ตอนที่ 454 หวังเจียงฟู่
ทว่าโดยนิสัยของหัวหน้าเผ่าทำให้นางต้องระวังอยู่เสมอ ดังนั้นนางจึงระวังชายคนนี้อย่างมาก
หลี่ฉีเย่เหลือบมองไปยังชายหนุ่มที่ใกล้เข้ามาและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " เจ้าแน่นอนว่าเคยมาที่นี่มาก่อน ข้าเคยเห็นเจ้า น่าสนใจ น่าสนใจ..."
ผีในผ้าคลุมสีเหลืองนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ฮี่ฮี่ ข้าชอบการให้บริการลูกค้ามากที่สุด ชายผู้ต่ำต้อยคนนี้ทำเพียงธุระกิจเล็กน้อยเพื่อหาของให้กับตระกูลในแต่ละวัน และค่อยจัดหาสิ่งของให้ลูกค้า "
หลี่ฉีเย่มองดูเขาและเอ่ย " ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่หวังเจียงฟู่คนที่มีตำนานมากมาย กลายเป็นคนทำธุระกิจเล็กน้อยให้กับตระกูล ? ไม่ข้าควรจะเรียกเจ้าว่าผีธุระ "
" นั้นแน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับลูกค้า " ชายในชุดคลุมสีเหลืองไม่ได้สนใจคำนินทาของหลี่ฉีเย่และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ตำนานของข้านั้นเป็นเพียงเรื่องธรรมดาสำหรับลูกค้าทั่วไป ข้าได้ยินว่าท่านถึงกับเข้าไปยังตำหนักบุปผาบรรพชนในฐานะแขกผู้ทรงเกียรติได้ ต่อหน้าท่านคนที่เป็นตัวตนอมตะจากเก้าโลกและลูกหลานของโลกมนุษย์ ข้าเป็นตัวตนที่ไม่มีความสำคัญใดๆ "
" อ่า ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าต้องการให้ข้าช่วยติดต่อกับเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนให้ " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย " หวังเจียงฟู่อ่าหวังเจียงฟู่ หัวใจที่เจ้าเล่ห์ของเจ้ายังไม่เคยเปลี่ยน "
" ดังนั้นลูกค้าท่านนี้คงจะรู้ความสำคัญของมัน ? " หวังเจียงฟู่พยามสร้างความสัมพันธ์กับหลี่ฉีเย่อย่างกระตือรือร้น
" หวังเจียงฟู่เจ้าตายมากี่ครั้งแล้ว ? " หลี่ฉีเย่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มขณะมองอย่างจริงจัง
หวังเจียงฟู่นั้นผงะก่อนจะค่อยๆเกาหน้าของเขาและเอ่ย " ลูกค้าที่รัก ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดเรื่องอะไร ข้ายังเป็นผู้เยาว์ ด้วยพื้นฐานของอายุนี้ในสุสานใหญ่ ข้าสามารถอยู่ได้อีกหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นปีอย่างไม่มีปัญหา "
หลี่ฉีเย่หัวเราะก่อนจะส่ายหัวและเอ่ย " หวังเจียงฟู่ เจ้าไม่ได้เปลี่ยนไปจริงๆ กลับไปเรื่องเดิม ข้ามีบางอย่างให้เจ้าหา "
" ไม่ทราบลูกค้าท่านนี้ต้องการอะไร ? ข้ารับประกันได้ว่าข้าสามารถเติมเต็มความต้องการของท่านได้หรือหาสิ่งที่ท่านต้องการได้ทันที " หวังเจียงฟู่ตอบอย่างจริงจัง
หลี่ฉีเย่เอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง " ข้าต้องการไม่มาก เพียงของธรรมดาอย่าง คัมภีร์พรสวรรค์ , ทักษะชีวิต และทักษะจากสุสานใหญ่ ทุกสิ่งต้องอยู่ในระดับบรรพชนเที่ยงธรรม มันต้องคุ้มค่ต้องผู้เชียวชาญศักดิ์สิทธิ์ "
" นี้อาจจะยากสักเล็กน้อย " หวังเจียงฟู่ยิ้มและถูมือไปมา
หลี่ฉีเย่เหลือบมองไปที่เขาและเอ่ย " ข้าจะขว้างเจ้าไปยังทะเลราตรี ! หากมีสิ่งใดที่หวังเจียงฟู่ไม่สามารถหาได้ในสุสานใหญ่ เช่นนั้นคนอื่นในโลกก็หาไม่ได้ ! "
" ฮ่าฮ่า นายท่านล้อเล่นแล้ว " หวังเจียงฟู่ยิ้มเอ่ย " นายท่านควรจะรู้ว่ามันมีราคา เหล่าคนที่ตายในสุสานใหญ่ล้วนจมไปยังแม่น้ำ แม้ว่าจะมีคนจำนวนมากที่เต็มใจจะตายทีนี่ แต่ร่างกายของพวกเขาก็ยากที่จะพบ "
หลี่ฉีเย่โบกมือของเขาและกล่าวอย่างใจเย็น " เอาละหวังเจียงฟู่ อย่าได้พูดอ้อมค้อม ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า เพียงหาของให้ข้าและบอกราคาเป็นปลาหหยางราตรีมา "
หวังเจียงฟู่หัวเราะก่อนที่เขาจะตบขาตัวเองและเอ่ย " อ่า ข้าพึงนึกได้ว่าข้ามีกล่องที่เก็บของพวกนั้นอยู่พอดี "
จากนั้นเขาก็เอากล่องออกมาจากแขนของเขาและมอบมันให้กับหลี่ฉีเย่และเอ่ย " นายท่านโปรดดูว่าท่านชอบมันหรือไม่ "
หลี่ฉีเย่เปิดกล่องก่อนจะพยักหน้าและเอ่ย " เด็กน้อย เจ้าซ่อนของดีไว้มากจริงๆ "
หลี่ฉีเย่มอบกล่องให้ฉิวหรงว่านเสวี่ยและเอ่ย " มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหาคู่มือที่สูญหายของเผ่าเงาหิมะ แต่นี้เป็นคู่มือที่เหมาะสมกับเผ่าของเจ้า มันเป็นสิ่งที่ดีเจ้าควรจะนำมันกลับไป "
" แต่นี้..! " ฉิวหรงว่านเสวี่ยอุทานด้วยความตกตะลึง จมูกของนางนั้นแดงก่ำและดวงตาของนางนั้นเคลือบด้วยน้ำตา หัวใจของนางนั้นละลายด้วยความอ่อนนุ่มและพยามจะวิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหลี่ฉีเย่และซบมันไว้ แต่นางพยามอย่างมากที่จะไม่ทำ
ในฐานะหัวหน้าเผ่า นางเป็นสตรีที่มีอารมณ์มั่นคงและไม่อ่อนไหว แต่ตอนนี้นางอ่อนไหวอย่างมาก
นางมาถึงสุสานใหญ่เพื่อที่จะตามหาคู่มือที่หายไปของเผ่าเงาหิมะ นางแน่นอนว่าไม่มีหวังแต่หลี่ฉีเย่ยังจำเรื่องนี้ได้
คู่มือเหล่านี้ล้วนมีระดับบรรพชนเที่ยงธรรมและผู้ได้รับฉายาศักดิ์สิทธิ์ คู่มือเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ! แต่หลี่ฉีเย่มอบมันให้กับนาง
หลี่ฉีเย่รู้สึกได้ถึงอารมณ์ของนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " คัมภีร์ของเผ่าพันธ์ผีนั้นไม่เหมาะกับข้า เจ้าควรจะเก็บมันไว้ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยพยามที่จะไม่ร้องไห้และสูดลมหายใจเข้าลึก นางนั้นเก็บกล่องที่ได้รับมาจากหลี่ฉีเย่กลับไปและสาบานว่าจะทำตามสิ่งที่หลี่ฉีเย่ต้องการทุกอย่างนับจากนี้
หลังจากนางรับกล่องไป หลี่ฉีเย่เอ่ยถามหวังเจียงฟู่ " เจ้าต้องการปลาหยางราตรีจำนวนเท่าไหร่ ? "
หวังเจียงฟู่เอ่ยตอยบด้วยรอยยิ้ม " มันเป็นสิ่งที่ดีที่ได้เห็นนายน้อยมอบของขวัญให้สาวงาม ข้าน้อยคนนี้ไม่กล้าที่จะเรียกมาก เพียงหนึ่งร้อยปลาหยางราตรีก็พอ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หนึ่งร้อยปลาหยางราตรีแน่นอนว่ามันไม่เพียงพอจะซื้อคู่มือและคัมภีร์เหล่านี้
" หวังเจียงฟู่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจ้าเป็นคนมักน้อยเช่นนี้ ? " หลี่ฉีเย่หรี่สายตาของเขาและจ้องคนตรงหน้า " เอาละ หนึ่งร้อยปลาหยางราตรี ตอนนี้บอกสิ่งที่เจ้าต้องการมา " หลังจากกล่าวเสร็จเขาก็มอบปลาหยางราตรีร้อยตัวให้กับหวังเจียงฟู่
หลังจากรับปลามาแล้ว หวังเจียงฟู่มองหลี่ฉีเย่อย่างระมัดระวังก่อนจะเอ่ย " นายน้อย ข้ารู้ว่าท่านเป็นตัวตนอมตะในโลกของเรา แน่นอนว่าท่านต้องเป็นจักพรรรดิอมตะที่น่าประทับใจ ข้าน้อยคนมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ' กำปั้นขยี้มังกร ' พิจรณาจากเรื่องนี้มันอาจจะเหมาะกับท่าน "
" กำปั้นขยี้มังกร ? " หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างประหลาดใจ " นี้เป็นทักษะโบราณที่เก่าแก่มาก ข้าจำได้ว่ามันไม่ปรากฏเป็นเวลานานแล้ว สิ่งนี้กระทั้งดึงดูดได้แม้แต่เชื้อสายจักรพรรดิ "
หวังเจียงฟู่ยิ้มในทันที " มันมีคำกล่าวว่า หญิงงามนั้นย่อมคู่กับวีรบุรุษ มีเพียงคนที่มีตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นท่านเท่านั้นที่เหมาะกับทักษะโบราณนี้ ท่านไม่คิดเช่นนั้นรึ ? "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นแปลกใจอย่างมาก แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าทักษะกำปั้นขยี้มังกรเป็นอย่างไร การที่มันสามารถดึงดูดเชื้อสายจักรพรรดิได้ย่อมมีค่ามาก นางเข้าใจได้ว่าการที่หวังเจียงฟู่ขายคู่มือให้หลี่ฉีเย่ในราคาต่ำก่อนหน้า ก็เพื่อจุดประสงค์นี้
" หวังเจียงฟู่ อ่าหวังเจียงฟู่.." หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาและเอ่ย " หากข้าจำไม่ผิดเจ้าเป็นคนที่ขี้เหนียวและขี้โกงอย่างมาก ดังนั้นนี้คือเหตุผลที่เจ้าใจกว้างก่อนหน้า ? พูดมาตรงๆ อย่าได้อ้อมค้อม "
หวังเจียงฟู่บังคับรอยยิ้มของเขาและถูมือของเขาไปมาอย่างลังเล " ข้า..ข้ามีเรื่องอยากให้นายน้อยช่วย ข้ามีเรื่องอยากให้นายน้อยช่วยพูดกับท่านเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนเกี่ยวกับ...ข้าน้อยต้องการจะออกจากสุสานใหฯญ่ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นตกตะลึงในทันที ออกจากสุสานใหญ่ ? นี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นางไม่เคยได้ยินว่ามีผีตนใดสามารถออกจากสุสานใหญ่ได้มาก่อน นั้นจะต้องเป็นกรณีที่พิเศษอย่างยิ่ง
" ให้ข้าไปพูดกับเจ้าตำหนัก ? " หลี่ฉีเย่มองไปที่เขาและเอ่ย " หวังเจียงฟู่ เจ้าควรจะรู้ว่าไม่มีใครออกจากสุสานใหญ่ได้ อย่างน้อยพวกเจ้าก็ไม่สามารถ "
" ไม่ นายน้อยมีคนเคยออกไปได้มาก่อน " หวังเจียงฟู่เอ่ยอย่างรวดเร็ว " ข้านั้นออกไปได้สำเร็จ แม้ว่าข้าจะไม่รู้รายละเอียดที่ชัดเจน มันดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการอนุญาติจากท่านเจ้าตำหนัก "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยเหลือบมองไปยังหลี่ฉีเย่ ย้อนกลับไปยังก่อนหน้าที่เจ้าตำหนักคุยกับหลี่ฉีเย่เรื่องที่เขาหลอกลวงและพาคนคนหนึ่งออกไปจากสุสานใหญ่ นี้หมายความว่าปีนั้นนายน้อยทำมันสำเร็จและพาผีตนหนึ่งออกจากสุสานใหญ่ได้
ทว่า นางไม่รู้ว่าคนที่จากไปในอดีตนั้นไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนความรู้สึก !
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างหลี่ฉีเย่และเจ้าตำหนัก แต่นางรู้สึกว่าพวกเขานั้นแตกแยกกันเพราะเรื่องนี้
หลี่ฉีเย่เหลือบมองไปที่เขาและเอ่ย " หวังเจียงฟู่เอ่ยหวังเจียงฟู่ เจ้ายังไม่ยอมแพ้เรื่องนี้ เจ้านั้นตายอีกครั้งและอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ "
" ฮ่าฮ่า ข้าน้อยที่ต่ำต้อยคนนี้ไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร " หวังเจียงฟู่ปาดเหงื่อบนหน้าผากอย่างสับสน
หลี่ฉีเย่จ้องไปในดวงตาของเขาและเอ่ยอย่างจริงจัง " หวังเจียงฟู่ เจ้าไม่ใช่มนุษย์และเป็นเพียงกลุ่มความรู้สึกในสุสานใหญ่ เมื่อเจ้าออกจากเมืองนี้เจ้าจะกลายเป็นควัน แม้ว่าเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนจะให้เจ้าไป เจ้าก็ยังไม่สามารถออกจากสถานที่นี่ได้ ความพยามของเจ้าจะกลายเป็นสูญเปล่า "
หวังเจียงฟู่สูดลมหายใจเข้าลึกและเอ่ย " นายท่าน ข้ารู้สึกได้ ข้ารู้สึกถึงชีวิตและการคงอยู่ในสุสานใหญ่ "
สายตาของหลี่ฉีเย่กลายเป็นจริงจังและจ้องไปยังดวงตาที่สดใสของหวังเจียงฟู่และเอ่ย " หวังเจียงฟู่ ร่างกายของเจ้านั้นถูกสร้างใหม่มาแปดครั้งแล้วใช่หรือไม่ ? "
หวังเจียงฟู่เกาหน้าของเขาและเอ่ย " ข้าไม่รู้ว่านายท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ทว่าข้ารู้สึกได้ว่าภายในตัวข้า ข้าสามารถออกจากสุสานใหญ่ได้ "
หลี่ฉีเย่จองไปยังหวังเจียงฟู่ด้วยความเงียบ ในอดีต จักรพรรดิอมตะหมิงตู่นั้นออกจากสุสานใหญ่ไป ความจริงก็คือเขานั้นมีอการเหมือนกับหวังเจียงฟู่ในเวลานี้ แต่เขาแตกต่างจากจักรพรรดิอมตะหมิงตู่ ที่จริงเขานั้นแตกต่างจากทุกคน ด้วยเวลาที่เพียงพอเขาจะหลุดพ้นออกจากรังไหมและกลายเป็นผีเสื้อที่งดงาม
ทว่าเรื่องนี้นั้นห่างไกลจากคำว่าง่ายอยู่มากโข...
ทว่าโดยนิสัยของหัวหน้าเผ่าทำให้นางต้องระวังอยู่เสมอ ดังนั้นนางจึงระวังชายคนนี้อย่างมาก
หลี่ฉีเย่เหลือบมองไปยังชายหนุ่มที่ใกล้เข้ามาและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " เจ้าแน่นอนว่าเคยมาที่นี่มาก่อน ข้าเคยเห็นเจ้า น่าสนใจ น่าสนใจ..."
ผีในผ้าคลุมสีเหลืองนั้นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ฮี่ฮี่ ข้าชอบการให้บริการลูกค้ามากที่สุด ชายผู้ต่ำต้อยคนนี้ทำเพียงธุระกิจเล็กน้อยเพื่อหาของให้กับตระกูลในแต่ละวัน และค่อยจัดหาสิ่งของให้ลูกค้า "
หลี่ฉีเย่มองดูเขาและเอ่ย " ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่หวังเจียงฟู่คนที่มีตำนานมากมาย กลายเป็นคนทำธุระกิจเล็กน้อยให้กับตระกูล ? ไม่ข้าควรจะเรียกเจ้าว่าผีธุระ "
" นั้นแน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับลูกค้า " ชายในชุดคลุมสีเหลืองไม่ได้สนใจคำนินทาของหลี่ฉีเย่และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ตำนานของข้านั้นเป็นเพียงเรื่องธรรมดาสำหรับลูกค้าทั่วไป ข้าได้ยินว่าท่านถึงกับเข้าไปยังตำหนักบุปผาบรรพชนในฐานะแขกผู้ทรงเกียรติได้ ต่อหน้าท่านคนที่เป็นตัวตนอมตะจากเก้าโลกและลูกหลานของโลกมนุษย์ ข้าเป็นตัวตนที่ไม่มีความสำคัญใดๆ "
" อ่า ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าต้องการให้ข้าช่วยติดต่อกับเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนให้ " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย " หวังเจียงฟู่อ่าหวังเจียงฟู่ หัวใจที่เจ้าเล่ห์ของเจ้ายังไม่เคยเปลี่ยน "
" ดังนั้นลูกค้าท่านนี้คงจะรู้ความสำคัญของมัน ? " หวังเจียงฟู่พยามสร้างความสัมพันธ์กับหลี่ฉีเย่อย่างกระตือรือร้น
" หวังเจียงฟู่เจ้าตายมากี่ครั้งแล้ว ? " หลี่ฉีเย่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มขณะมองอย่างจริงจัง
หวังเจียงฟู่นั้นผงะก่อนจะค่อยๆเกาหน้าของเขาและเอ่ย " ลูกค้าที่รัก ข้าไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดเรื่องอะไร ข้ายังเป็นผู้เยาว์ ด้วยพื้นฐานของอายุนี้ในสุสานใหญ่ ข้าสามารถอยู่ได้อีกหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นปีอย่างไม่มีปัญหา "
หลี่ฉีเย่หัวเราะก่อนจะส่ายหัวและเอ่ย " หวังเจียงฟู่ เจ้าไม่ได้เปลี่ยนไปจริงๆ กลับไปเรื่องเดิม ข้ามีบางอย่างให้เจ้าหา "
" ไม่ทราบลูกค้าท่านนี้ต้องการอะไร ? ข้ารับประกันได้ว่าข้าสามารถเติมเต็มความต้องการของท่านได้หรือหาสิ่งที่ท่านต้องการได้ทันที " หวังเจียงฟู่ตอบอย่างจริงจัง
หลี่ฉีเย่เอ่ยด้วยรอยยิ้มกว้าง " ข้าต้องการไม่มาก เพียงของธรรมดาอย่าง คัมภีร์พรสวรรค์ , ทักษะชีวิต และทักษะจากสุสานใหญ่ ทุกสิ่งต้องอยู่ในระดับบรรพชนเที่ยงธรรม มันต้องคุ้มค่ต้องผู้เชียวชาญศักดิ์สิทธิ์ "
" นี้อาจจะยากสักเล็กน้อย " หวังเจียงฟู่ยิ้มและถูมือไปมา
หลี่ฉีเย่เหลือบมองไปที่เขาและเอ่ย " ข้าจะขว้างเจ้าไปยังทะเลราตรี ! หากมีสิ่งใดที่หวังเจียงฟู่ไม่สามารถหาได้ในสุสานใหญ่ เช่นนั้นคนอื่นในโลกก็หาไม่ได้ ! "
" ฮ่าฮ่า นายท่านล้อเล่นแล้ว " หวังเจียงฟู่ยิ้มเอ่ย " นายท่านควรจะรู้ว่ามันมีราคา เหล่าคนที่ตายในสุสานใหญ่ล้วนจมไปยังแม่น้ำ แม้ว่าจะมีคนจำนวนมากที่เต็มใจจะตายทีนี่ แต่ร่างกายของพวกเขาก็ยากที่จะพบ "
หลี่ฉีเย่โบกมือของเขาและกล่าวอย่างใจเย็น " เอาละหวังเจียงฟู่ อย่าได้พูดอ้อมค้อม ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า เพียงหาของให้ข้าและบอกราคาเป็นปลาหหยางราตรีมา "
หวังเจียงฟู่หัวเราะก่อนที่เขาจะตบขาตัวเองและเอ่ย " อ่า ข้าพึงนึกได้ว่าข้ามีกล่องที่เก็บของพวกนั้นอยู่พอดี "
จากนั้นเขาก็เอากล่องออกมาจากแขนของเขาและมอบมันให้กับหลี่ฉีเย่และเอ่ย " นายท่านโปรดดูว่าท่านชอบมันหรือไม่ "
หลี่ฉีเย่เปิดกล่องก่อนจะพยักหน้าและเอ่ย " เด็กน้อย เจ้าซ่อนของดีไว้มากจริงๆ "
หลี่ฉีเย่มอบกล่องให้ฉิวหรงว่านเสวี่ยและเอ่ย " มันอาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะหาคู่มือที่สูญหายของเผ่าเงาหิมะ แต่นี้เป็นคู่มือที่เหมาะสมกับเผ่าของเจ้า มันเป็นสิ่งที่ดีเจ้าควรจะนำมันกลับไป "
" แต่นี้..! " ฉิวหรงว่านเสวี่ยอุทานด้วยความตกตะลึง จมูกของนางนั้นแดงก่ำและดวงตาของนางนั้นเคลือบด้วยน้ำตา หัวใจของนางนั้นละลายด้วยความอ่อนนุ่มและพยามจะวิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหลี่ฉีเย่และซบมันไว้ แต่นางพยามอย่างมากที่จะไม่ทำ
ในฐานะหัวหน้าเผ่า นางเป็นสตรีที่มีอารมณ์มั่นคงและไม่อ่อนไหว แต่ตอนนี้นางอ่อนไหวอย่างมาก
นางมาถึงสุสานใหญ่เพื่อที่จะตามหาคู่มือที่หายไปของเผ่าเงาหิมะ นางแน่นอนว่าไม่มีหวังแต่หลี่ฉีเย่ยังจำเรื่องนี้ได้
คู่มือเหล่านี้ล้วนมีระดับบรรพชนเที่ยงธรรมและผู้ได้รับฉายาศักดิ์สิทธิ์ คู่มือเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ ! แต่หลี่ฉีเย่มอบมันให้กับนาง
หลี่ฉีเย่รู้สึกได้ถึงอารมณ์ของนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " คัมภีร์ของเผ่าพันธ์ผีนั้นไม่เหมาะกับข้า เจ้าควรจะเก็บมันไว้ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยพยามที่จะไม่ร้องไห้และสูดลมหายใจเข้าลึก นางนั้นเก็บกล่องที่ได้รับมาจากหลี่ฉีเย่กลับไปและสาบานว่าจะทำตามสิ่งที่หลี่ฉีเย่ต้องการทุกอย่างนับจากนี้
หลังจากนางรับกล่องไป หลี่ฉีเย่เอ่ยถามหวังเจียงฟู่ " เจ้าต้องการปลาหยางราตรีจำนวนเท่าไหร่ ? "
หวังเจียงฟู่เอ่ยตอยบด้วยรอยยิ้ม " มันเป็นสิ่งที่ดีที่ได้เห็นนายน้อยมอบของขวัญให้สาวงาม ข้าน้อยคนนี้ไม่กล้าที่จะเรียกมาก เพียงหนึ่งร้อยปลาหยางราตรีก็พอ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หนึ่งร้อยปลาหยางราตรีแน่นอนว่ามันไม่เพียงพอจะซื้อคู่มือและคัมภีร์เหล่านี้
" หวังเจียงฟู่ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เจ้าเป็นคนมักน้อยเช่นนี้ ? " หลี่ฉีเย่หรี่สายตาของเขาและจ้องคนตรงหน้า " เอาละ หนึ่งร้อยปลาหยางราตรี ตอนนี้บอกสิ่งที่เจ้าต้องการมา " หลังจากกล่าวเสร็จเขาก็มอบปลาหยางราตรีร้อยตัวให้กับหวังเจียงฟู่
หลังจากรับปลามาแล้ว หวังเจียงฟู่มองหลี่ฉีเย่อย่างระมัดระวังก่อนจะเอ่ย " นายน้อย ข้ารู้ว่าท่านเป็นตัวตนอมตะในโลกของเรา แน่นอนว่าท่านต้องเป็นจักพรรรดิอมตะที่น่าประทับใจ ข้าน้อยคนมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ ' กำปั้นขยี้มังกร ' พิจรณาจากเรื่องนี้มันอาจจะเหมาะกับท่าน "
" กำปั้นขยี้มังกร ? " หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างประหลาดใจ " นี้เป็นทักษะโบราณที่เก่าแก่มาก ข้าจำได้ว่ามันไม่ปรากฏเป็นเวลานานแล้ว สิ่งนี้กระทั้งดึงดูดได้แม้แต่เชื้อสายจักรพรรดิ "
หวังเจียงฟู่ยิ้มในทันที " มันมีคำกล่าวว่า หญิงงามนั้นย่อมคู่กับวีรบุรุษ มีเพียงคนที่มีตัวตนที่ยิ่งใหญ่เช่นท่านเท่านั้นที่เหมาะกับทักษะโบราณนี้ ท่านไม่คิดเช่นนั้นรึ ? "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นแปลกใจอย่างมาก แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าทักษะกำปั้นขยี้มังกรเป็นอย่างไร การที่มันสามารถดึงดูดเชื้อสายจักรพรรดิได้ย่อมมีค่ามาก นางเข้าใจได้ว่าการที่หวังเจียงฟู่ขายคู่มือให้หลี่ฉีเย่ในราคาต่ำก่อนหน้า ก็เพื่อจุดประสงค์นี้
" หวังเจียงฟู่ อ่าหวังเจียงฟู่.." หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาและเอ่ย " หากข้าจำไม่ผิดเจ้าเป็นคนที่ขี้เหนียวและขี้โกงอย่างมาก ดังนั้นนี้คือเหตุผลที่เจ้าใจกว้างก่อนหน้า ? พูดมาตรงๆ อย่าได้อ้อมค้อม "
หวังเจียงฟู่บังคับรอยยิ้มของเขาและถูมือของเขาไปมาอย่างลังเล " ข้า..ข้ามีเรื่องอยากให้นายน้อยช่วย ข้ามีเรื่องอยากให้นายน้อยช่วยพูดกับท่านเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนเกี่ยวกับ...ข้าน้อยต้องการจะออกจากสุสานใหฯญ่ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นตกตะลึงในทันที ออกจากสุสานใหญ่ ? นี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ นางไม่เคยได้ยินว่ามีผีตนใดสามารถออกจากสุสานใหญ่ได้มาก่อน นั้นจะต้องเป็นกรณีที่พิเศษอย่างยิ่ง
" ให้ข้าไปพูดกับเจ้าตำหนัก ? " หลี่ฉีเย่มองไปที่เขาและเอ่ย " หวังเจียงฟู่ เจ้าควรจะรู้ว่าไม่มีใครออกจากสุสานใหญ่ได้ อย่างน้อยพวกเจ้าก็ไม่สามารถ "
" ไม่ นายน้อยมีคนเคยออกไปได้มาก่อน " หวังเจียงฟู่เอ่ยอย่างรวดเร็ว " ข้านั้นออกไปได้สำเร็จ แม้ว่าข้าจะไม่รู้รายละเอียดที่ชัดเจน มันดูเหมือนว่าเขาจะได้รับการอนุญาติจากท่านเจ้าตำหนัก "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยเหลือบมองไปยังหลี่ฉีเย่ ย้อนกลับไปยังก่อนหน้าที่เจ้าตำหนักคุยกับหลี่ฉีเย่เรื่องที่เขาหลอกลวงและพาคนคนหนึ่งออกไปจากสุสานใหญ่ นี้หมายความว่าปีนั้นนายน้อยทำมันสำเร็จและพาผีตนหนึ่งออกจากสุสานใหญ่ได้
ทว่า นางไม่รู้ว่าคนที่จากไปในอดีตนั้นไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนความรู้สึก !
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างหลี่ฉีเย่และเจ้าตำหนัก แต่นางรู้สึกว่าพวกเขานั้นแตกแยกกันเพราะเรื่องนี้
หลี่ฉีเย่เหลือบมองไปที่เขาและเอ่ย " หวังเจียงฟู่เอ่ยหวังเจียงฟู่ เจ้ายังไม่ยอมแพ้เรื่องนี้ เจ้านั้นตายอีกครั้งและอีกครั้งแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ "
" ฮ่าฮ่า ข้าน้อยที่ต่ำต้อยคนนี้ไม่รู้ว่าท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร " หวังเจียงฟู่ปาดเหงื่อบนหน้าผากอย่างสับสน
หลี่ฉีเย่จ้องไปในดวงตาของเขาและเอ่ยอย่างจริงจัง " หวังเจียงฟู่ เจ้าไม่ใช่มนุษย์และเป็นเพียงกลุ่มความรู้สึกในสุสานใหญ่ เมื่อเจ้าออกจากเมืองนี้เจ้าจะกลายเป็นควัน แม้ว่าเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนจะให้เจ้าไป เจ้าก็ยังไม่สามารถออกจากสถานที่นี่ได้ ความพยามของเจ้าจะกลายเป็นสูญเปล่า "
หวังเจียงฟู่สูดลมหายใจเข้าลึกและเอ่ย " นายท่าน ข้ารู้สึกได้ ข้ารู้สึกถึงชีวิตและการคงอยู่ในสุสานใหญ่ "
สายตาของหลี่ฉีเย่กลายเป็นจริงจังและจ้องไปยังดวงตาที่สดใสของหวังเจียงฟู่และเอ่ย " หวังเจียงฟู่ ร่างกายของเจ้านั้นถูกสร้างใหม่มาแปดครั้งแล้วใช่หรือไม่ ? "
หวังเจียงฟู่เกาหน้าของเขาและเอ่ย " ข้าไม่รู้ว่านายท่านกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ทว่าข้ารู้สึกได้ว่าภายในตัวข้า ข้าสามารถออกจากสุสานใหญ่ได้ "
หลี่ฉีเย่จองไปยังหวังเจียงฟู่ด้วยความเงียบ ในอดีต จักรพรรดิอมตะหมิงตู่นั้นออกจากสุสานใหญ่ไป ความจริงก็คือเขานั้นมีอการเหมือนกับหวังเจียงฟู่ในเวลานี้ แต่เขาแตกต่างจากจักรพรรดิอมตะหมิงตู่ ที่จริงเขานั้นแตกต่างจากทุกคน ด้วยเวลาที่เพียงพอเขาจะหลุดพ้นออกจากรังไหมและกลายเป็นผีเสื้อที่งดงาม
ทว่าเรื่องนี้นั้นห่างไกลจากคำว่าง่ายอยู่มากโข...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น