน ? เรื่องที่เล่ามาอยู่ๆก็จบโดยการโดนฆ่าล้างตระกูล ? - ใครจะโง่เชื่อเรื่องแบบนี้ ?
" ช่างไร้สาระ เป็นเรื่องที่ปัญญาอ่อนอย่างยิ่ง " บางคนนั้นคิดว่าหลี่ฉีเย่นั้นแต่งเรื่องนี้มาอย่างกระทันหัน แม้ว่าตอนเริ่มของมันจะดีแต่ก็น่าเบื่อ สุดท้ายโดยปราศจากรายละเอียดจู่ๆกงหยางก็โดนฆ่าล้างตระกูล - ทุกคนคิดว่านี้เป็นเพียงเรื่อวที่ไม่สมบูรณ์และพึงคิดขึ้น
ทว่าภูติปีศาจนั้นหลับตาของเขาและพึมพำก่อนจะพยักหน้า ไม่มีใครรู้ว่าเขาพึมพำอะไร
" เรื่องที่ดี เรื่องที่ดี น่าประทับใจ น่าประทับใจอย่างยิ่ง ปาฏิหาริย์ที่กวาดผ่านยุค เอกลักษณ์ของโลก..." ชั่วขณะนั้น ภูติปีศาจก็พยามปรับอารมณ์ของเขา
หลายคนกลายเป็นตกตะลึงกับการสรรเสริญดังกล่าวรวมถึงฉิวหรงว่านเสวี่ย นี้มันบ้าบอเกินไปแล้ว ! จะเป็นไปได้อย่างไรที่เรื่องซึ่งไร้การปะติดปะต่อนี้ได้รับการยกย่อง ?
" โลกศพเล็กน้อยๆนี้เป็นของเจ้าแล้ว " ภูติปีศาจนั้นดูจะตื่นเต้นมาก จากนั้นก็โยนโลงศพที่ใส่รังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ให้กับหลี่ฉีเย่..
" ท่านคือ...ภูติปีศาจ ? " บางคนนั้นเอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจหลังจากเห็นคนคนนี้ปรากฏตัว
ชายคนนี้เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม " ข้ายืนยันว่าข้าคือภูติปีศาจและภูติปีศาจก็คือข้า "
ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์นั้นมองไปรอบๆและเห็นเพียงชายคนนี้ยืนอยู่ทำให้พวกเขาสับสน หลังจากได้ยินชื่อการประมูลภูติปีศาจเคาะโลงศพ หลายคนคิดว่าผู้นำประมูลจะต้องเป็นผีจากสุสานใหญ่
ชายคนที่ปรากฏตัวตรงหน้าล้วนไม่เคยอยู่ในจินตนาการของพวกเขา ! เขาเป็นเพียงชายชราที่ค่อนข้างอ้วน ผมของเขาเป็นสีขาวและมีเคราที่ยาว รูปลักษณ์ภายของเขาเหมือนคุณปู่ใจดี
ไม่มีใครสามารถเชื่อมโยงชายคนนี้กับภูติปีศาจได้ เขาเห็นได้ชัดว่าเป็นชายชราใจดี
หลายคนพยามเปิดดวงตาสวรรค์เพื่อมองให้เห็นว่าชายคนนี้เป็นมนุษย์หรือผี แต่ไม่มีใครสามารถมองผ่านเขาได้
" ท่านเป็นมนุษย์หรือผี ? " บางคนเอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
" นั้นเป็นความลับ ! " ภูติปีศาจอมยิ้มเอ่ย ความลึกลับของเขายิ่งทำให้ผู้ฝึกตนต่างอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น
แม้กระทั้งดวงตาสวรรค์ก็ยังไม่สามารถมองออกไปได้ว่าเขานั้นมีชีวิตหรือว่าตายไปแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะมองอย่างไรชายคนนี้ก็ดูไม่เหมือนผี ทว่าเขาจะเป็นอะไรหากไม่ใช่ผี ? ผู้ฝึกตนจากรุ่นเก่าล้วนไม่สามารถเข้ามายังสุสานใหญ่ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะทรงพลังขนาดไหน
หากชายชราคนนี้ยังมีชีวิต เช่นนั้นทำไมเขาถึงเข้ามายังสุสานใหญ่ได้ ? หรือผลกระทบของสุสานใหญ่จะไม่มีผลต่อเขา ? ปกติแล้วพลังงานในสายเลือดของพวกเขาจะต้องถูกปนเปื้อนโดยเฉพาะชายชรา แต่ไม่ใช่กับภูติปีศาจ
นี้ยิ่งทำให้ผู้คนตั้งคำถาม ฉิวหรงว่านเสวี่ยคนที่ยืนอยู่ข้างหลี่ฉีเย่กระซิบถาม " เขาเป็นผีจริงๆ ? "
ในตอนแรกนางนั้นคิดว่าภูติปีศาจจะเป็นยักษ์ หรือผีรุ่นเยาว์ นางไม่คาดว่าเขาจะเป็นชายชราที่ดูใจดี
" เขารึ ? " หลี่ฉีเย่มองไปยังภูติปีศาจก่อนจะส่ายหัวและเอ่ย " นี้...ข้าเกรงว่าจะไม่มีใครรู้ "
ทว่าฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นเชื่อว่าหลี่ฉีเย่จะต้องรู้หนึ่งถึงสองอย่าง
" เอาละ อย่าได้พูดให้มากความ การประมูลเริ่มขึ้นแล้ว ! กฏของการประมูลนั้นง่ายมาก ที่นี่ไม่ต้องการอาวุธหรือผลึก และไม่ต้องการปลาหยางราตรี ข้าจะนำสิ่งของออกมาและข้าจะแลกเปลี่ยนกับคนที่มีของที่ข้าชอบ "
ทุกคนนั้นเหลือบมองหน้ากันและกัน - นี้เป็นการประมูลแบบใดกัน ? นี้ราวกับเป็นการซื้อขายกันมากกว่า
ภูติปีศาจนั้นนำโลงศพขนาดเล็กเท่ากล่องออกมา มันดูเหมือนจะถูกสร้างมาจากมณีมีค่าที่ส่งกลิ่นอายเย็นออกมา บางทีนี้อาจจะเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นจากสวรรค์
ภูติปีศาจนั้นค่อยๆเปิดโลงศพ มีหยกที่ส่องแสงสว่างออกมาพร้อมกับสิ่งที่ดังราวกับว่ามีอัญมณีกลิ่งไปมาบนจานหยก
ทุกคนสังเกตได้ว่าโลงศพขนาดเล็กนี้นั้นถูกห่อหุ้มราวกับรังไหมขนาดเท่ากำปั้น มันมีสีเขียวเหมือหยกและเต็มไปด้วยมนต์ขลัง
ภูติปีศาจนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " นี้คือรังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ ! เมื่อมันแตกออก จักจั่นหยกสวรรค์จะปรากฏตัวออกมา " จากนั้นเขาก็ปิดโลงศพและเอ่ย " ตอนนี้นำสมบัติของพวกเจ้าออกมา "
หลายคนนั้นค่อยข้างงง บางคนนั้นไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับรังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องนำสมบัติของพวกเขาออกมาเพื่อแลกมัน
ทว่าผู้ฝึกตนที่มีจากตระกูลโบรารนั้นเอ่ยด้วยอารมณ์ " รังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ ! - สัตว์ในตำนานที่มีชีวิตอยู่ในดินแดนอมตะบรรพกาล ! "
เมื่อได้ยินคำกล่าวนี้ ทุกคนกลายเป็นสั่นไหว ใครก็ตามที่สามารถเข้าไปยังดินแดนอมตะบรรพกาลจะได้รับปาฏิหาริย์ , โชคลาภที่ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องคำนึงถึงว่าเป็นที่ใดในหกดินแดนอมตะบรรพกาล คนที่เขาไปได้จะได้รับผลประโยชน์ที่ดี
จักจั่นหยกสวรรค์นั้นเติบโตในดินแดนอมตะบรรพกาล แล้วนี้จะไม่ทำให้ผู้ชมทุกคนตกตะลึงได้อย่างไร ?
ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์นำกระดิ่งของเขาออกมาและเอ่ย " ข้ามีสมบัติเต๋าที่ชื่อกระดิ่งดาวตก.. "
ทว่าก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคของเขา ภูติปีศาจทันใดนั้นก็คว้าตัวเขาไว้และโยนออกไปจากกลางเมือง
" ข้าบอกแล้วว่าไม่ต้องการอาวุธ " เขากระทั้งขว้างผู้ฝึกตนคนนั้นได้อย่างง่ายได้นี้ทำให้คนจำนวนมากเริ่มตระหนักถึงความแข็งแกร่งของเขา
ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์อีกคนนำกล่องสมบัติออกมาและเอ่ย " ข้ามีอัญมณีเพื่อแลกเปลี่ยน " กล่องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ ผู้เยาว์นั้นเปิดมันให้ภูติปีศาจดูและทำให้คนอื่นไม่เห็นของภายใน
ภูติปีศาจส่ายหัวของเขาและเอ่ย " ไม่ต้องการ "
" ข้ามีกระดูกโบราณ " นายน้อยกระดูกทองคำจากเผ่าร้อยกระดูกศักดิ์สิทธิ์เอ่ย จากนั้นนำกระดูกที่มีขนาดเท่าฝ่ามืออกมา มันกะโหลกศีรษะที่มีสำดำสนิท เมื่อมันถูกนำออกมาเสียงกรีดร้องที่โหยห้วนก็ดังมาด้วย
" น่าสนใจเล็กน้อย " ภูติปีศาจมองไปยังกะโหลกนั้นก่อนจะพยักหน้าเอ่ย
นายน้อยกระดูกทองคำอดไม่ได้ที่จะมีความสุข เขานั้นมีโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนเขานั้นมีโอกาสที่จะแลกเปลี่ยนกับ รังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ของภูติปีศาจ
" ให้ข้าเล่าเรื่องให้ฟังเป็นอย่างไร ? " ในเวลานั้น หลี่ฉีเย่ก็เอ่ยขึ้นช้าๆ
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นกลายเป็นตกตะลึงและรู้สึกว่านี้มันโอหังเกินไป คนอื่นนั้นใช่สมบัติในการแลกเปลี่ยน แต่หลี่ฉีเย่ต้องการใช้เรื่องเล่า ?
หลังจากเห็นหลี่ฉีเย่เป็นเผ่ามนุษย์ นายน้อยกระดูกทองคำก็แค่นเสียงเย็นชา " ฮึ่ม ! หากเจ้าไม่มีสมบัติ เช่นนั้นอย่าได้มาเสนอหน้า "
" แน่นอน " ภูติปีศาจพยักหน้าอย่างรวดเร็วและเอ่ย " แต่เจ้าต้องระวัง หากเจ้าเล่าเรื่องที่เจ้าสร้างขึ้นมา ข้าจะขว้างเจ้าออกไป แน่นอนว่าหากข้าชอบเรื่องนั้น ข้ายินดีแลกกับ รังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ "
ทุกคนกลายเป็นไม่อยากเชื่อ เล่าเรื่องแลกสมบัติ - นี้มันบ้าบอเกินไป พวกเขานั้นไม่เคยเห็นการแลกเปลี่ยนเช่นนี้มาก่อน
หลี่ฉีเย่อมยิ้มและเอ่ย " เจ้ามันใจได้ว่ามันเป็นเรื่องที่ดี " จากนั้นเขาก็กระแอมและเอ่ย " นานมาแล้ว มันมีอีกาที่สามทารถพูดได้อยู่ ก่อนหน้านั้นมีคนชื่อว่ากงหยางจากโลกอเวจี วันหนึ่งเมื่อีกาได้พบกับกงยางเขาเอ่ย ' มันมีสถานที่ที่ชื่อถ้ำปีศาจอมตะที่มีความเป็นอมตะอยู่ภายใน ความเป็นอมตะนี้หมายถึงชีวิตนิรันดร์ นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีหญ้าอมตะ หากคนได้กินหญ้าอมตะนี้ พวกเขาก็จะสามารถมีชีวิตนิรันดร์...' "
หลังจากได้ฟังถึงตอนนี้ เจ้าชายประกาศศักดิ์สิทธิ์เอ่ยอย่างเย็นชา " นี้มันเป็นเรื่องแบบใดกัน ? ช่างไร้เหตุผล..."
" หุบปาก ! " ภูติปีศาจคนที่กำลังตั้งใจฟังเรื่องอยู่ตวาดใส่เจ้าชายประกายศักดิ์สิทธิ์ และทำให้เขาหุบปากทันที
" ทว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะได้รับหญ้าอมตะจากถ้ำปีศาจอมตะ อีกานั้นบอกกับกงหยางว่าเขานั้นมีวิธีที่จะได้รับหญ้าอมตะนี้ ตราบใดที่กงหยางทำตามคำแนะนำของเขา กงหยางนั้นเชื่อคำกล่าวของอีกา..."
หลี่ฉีเย่นั้นเล่าเรื่องช้าๆและเป็นตำนานที่น่าเบื่อมาก ผู้เยาว์หลายคนนั้นเกือบจะหลับและไม่ได้ฟังรายละเอียดของมัน นี้เป็นเพียงตำนานโง่เง่า กระทั้งเด็กยังรู้และไม่อยากได้ยินมัน สำหรับผู้ฝึกตนเช่นพวกเขา พวกเขาพบเรื่องแปลกประหลาดตลอดเวลาและการฟังตำนานแต่งแบบนี้ช่างน่าเบื่อย่างมาก
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นรู้สึกว่าเรื่องนี้นั้นไม่เลว แต่ตำนานใดๆเกี่ยวกับจักรพรรดิอมตะล้วนดีกว่า ตำนานเช่นนี้สามารถกล่อมเด็กในโลกมนุษย์ได้ แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ฝึกตน
" กงหยางนั้นทำตามคำบอกของอีกและไปถ้ำปีศาจอมตะ เพื่อหาหญ้าอมตะ กงหยางนั้นถามถ้ำปีศาจอมตะถึงหญ้าอมตะ แต่ถ้ำปีศาจอมตะ..." หลี่ฉีเย่หยุดชั่วคราวเมื่อถึงตอนนี้
" จากนั้นเล่า ? " เทียบกับหลายคนที่เบื่อ ภูติปีศาจนั้นตื่นเต้นที่จะได้ยิน หลายคนสงสัยว่าเขาทำไมถึงได้โง่เชื่อเรื่องดังกล่าว
" จากนั้นตระกูลของกงหยางก็เผชิญหน้ากับการโดนฆ่าล้างตระกูล " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ยสรุป
นี้เป็นครั้งแรกที่ฉิวหรงว่านเสวี่ยที่อยู่ข้างหลี่ฉีเย่มาตลอดกลายเป็นไร้คำพูด นี้เป็นเรื่องแบบใดกัน ? เรื่องที่เล่ามาอยู่ๆก็จบโดยการโดนฆ่าล้างตระกูล ? - ใครจะโง่เชื่อเรื่องแบบนี้ ?
" ช่างไร้สาระ เป็นเรื่องที่ปัญญาอ่อนอย่างยิ่ง " บางคนนั้นคิดว่าหลี่ฉีเย่นั้นแต่งเรื่องนี้มาอย่างกระทันหัน แม้ว่าตอนเริ่มของมันจะดีแต่ก็น่าเบื่อ สุดท้ายโดยปราศจากรายละเอียดจู่ๆกงหยางก็โดนฆ่าล้างตระกูล - ทุกคนคิดว่านี้เป็นเพียงเรื่อวที่ไม่สมบูรณ์และพึงคิดขึ้น
ทว่าภูติปีศาจนั้นหลับตาของเขาและพึมพำก่อนจะพยักหน้า ไม่มีใครรู้ว่าเขาพึมพำอะไร
" เรื่องที่ดี เรื่องที่ดี น่าประทับใจ น่าประทับใจอย่างยิ่ง ปาฏิหาริย์ที่กวาดผ่านยุค เอกลักษณ์ของโลก..." ชั่วขณะนั้น ภูติปีศาจก็พยามปรับอารมณ์ของเขา
หลายคนกลายเป็นตกตะลึงกับการสรรเสริญดังกล่าวรวมถึงฉิวหรงว่านเสวี่ย นี้มันบ้าบอเกินไปแล้ว ! จะเป็นไปได้อย่างไรที่เรื่องซึ่งไร้การปะติดปะต่อนี้ได้รับการยกย่อง ?
" โลกศพเล็กน้อยๆนี้เป็นของเจ้าแล้ว " ภูติปีศาจนั้นดูจะตื่นเต้นมาก จากนั้นก็โยนโลงศพที่ใส่รังไหมหยกจักจั่นสวรรค์ให้กับหลี่ฉีเย่..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น