ตอนที่ 450 ทะเลราตรีที่ใส่กระจ่าง
นางนั้นมองไปยังหลี่ฉีเย่ก่อนจะพบกับรอยยิ้มมุมปากและการแสดงออกอย่างไม่แยแสของเขา ทุกสิ่งเหล่านี้ลัวนตราตรึงอยู่ในหัวใจของนางก่อนที่นางจะรู้ตัว เปลวไฟแห่งความปราถนาลุกไหม้ภายในจิตใจยามนางมองไปยังชายหนุ่มเบื้องหน้า
ฉิวหรงว่านเสวี่ยสูดลมหายใจลึกและรวบรวมความกล้าหาญ นางนั้นใช้มือราวกับหยกของนางโอบไปรอบคอของเขาและไม่สามารถต้านทานความต้องการที่จะอยากจูบเขาได้
เมื่อริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกัน หัวใจของนางนั่นสั่นไหวและสูญเสียการควบคุมร่างกายของตัวเอง แม้ว่าจะกังวลแต่นางก็ยังเลือกจูบเขาต่อไป
ผู้หญิงที่สง่างามคนนี้เปล่งปลั่งเหมือนกันแสงของดวงอาทิตย์ จูบของนางเห็นได้ชัดว่าขาดประสบการณ์อย่างมาก แต่นางก็ยังไม่ถอนริมฝีปากออก
หลี่ฉีเย่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่จะสัมผัสกับริมฝีปากที่อ่อนหวาดและนุ่มนวล จากนั้นเขาก็ใช้มือยกใบหน้าที่งดงามของนางและขึ้นและชิมริมฝีปากที่อ่อนหวานนี้ เขานั้นไม่แสดงความเมตตาแต่อย่างใด ก่อนจะใช้ลิ้นของเขาเกี้ยวพันลิ้นของนางและไม่อนุญาติให้นางหลบหนี
จิตวิญญาณของฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นเกือบจะออกจากร่างเมื่อเจอกับจูบที่รุนแรงของหลี่ฉีเย่ ความเข้มแข็งของร่างกายนางราวกับจะสลายกลายเป็นอากาศและเรื่องที่จะปล่อยทุกอย่างให้เป็นตามอารมณ์ นางนั้นพลักเขาออกเล็กน้อยก่อนจะหอบหายใจด้วยใบหน้าแดงก่ำ พร้อมกับดวงตาที่ถูกมอดไหม้
จูบที่น่าหลงใหลของหลี่ฉีเย่ทำให้นางไร้เรียวแรงและอ่อนแอจนล้มลงสู่อ้อมกอดของหลี่ฉีเย่โดยง่าย เขาลูบหลังของนางและเอ่ยแกล้ง " หัวหน้าที่รัก คืนนี้เจ้าต้องการจะอุ่นเตียงข้าหรือไม่ ? "
ทันใดนั้นร่างของนางก็รู้สึกร้อนผาว นางนั้นไม่สามารถสงบจิตใจได้อีกต่อไปและพลักเขาออก นางไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาและเอ่ยอย่างอับอาย " แม้แต่ในฝัน ข้าก็จะไม่อุ่นเตียงเจ้า ! " หลังจากกล่าวเสร็จนางก็จากไปอย่างรวดเร็ว
นางนั้นออกไปอย่างเร่งรีบและทิ้งหลี่ฉีเย่ไว้เบื้องหลัง นางนั้นกัดริมฝีปากของนางขณะนึกถึงฉากที่น่าอับอายก่อนหน้า มันเหมือนกับว่านางนั้นถูกครอบงำโดยเสน่ห์ของเขาและอดไม่ได้ที่จะมอบจูบแรกของนางให้ นางไม่รู้ว่านางไปเอาความกล้าขนาดนี้มาจากที่ใด
สุดท้าย นางก็เต็มไปด้วยความเขินอายและไม่กล้าที่จะคิดถึงเหตุการณ์ที่พึงจะเกิดขึ้น
* * *
เช้าวันต่อมา นางนั้นรู้สึกว่าหน้าร้อนผาวหลังจากเห็นหลี่ฉีเย่ เขาเอ่ยอย่างหยอกล้อ " เมื่อคืนเจ้านอนไม่ค่อยหลับรึ ? " หลี่ฉีเย่เอ่ยถามอย่างไร้เดียงสา
ด้วยความอับอายและความโกรธ นางพยามสูดลมหายใจเข้าลึกและกล่าวอย่างเคร่งขรึม " หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว วันนี้พวกเราจะไปที่ไหนกัน ? "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นมีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ เมื่อราวกับความเขินอายในแบบสาวแรกรุ่นของนาง นี้ยิ่งทำให้ตัวนางนั้นน่ามองยิ่งขึ้น
หลี่ฉีเย่ยิ้มและตอบอย่างสบายๆ " พวกเราจะไปหาบางคน ข้าไม่รู้ว่าจะหาคนคนนี้เจอหรือไม่ แต่หากพวกเราทำสำเร็จ เช่นนั้นพวกเราจะได้รับข่าวดีบางอย่าง "
จากนั้นพวกเขาก็ออกไปและเดินไปลอบเมือง พวกเขานั้นเดินไปตามตรอกซอกซอยและสังเกตเครื่องหมายรอบตัว พวกเขานั้นเดินไปยังซอยจำนวนมากแต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถหาคนพบได้
หลังจากเดินผ่านมาหลายซอย ฉิวหรงว่านเสวี่ยก็เอ่ยถาม " พวกเราพยามที่จะหาใครอยู่ ? "
" คนที่พยามซ่อนตัวและไม่พบปะกับผู้คน " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย
" ตูม ตูม ! " ทว่าหลังจากที่พวกเขากำลังจะหาต่อ ทั่วทั้งเมือง ไม่สิ ทั่วทั้งสุสานใหญ่ทันใดนั้นก็สั่นไหว
เมืองที่สั่นไหวทำให้ฉิวหรงว่านเสวี่ยหวาดกลัวและเอ่ยถาม " นี้มันเกิดอะไรขึ้น ? "
หลี่ฉีเย่รู้สึกได้ว่าสวรรค์และปฐพีกำลังสั่นสะเทือนจากนั้นเขาก็โอบฉิวหรงว่านเสวี่ยและพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้า เขาทันใดนั้นก็มองไปยังทะเลราตรีและเอ่ย " มันมาจากทะเลราตรี ! "
" ตูม " ทะเลราตรีนั้นอยู่ไม่ห่างไกลจากสถานที่ที่หลี่ฉีเย่อยู่ ทุกคนนั้นเห็นฉากที่น่ากลัวนี้ เสียงสาดกระเด็นของน้ำนั้นพุ่งขึ้นออกมาก่อนจะเห็นเสาน้ำหลายเสาพุ่งขึ้นเจาะขึ้นไปยังเก้าชั้นฟ้า คลื่นของเสาน้ำเหล่านี้ราวกับจะกวาดผ่านดวงดาราข้างบน
หลังจากมันพุ่งขึ้นไปถึงระดับความสูงที่น่าเหลือเชื่อ มันก็เริ่มที่จะสลายตัวลงมาและสร้างเป็นคลื่นขนาดใหญ่ส่งเสียงดังไปทั่วสุสานใหญ่
ทุกคนนั้นตกอยู่ในความหวาดกลัว รวมถึงเหล่าผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่มาจากด้านนอก
ไม่นานหลังจากนั้นคลื่นก็เริ่มจะสงบลง แต่หลายคนก็ยังคงสั่นเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
" มันจะต้องมีบางอย่างในทะเลราตรี " หลี่ฉีเย่พึมพำ การแสดงออกของเขานั้นเปลี่ยนเมื่อตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นตกตะลึงอย่างสมบูรณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันนี้ นางนั้นไม่เคยได้ยินว่ามีเสายักษ์ปรากฏมาก่อน เสายักษ์ที่พยามจะเจาะผ่านเก้าชั้นฟ้า - นี้มันน่ากลัวเกิดขึ้น มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น ?
" นี้กำลังจะเกิดอะไรขึ้น ? พวกเราจะต้องไปที่ทะเลราตรีเพื่อตรวจดูหรือไม่ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยที่กำลังหวาดกลัวเอ่ยถามหลี่ฉีเย่
ทว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องไปยังทะเลราตรี ภายในเวลาสั้นๆข่าวใหม่ก็แพร่กระจายไปทั่วสุสานใหญ่ ข่าวนี้นั้นมาจากผู้ฝึกตนจากด้านนอก
" ทะเลราตรีตอนนี้ใส่กระจางแล้ว ! " ข่าวนี้ทำให้ทุกคนในสุสานใหญ่ตกตะลึง
"ทะเลราตรีตอนนี้ใส่กระจาง ? เป็นไปไม่ได้ ! " นี้คือการแสดงออกเมื่อผู้คนได้ยินข่าวนี้
คนในท้องที่ล้วนไม่มีใครเชื่อ กระทั้งผีก็ยังไม่เชื่อชิ้นส่วนของข่าวนี้
หลายล้านปีที่ผ่านมา ทะเลราตรีนั้นมืดราวกับน้ำหมึก แม้แต่คนที่อยู่มายาวนานที่สุดก็ยังไม่เคยเห็นทะเลราตรีใสกระจ่าง
" นี้มันเป็นเรื่องจริง ไม่เพียงแต่มันจะใส่กระจ่าง มันยังไม่มีอำนาจของลางร้ายอีกด้วย ทุกคนสามารถเข้าไปได้โดยปราศจากอันตรายและผู้ดูแลก็หายไปเช่นกัน ข้ามีสหายที่จับปลาอยู่ เขานั้นถูกส่งขึ้นไปยังท้องฟ้าเมื่อคลื่นยักษ์ปรากฏและต้องตายแน่หากตกลงไปในทะเลราตรี แต่ทะเลนั้นเปลี่ยนเป็นใสกระจ่างและเขาไม่ตาย ! "
" นี้มันเป็นไปได้อย่างไร..." หลายคนไปเพื่อตรวจสอบ เมื่อมีการเปลี่ยนนี้เกิดขึ้นหลายคนที่กำลังตกปลาอยู่ล้วนถูกซัดลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อพวกเขาคิดว่าตกลงมาตายแน่ แต่เมื่อพวกเขาตกลงไปกับพบว่าไม่มีอันตรายและผู้ดูแลทั้งหมดหายไป
แม้ว่าจะมีสภาพแวดล้อมที่ไร้ความเสี่ยง แต่หลายคนก็ยังวิ่งออกห่างจากทะเลราตรี
หลังจากได้รับการยืนยัน ผู้ฝึกตจำนวนมากมุ่งไปยังทะเลราตรีรวมถึงเหล่าผีด้วย
" นี้มันเกินอะไรขึ้น ? " หลายคนมุ่งไปยังชายฝั่งและเห็นน้ำที่ใส่กระจ่างพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ พวกเขาขยี้ตาไปมาเพื่อดูว่ามันไม่ใช่ภาพลวงตา
ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็พบว่าเป็นความจริง น้ำทะเลที่เคยดำมืดกลายเป็นใส่กระจ่าง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะกระโดดลงไปในน้ำและตะโกน " มาพวกเราจะไปตรวจสอบกัน ! "
ในตอนนี้ ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์นั้นระวังอย่างมากและทำเพียงจุ่มลงไปในน้ำ เมื่อพวกเขาพบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นพวกเขาก็ลงไปในทะเลราตรี
"ตอนนี้มันไม่เป็นไรแล้ว ทะเลราตรีไม่ทำให้คนจมน้ำอีกต่อไป ! " หลังจากค้นพบว่ามันไม่มีอันตราย ผู้ฝึกตนจำนวนมากพุ่งยังทะเลราตรีราวกับมังกร
ก่อหน้านี้ทะเลราตรีมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านความอันตรายของมัน เมื่อคนตกลงไปในน้ำชะตากรรมของพวกเขาคือความตายและทำให้ทุกคนระวังอย่างมาก
แต่ตอนนี้ทะเลราตรีกลายเป็นไม่อันตรายแล้ว นี้จะไม่ให้พวกเขาตื่นเต้นได้อย่างไร ?
เทียบกับคนนอกที่มีความสุข เหล่าผีในสุสานใหญ่ยังคงระมัดระวัง พวกเขานั้นหวาดกลัวอย่างมากเมื่อเห็นทะเลราตรีใสกระจาง จากนั้นก็จากไปเพราะพวกเขาไม่เต็มใจที่จะอยู่ใกล้ชิดกับชายฝั่ง
" ข้าสงสัยจริงๆว่านี้มันเกิดอะไรขึ้น " ขณะนั้นผู้คนจำนวนมากพยามถึงความเปลี่ยนต่างๆที่เกิดขึ้นในสุสานใหญ่
" ทำไมทะเลราตรีถึงกลายเป็นใส่กระจ่างเช่นนี้ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยพบว่ามันยากที่จะเชื่อจริงๆ
หลี่ฉีเย่นั้นกลายเป็นเงียบหลังจากได้ยินข่าวนี้ เขานั้นมีหลายการคาดเดาที่จะอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่เขาไม่สามารถยืนยันอย่างมั่นใจได้
" ตอนนี้พวกเราควรจะทำอะไร ? เรายังต้องหาคนอยู่อีกรึเปล่า ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ยถามนายน้อยของนาง
" ไม่ พวกเราจะไปยังตำหนักบุปผาบรรพชน ข้าต้องพบคนคนหนึ่ง " หลี่ฉีเย่คิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยตอบ
นางนั้นมองไปยังหลี่ฉีเย่ก่อนจะพบกับรอยยิ้มมุมปากและการแสดงออกอย่างไม่แยแสของเขา ทุกสิ่งเหล่านี้ลัวนตราตรึงอยู่ในหัวใจของนางก่อนที่นางจะรู้ตัว เปลวไฟแห่งความปราถนาลุกไหม้ภายในจิตใจยามนางมองไปยังชายหนุ่มเบื้องหน้า
ฉิวหรงว่านเสวี่ยสูดลมหายใจลึกและรวบรวมความกล้าหาญ นางนั้นใช้มือราวกับหยกของนางโอบไปรอบคอของเขาและไม่สามารถต้านทานความต้องการที่จะอยากจูบเขาได้
เมื่อริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกัน หัวใจของนางนั่นสั่นไหวและสูญเสียการควบคุมร่างกายของตัวเอง แม้ว่าจะกังวลแต่นางก็ยังเลือกจูบเขาต่อไป
ผู้หญิงที่สง่างามคนนี้เปล่งปลั่งเหมือนกันแสงของดวงอาทิตย์ จูบของนางเห็นได้ชัดว่าขาดประสบการณ์อย่างมาก แต่นางก็ยังไม่ถอนริมฝีปากออก
หลี่ฉีเย่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่จะสัมผัสกับริมฝีปากที่อ่อนหวาดและนุ่มนวล จากนั้นเขาก็ใช้มือยกใบหน้าที่งดงามของนางและขึ้นและชิมริมฝีปากที่อ่อนหวานนี้ เขานั้นไม่แสดงความเมตตาแต่อย่างใด ก่อนจะใช้ลิ้นของเขาเกี้ยวพันลิ้นของนางและไม่อนุญาติให้นางหลบหนี
จิตวิญญาณของฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นเกือบจะออกจากร่างเมื่อเจอกับจูบที่รุนแรงของหลี่ฉีเย่ ความเข้มแข็งของร่างกายนางราวกับจะสลายกลายเป็นอากาศและเรื่องที่จะปล่อยทุกอย่างให้เป็นตามอารมณ์ นางนั้นพลักเขาออกเล็กน้อยก่อนจะหอบหายใจด้วยใบหน้าแดงก่ำ พร้อมกับดวงตาที่ถูกมอดไหม้
จูบที่น่าหลงใหลของหลี่ฉีเย่ทำให้นางไร้เรียวแรงและอ่อนแอจนล้มลงสู่อ้อมกอดของหลี่ฉีเย่โดยง่าย เขาลูบหลังของนางและเอ่ยแกล้ง " หัวหน้าที่รัก คืนนี้เจ้าต้องการจะอุ่นเตียงข้าหรือไม่ ? "
ทันใดนั้นร่างของนางก็รู้สึกร้อนผาว นางนั้นไม่สามารถสงบจิตใจได้อีกต่อไปและพลักเขาออก นางไม่กล้าที่จะมองหน้าเขาและเอ่ยอย่างอับอาย " แม้แต่ในฝัน ข้าก็จะไม่อุ่นเตียงเจ้า ! " หลังจากกล่าวเสร็จนางก็จากไปอย่างรวดเร็ว
นางนั้นออกไปอย่างเร่งรีบและทิ้งหลี่ฉีเย่ไว้เบื้องหลัง นางนั้นกัดริมฝีปากของนางขณะนึกถึงฉากที่น่าอับอายก่อนหน้า มันเหมือนกับว่านางนั้นถูกครอบงำโดยเสน่ห์ของเขาและอดไม่ได้ที่จะมอบจูบแรกของนางให้ นางไม่รู้ว่านางไปเอาความกล้าขนาดนี้มาจากที่ใด
สุดท้าย นางก็เต็มไปด้วยความเขินอายและไม่กล้าที่จะคิดถึงเหตุการณ์ที่พึงจะเกิดขึ้น
* * *
เช้าวันต่อมา นางนั้นรู้สึกว่าหน้าร้อนผาวหลังจากเห็นหลี่ฉีเย่ เขาเอ่ยอย่างหยอกล้อ " เมื่อคืนเจ้านอนไม่ค่อยหลับรึ ? " หลี่ฉีเย่เอ่ยถามอย่างไร้เดียงสา
ด้วยความอับอายและความโกรธ นางพยามสูดลมหายใจเข้าลึกและกล่าวอย่างเคร่งขรึม " หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว วันนี้พวกเราจะไปที่ไหนกัน ? "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นมีเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ เมื่อราวกับความเขินอายในแบบสาวแรกรุ่นของนาง นี้ยิ่งทำให้ตัวนางนั้นน่ามองยิ่งขึ้น
หลี่ฉีเย่ยิ้มและตอบอย่างสบายๆ " พวกเราจะไปหาบางคน ข้าไม่รู้ว่าจะหาคนคนนี้เจอหรือไม่ แต่หากพวกเราทำสำเร็จ เช่นนั้นพวกเราจะได้รับข่าวดีบางอย่าง "
จากนั้นพวกเขาก็ออกไปและเดินไปลอบเมือง พวกเขานั้นเดินไปตามตรอกซอกซอยและสังเกตเครื่องหมายรอบตัว พวกเขานั้นเดินไปยังซอยจำนวนมากแต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถหาคนพบได้
หลังจากเดินผ่านมาหลายซอย ฉิวหรงว่านเสวี่ยก็เอ่ยถาม " พวกเราพยามที่จะหาใครอยู่ ? "
" คนที่พยามซ่อนตัวและไม่พบปะกับผู้คน " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย
" ตูม ตูม ! " ทว่าหลังจากที่พวกเขากำลังจะหาต่อ ทั่วทั้งเมือง ไม่สิ ทั่วทั้งสุสานใหญ่ทันใดนั้นก็สั่นไหว
เมืองที่สั่นไหวทำให้ฉิวหรงว่านเสวี่ยหวาดกลัวและเอ่ยถาม " นี้มันเกิดอะไรขึ้น ? "
หลี่ฉีเย่รู้สึกได้ว่าสวรรค์และปฐพีกำลังสั่นสะเทือนจากนั้นเขาก็โอบฉิวหรงว่านเสวี่ยและพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้า เขาทันใดนั้นก็มองไปยังทะเลราตรีและเอ่ย " มันมาจากทะเลราตรี ! "
" ตูม " ทะเลราตรีนั้นอยู่ไม่ห่างไกลจากสถานที่ที่หลี่ฉีเย่อยู่ ทุกคนนั้นเห็นฉากที่น่ากลัวนี้ เสียงสาดกระเด็นของน้ำนั้นพุ่งขึ้นออกมาก่อนจะเห็นเสาน้ำหลายเสาพุ่งขึ้นเจาะขึ้นไปยังเก้าชั้นฟ้า คลื่นของเสาน้ำเหล่านี้ราวกับจะกวาดผ่านดวงดาราข้างบน
หลังจากมันพุ่งขึ้นไปถึงระดับความสูงที่น่าเหลือเชื่อ มันก็เริ่มที่จะสลายตัวลงมาและสร้างเป็นคลื่นขนาดใหญ่ส่งเสียงดังไปทั่วสุสานใหญ่
ทุกคนนั้นตกอยู่ในความหวาดกลัว รวมถึงเหล่าผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ที่มาจากด้านนอก
ไม่นานหลังจากนั้นคลื่นก็เริ่มจะสงบลง แต่หลายคนก็ยังคงสั่นเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
" มันจะต้องมีบางอย่างในทะเลราตรี " หลี่ฉีเย่พึมพำ การแสดงออกของเขานั้นเปลี่ยนเมื่อตระหนักได้ถึงบางสิ่ง
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นตกตะลึงอย่างสมบูรณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันนี้ นางนั้นไม่เคยได้ยินว่ามีเสายักษ์ปรากฏมาก่อน เสายักษ์ที่พยามจะเจาะผ่านเก้าชั้นฟ้า - นี้มันน่ากลัวเกิดขึ้น มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น ?
" นี้กำลังจะเกิดอะไรขึ้น ? พวกเราจะต้องไปที่ทะเลราตรีเพื่อตรวจดูหรือไม่ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยที่กำลังหวาดกลัวเอ่ยถามหลี่ฉีเย่
ทว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องไปยังทะเลราตรี ภายในเวลาสั้นๆข่าวใหม่ก็แพร่กระจายไปทั่วสุสานใหญ่ ข่าวนี้นั้นมาจากผู้ฝึกตนจากด้านนอก
" ทะเลราตรีตอนนี้ใส่กระจางแล้ว ! " ข่าวนี้ทำให้ทุกคนในสุสานใหญ่ตกตะลึง
"ทะเลราตรีตอนนี้ใส่กระจาง ? เป็นไปไม่ได้ ! " นี้คือการแสดงออกเมื่อผู้คนได้ยินข่าวนี้
คนในท้องที่ล้วนไม่มีใครเชื่อ กระทั้งผีก็ยังไม่เชื่อชิ้นส่วนของข่าวนี้
หลายล้านปีที่ผ่านมา ทะเลราตรีนั้นมืดราวกับน้ำหมึก แม้แต่คนที่อยู่มายาวนานที่สุดก็ยังไม่เคยเห็นทะเลราตรีใสกระจ่าง
" นี้มันเป็นเรื่องจริง ไม่เพียงแต่มันจะใส่กระจ่าง มันยังไม่มีอำนาจของลางร้ายอีกด้วย ทุกคนสามารถเข้าไปได้โดยปราศจากอันตรายและผู้ดูแลก็หายไปเช่นกัน ข้ามีสหายที่จับปลาอยู่ เขานั้นถูกส่งขึ้นไปยังท้องฟ้าเมื่อคลื่นยักษ์ปรากฏและต้องตายแน่หากตกลงไปในทะเลราตรี แต่ทะเลนั้นเปลี่ยนเป็นใสกระจ่างและเขาไม่ตาย ! "
" นี้มันเป็นไปได้อย่างไร..." หลายคนไปเพื่อตรวจสอบ เมื่อมีการเปลี่ยนนี้เกิดขึ้นหลายคนที่กำลังตกปลาอยู่ล้วนถูกซัดลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เมื่อพวกเขาคิดว่าตกลงมาตายแน่ แต่เมื่อพวกเขาตกลงไปกับพบว่าไม่มีอันตรายและผู้ดูแลทั้งหมดหายไป
แม้ว่าจะมีสภาพแวดล้อมที่ไร้ความเสี่ยง แต่หลายคนก็ยังวิ่งออกห่างจากทะเลราตรี
หลังจากได้รับการยืนยัน ผู้ฝึกตจำนวนมากมุ่งไปยังทะเลราตรีรวมถึงเหล่าผีด้วย
" นี้มันเกินอะไรขึ้น ? " หลายคนมุ่งไปยังชายฝั่งและเห็นน้ำที่ใส่กระจ่างพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ พวกเขาขยี้ตาไปมาเพื่อดูว่ามันไม่ใช่ภาพลวงตา
ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็พบว่าเป็นความจริง น้ำทะเลที่เคยดำมืดกลายเป็นใส่กระจ่าง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะกระโดดลงไปในน้ำและตะโกน " มาพวกเราจะไปตรวจสอบกัน ! "
ในตอนนี้ ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์นั้นระวังอย่างมากและทำเพียงจุ่มลงไปในน้ำ เมื่อพวกเขาพบว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นพวกเขาก็ลงไปในทะเลราตรี
"ตอนนี้มันไม่เป็นไรแล้ว ทะเลราตรีไม่ทำให้คนจมน้ำอีกต่อไป ! " หลังจากค้นพบว่ามันไม่มีอันตราย ผู้ฝึกตนจำนวนมากพุ่งยังทะเลราตรีราวกับมังกร
ก่อหน้านี้ทะเลราตรีมีชื่อเสียงอย่างมากในด้านความอันตรายของมัน เมื่อคนตกลงไปในน้ำชะตากรรมของพวกเขาคือความตายและทำให้ทุกคนระวังอย่างมาก
แต่ตอนนี้ทะเลราตรีกลายเป็นไม่อันตรายแล้ว นี้จะไม่ให้พวกเขาตื่นเต้นได้อย่างไร ?
เทียบกับคนนอกที่มีความสุข เหล่าผีในสุสานใหญ่ยังคงระมัดระวัง พวกเขานั้นหวาดกลัวอย่างมากเมื่อเห็นทะเลราตรีใสกระจาง จากนั้นก็จากไปเพราะพวกเขาไม่เต็มใจที่จะอยู่ใกล้ชิดกับชายฝั่ง
" ข้าสงสัยจริงๆว่านี้มันเกิดอะไรขึ้น " ขณะนั้นผู้คนจำนวนมากพยามถึงความเปลี่ยนต่างๆที่เกิดขึ้นในสุสานใหญ่
" ทำไมทะเลราตรีถึงกลายเป็นใส่กระจ่างเช่นนี้ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยพบว่ามันยากที่จะเชื่อจริงๆ
หลี่ฉีเย่นั้นกลายเป็นเงียบหลังจากได้ยินข่าวนี้ เขานั้นมีหลายการคาดเดาที่จะอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ แต่เขาไม่สามารถยืนยันอย่างมั่นใจได้
" ตอนนี้พวกเราควรจะทำอะไร ? เรายังต้องหาคนอยู่อีกรึเปล่า ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ยถามนายน้อยของนาง
" ไม่ พวกเราจะไปยังตำหนักบุปผาบรรพชน ข้าต้องพบคนคนหนึ่ง " หลี่ฉีเย่คิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยตอบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น