ตอนที่ 466 ความลับของเกาะ
" จากที่ข้าจำได้ แม้แต่จักรพรรดิอมตะที่แบกเจตจำนงแห่งสวรรค์ คนที่เป็นผู้ปกครองจักรวาล ก็ยังไม่สามาถควบคุมเต๋าแท้จริงของสวรรค์และปฐพีได้ และที่พวกเขาทำได้เพียงแค่เข้าใจส่วนเล็กๆของมันเท่านั้น " หลี่ฉีเย่เอ่ยเพิ่ม
" นี้..เป็นไปไม่ได้ ! " ฉิวหรงว่านเสวี่ยกลายเป็นประหลาดใจหลังจากได้ยินเรื่องนี้
จักรพรรดิอมตะในสายตาของทุกคนนั้นเป็นตัวตนอมตะผู้ที่แบกเจตจำนงแห่งสวรรค์ ทว่าหลี่ฉีเย่กับกล่าวว่าแม้แต่ตัวจักรพรรดิอมตะก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่กับเต๋าแท้จริง ไม่มีใครเชื่อคำกล่าวเช่นนี้
" มีหลายสิ่งในโลกนี้ที่เป็นไปไม่ได้ " หลี่ฉีเย่เพียงอมยิ้มเอ่ย " แต่นี้คือความจริง ต้องการจะควบคุมยอดเต๋าสวรรค์ที่แท้จริงนั้นเป็นไปไม่ได้ "
" ทำไม ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
หลี่ฉีเย่มองไปที่ขอบฟ้าที่ห่างไกลก่อนจะเอ่ย " เหตุผลนั้นง่ายมาก แม้แต่จักรพรรดิอมตะก็ยังไม่สามารถสร้างชีวิตได้ ตัวอย่างเช่นหากไม่มีเมล็ดพันธ์ พวกมันก็จะไม่มีราก ไม่ต้องเอ่ยถึงใบ แม้แต่จักรพรรดิอมตะก้ไม่สามารถสร้างต้นไม้จากความว่างเปล่าได้ "
" หากมีเมล็ดพันธ์ จักรพรรดิอมตะสามารถทำให้มันเป็นต้นไม้สูงตระหง่าได้เพียงข้ามคืน หากมันมีเมล็ดพันธ์จักรพรรดิสามารถสร้างรากหยั่งลงไปใต้ดินจนเกิดเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ ด้วยใบของมันพวกเขาสามารถใช้วิธีการที่ท้าทายสวรรค์ก็จะสร้างเป็นรากที่แข็งแกร่งและเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ " หลี่ฉีเย่หยุดชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยต่อ " ทว่าหากพวกเขาไม่มีอะไรเลย เช่นนั้นจักรพรรดิอมตะก้ไม่สามารถสร้างสิ่งใด การสร้างชีวิตนั้นเป็นหน้าที่ของสวรรค์มาเป็นเวลานาน กล่าวให้ถูกคือเป็นหน้าที่ของเต๋าแท้จริงแห่งสวรรค์และปฐพี เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นเต็มไปด้วยความงุนงงและตกตะลึงอย่างสมบูรณ์กับคำกล่าวของหลี่ฉีเย่ มันเปิดประตูความรู้ใหม่ของนาง นางนั้นสามารถมองเห็นเส้นทางใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในตอนนี้นางเข้าสู่ระดับใหม่ของยอดเต๋า
ก่อนหน้านี้นางเป็นเพียงคนที่ยืนอยู่หน้าประตู นางนั้นเป็นระดับชะตาลี้ลับและบ่มเพาะคัมภีร์เต๋าที่ทรงพลัง ผลของมันทำให้นางแข็งแกร่ง แต่นั้นก็ไม่เพียงพอ
มันเหมือนกับว่าบางคนนั้นสร้างบ้านเอาไว้และนางก็เพียงย้ายเข้ามาอยู่ แต่ตอนนี้นางรู้วิธีสร้างบ้านของนางเองด้วยอิฐก้อนหนึ่ง !
หลี่ฉีเย่มองไปที่การแสดงออกของนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " เจ้าคิดถูกแล้ว นี้เกี่ยวกับการสร้างเต๋าและเป็นของเจ้าของเจ้าเพียงคนเดียว แม้ว่าเจ้าจะบ่มเพาะทักษะจักรพรรดิ มันก็เป็นเพียงเต๋าที่อยู่กับคนอื่นก่อนหน้าเจ้า - ไม่ใช่เจ้า หากเป็นเช่นนั้น เจ้าจะกล่าวถึงการสร้างประเทศและได้รับฉายาศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตได้อย่างไร ? ปราศจากเต๋าของตัวเอง เจ้าจะแบกเจตจำนงแห่งสวรรค์ได้อย่างไร ? เจตจำนงแห่งสวรรค์จะยอมรับเจ้าได้อย่างไร ? "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยทำได้เพียงสูดลมหายใจเข้าลึก การสร้างเต๋าของตัวเองนั้นมีเพียงระดับบรรพชนเที่ยงธรรมเท่านั้นที่เข้าไปถึง ตอนนี้นางนั้นเป็นเพียงระดับชะตาลี้ลับยังห่างไกลจากระดับนั้น ไม่ว่าอย่างไรนางก้ได้รับประโยชน์อย่างมากจากคำกล่าวของหลี่ฉีเย่
หลี่ฉีเย่นั้นนำนางมายังสถานที่ต่างๆ นางตระหนักได้ว่ามีฉากแปลกๆปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ไม่มีใครจะสามารถมองเห็นได้หากไม่มองอย่างใกล้ชิด พวกเขาพบว่ามันมีรูปร่างคล้ายอาณาจักร
เหนือขั้นไปยังท้องฟ้าที่ห่างไกลมันมีประกายแสงสีทองพร้อมด้วยเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ มันราวกับว่าที่นั้นมีพระราชวังและศาลาโบราณ มันราวกับมีพื้นที่ของอาณาจักรขนาดใหญ่อยู่เป็นเหมือนอีกโลกหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ใหญ่พอจะแบกโลกทั้งสามพัน
นี้คืออาณาจักรที่อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้าและปรากฏอย่างลึกลับในหมู่เมฆ มันทำให้ผู้มองรู้สึกราวกับตกอยู่ในภาพลวงตาที่แปลกประหลาด
" นั้นมันอะไร ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยชี้ไปยังอาณาจักรบนท้องฟ้าและเอ่ยถาม
หลี่ฉีเย่มองไปยังอาณาจักรและเอ่ยเสียงเบา " เจ้าอาจจะเรียกมันว่าอาณาจักรสวรรค์ แต่อย่าถามรายละเอียดของมัน "
" อาณาจักรสวรรค์ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะพึมพำซ่ำๆ นางทันใดนั้นก็อุทาน " นายน้อยเคยมาที่นี่มาก่อน ? "
" ไม่ " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาและเอ่ย " นี้เป็นครั้งแรกของข้าและมันไม่ง่ายที่จะมา ภายใต้สถานการณ์ปกติสถานที่แห่งนี้ไม่อนุญาติให้คนนอกเข้า ทว่าตอนนี้มันต่างออกไป หากมันไม่มีบางเรื่องเกิดขึ้น ข้าจะไม่มาที่นี่ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นไม่รู้ว่าหลี่ฉีเย่กำลังเอ่ยถึงสิ่งใด แต่นางรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เขากล่าวถึงจะเกี่ยวข้องกับเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชน
หลี่ฉีเย่หยุดอยู่หลายครั้งและพยามมองไปรอบๆเพื่อทำความเข้าใจกับบางสิ่ง
" นายน้อยกำลังพยามจะเข้าใจสิ่งใด ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยถามอย่างอยากรู้หลังจากเห็นการกระทำของหลี่ฉีเย่
หลี่ฉีเย่เอ่ย " " คัมภีร์และบทสวด ทว่ามันเหนือความเข้าใจของข้า ข้าเพียงมองดู สิ่งเหล่านี้ซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจเพียงมองผ่านๆ "
" คัมภีร์และบทสวด ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ยอย่างประหลาดใจก่อนจะมองไปรอบๆ เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้นางนั้นมองไม่เห็นคัมภีร์หรือบทสวดใดๆ
หลี่ฉีเย่เพียงยิ้มก่อนจะนำนางไปยังยอดเขาสูงเพื่อมองเห็นมุมมองที่กว้างขึ้น
หลี่ฉีเย่ชี้ไปยังสถานที่หน้านางก่อนจะเอ่ย " มองไปยังชิ้นส่วนของสวรรค์และปฐพี ภูเขาตระหง่าด้านหน้าของเจ้าคือทักษะดาบ ป่าตรงนั้นเป็นคัมภีร์ชีวิต แม่น้ำเหนือมุมนั้นเป็นคัมภีร์สวรรค์ หนาผาด้านนู้นเป็นคัมภีร์ทักษะกั้นสวรรค์.."
ฉิวหรงว่านเสวี่ยมองอย่างระวัง แต่นางไม่เห็นมันในครั้งแรก หลังจากการชี้แนะของหลี่ฉีเย่นางนั้นเห็นบางสิ่ง ตัวอย่างเช่นภูเขาด้านหน้าเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังงานแห่งดาบ
" ความสามารถของข้านั้นต่ำเกินไปและไม่สามารถเข้าใจความลึกลับเหล่านี้ได้ทั้งหมด " ฉิวหรงว่านเสวี่ยกล่าวอย่างอับอาย
หลี่ฉีเย่เพียงตอบด้วยรอยยิ้ม " นี้ไม่สามารถตำหนิเจ้าได้ ความลึกลับของสถานที่แห่งนี้อยู่เหนือจินตนาการของเจ้า ข้าเองยังใช้เวลาจำนานมากกว่าจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ "
" ทำไมนายน้อยไม่ลองเรียนรู้ทักษะจากเกาะแห่งนี้ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ย มันดูเหมือนว่าเกาะแห่งนี้จะเต็มไปด้วยประโยชน์อย่างมาก เกาะแห่งทักษะ ทุกคนนั้นอยากจะได้ทักษะที่ซ่อนอยู่ในเกาะแห่งนี้แต่ไม่ใช่หลี่ฉีเย่
" คัมภีร์และทักษะของที่นี่ไม่เหมาะสมกับข้า " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวและเอ่ย " ของเหล่านี้นั้นเป็นของเผ่าพันธ์ผี ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถฝึกมันได้ "
" นอกจากนี้มันยังไร้ประโยชน์สำหรับข้าที่จะเรียนมัน คนที่ทิ้งของเหล่านี้ไว้ล้วนมีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์ ภูเขาเหมือนกันแต่พวกมันก็ยังมีบางอย่างที่ต่างกัน ทั้งความกว้างและความสูง แต่ละคนจะมองเห็นสิ่งที่ต่างกันและได้ข้อสรุปที่ต่างกัน สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยโครงสร้างเต๋าและคัมภีร์ ดังนั้นผู้คนจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน บางครั้ง ความต่างอาจจะเป็นสวรรค์และปฐพี..." หลี่ฉีเย่หยุดชั่วคราวเมื่อเอ่ยถึงตรงนี้
" หากเจ้าต้องการจะเรียรู้ทุกอย่างที่นี่ เช่นนั้นเจ้าต้องมีระดับเดียวกับคนคนนั้น หรือไม่เจ้าจะต้องมีความรู้ที่ท้าทายสวรรค์ ทัศนคติที่เหนือผู้คนและความสามารถที่ยากจะคาดเดา ไม่มีก้อนหินใดกลายเป็นรากที่ดีได้ ทุกอย่างที่อาจจะกลับไปสู่ต้นกำเนิดของมันแม้ว่าจะใช้เวลามากก็ตาม " หลี่ฉีเย่เอ่ยต่อเนื่อง " แม้ว่าข้าจะเข้าใจพวกมันเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องยากที่ข้าจะสอนคนอื่น ทุกคนมีการตีความเต๋าที่แตกต่างกันและมีช่องว่าง ทว่าหากเจ้าต้องการจะเรียนมันเพยงเล็กน้อย เช่นนั้นก็จะมีประโยชน์ในเมื่อที่นี่เป็นต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผี "
" ต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผี !? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยอุทานอย่างตกตะลึง
หลี่ฉีเย่พยักหน้าเอ่ย " เจ้าสามารถกล่าวเช่นนั้นได้ อย่างน้อยนี้ก็เป็นแหล่งที่บรรพบุรุษเผ่าพันธ์ผีรู้แจ้ง ผลที่ออกมาจึงน่าอัศจรรนย์หากคนอื่นรู้ว่าที่นี่เต็มไปด้วยยอดเต๋าของเผ่าพันธ์ผี ! "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยถูกแช่แข็งด้วยความตกใจ หากสถานที่แห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผี เช่นนั้นทุกคัมภีร์ที่นี่ล้วนแต่เหมาะสมกับเผ่าพันธ์ผี
" เช่นนั้น...นี้คือที่ไหนกัน ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยสูดลมหายใจเข้าลึกหลังจกาเอ่ยถามมันกับหลี่ฉีเย่
เขาเอ่ยตอบ " เกาะที่ถูกทอดทิ้ง บางคนนั้นทิ้งเต๋าสวรรค์ไว้ที่นี่ ดังนั้นที่นี่จึงกลายเป็นดินแดนแห่งการปฏิเสธ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยเปิดปากกว้างก่อนจะอุทาน " ดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง ? เป็นไปไม่ได้! ไม่ใช่ว่าที่นี่คือต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผีของพวกเรา ? "
" นี้เป็นเรื่องจริงที่เจ้าต้องยอมรับ นานมาแล้วผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีจำนวนมากมาจากที่แห่งนี้ กล่าวให้ถูกพวกเขาถูกสร้างโดยคนคนนั้น แต่สำหรับเขานี้เป็นเพียงการเสียเวลาเปล่า "
" ทำไม...ทำไมเขาถึงได้ทิ้งเหล่าทักษะที่ทรงอำนาจเหล่านี้ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยมองไปยังดินแดนที่เต็มไปด้วยทักษะและคัมภีร์ทรงอำนาจจำนวนมาก ผู้คนจะกลายเป็นมีความสุขอย่างบ้าคลั่งหากพวกเขาได้เรียนรู้ของเหล่านี้
หลี่ฉีเย่มองไปยังเส้นขอบฟ้าและเอ่ย " เพราะว่าเขานั้นล้มเหลว ดังนั้นเขาจึงปล่อยความล้มเหลวไว้ที่นี่ ตัวอย่างเช่นภูเขาดาบ แต่มันก็ยังเป็นทอง ป่าที่เต็มไปด้วยคัมภีร์ชีวิตมันก็ยังเป็นไม้ แม่น้ำที่เต็มไปด้วยคัมภีร์สวรรค์มันก็ยังเป็นน้ำ พวกมันเป็นธาตุทั้งห้า เจ้าเข้าใจหรือยัง ? เขานั้นใช้ทฤษฎีการผสานห้าธาตุเพื่อต่อต้าสวรรค์ ! "
" ต่อต้านสวรรค์ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยซ้ำ
" การสร้างชีวิต " หลี่ฉีเย่มองไปยังนางก่อนจะเอ่ย " แต่เขานั้นไม่ประสบความสำเร็จ มันเห็นได้ชัดจากการดูสถานที่แห่งนี้ เขาได้พยามหลายครั้ง แต่ทุกอย่างล้วนไร้ความหมาย ! "
" การสร้างชีวิต ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยผงะถอยหลัง ก่อนหน้านี้หลี่ฉีเย่กล่าวว่าการสร้างชีวิตเป็นหน้าที่ของสวรรค์ แต่ตอนนี้มีบางคนพยามจะต่อต้านสวรรค์ !!
" จากที่ข้าจำได้ แม้แต่จักรพรรดิอมตะที่แบกเจตจำนงแห่งสวรรค์ คนที่เป็นผู้ปกครองจักรวาล ก็ยังไม่สามาถควบคุมเต๋าแท้จริงของสวรรค์และปฐพีได้ และที่พวกเขาทำได้เพียงแค่เข้าใจส่วนเล็กๆของมันเท่านั้น " หลี่ฉีเย่เอ่ยเพิ่ม
" นี้..เป็นไปไม่ได้ ! " ฉิวหรงว่านเสวี่ยกลายเป็นประหลาดใจหลังจากได้ยินเรื่องนี้
จักรพรรดิอมตะในสายตาของทุกคนนั้นเป็นตัวตนอมตะผู้ที่แบกเจตจำนงแห่งสวรรค์ ทว่าหลี่ฉีเย่กับกล่าวว่าแม้แต่ตัวจักรพรรดิอมตะก็ยังมีช่องว่างขนาดใหญ่กับเต๋าแท้จริง ไม่มีใครเชื่อคำกล่าวเช่นนี้
" มีหลายสิ่งในโลกนี้ที่เป็นไปไม่ได้ " หลี่ฉีเย่เพียงอมยิ้มเอ่ย " แต่นี้คือความจริง ต้องการจะควบคุมยอดเต๋าสวรรค์ที่แท้จริงนั้นเป็นไปไม่ได้ "
" ทำไม ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
หลี่ฉีเย่มองไปที่ขอบฟ้าที่ห่างไกลก่อนจะเอ่ย " เหตุผลนั้นง่ายมาก แม้แต่จักรพรรดิอมตะก็ยังไม่สามารถสร้างชีวิตได้ ตัวอย่างเช่นหากไม่มีเมล็ดพันธ์ พวกมันก็จะไม่มีราก ไม่ต้องเอ่ยถึงใบ แม้แต่จักรพรรดิอมตะก้ไม่สามารถสร้างต้นไม้จากความว่างเปล่าได้ "
" หากมีเมล็ดพันธ์ จักรพรรดิอมตะสามารถทำให้มันเป็นต้นไม้สูงตระหง่าได้เพียงข้ามคืน หากมันมีเมล็ดพันธ์จักรพรรดิสามารถสร้างรากหยั่งลงไปใต้ดินจนเกิดเป็นต้นไม้ใหญ่ได้ ด้วยใบของมันพวกเขาสามารถใช้วิธีการที่ท้าทายสวรรค์ก็จะสร้างเป็นรากที่แข็งแกร่งและเติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ " หลี่ฉีเย่หยุดชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยต่อ " ทว่าหากพวกเขาไม่มีอะไรเลย เช่นนั้นจักรพรรดิอมตะก้ไม่สามารถสร้างสิ่งใด การสร้างชีวิตนั้นเป็นหน้าที่ของสวรรค์มาเป็นเวลานาน กล่าวให้ถูกคือเป็นหน้าที่ของเต๋าแท้จริงแห่งสวรรค์และปฐพี เจ้าเข้าใจหรือไม่ ? "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นเต็มไปด้วยความงุนงงและตกตะลึงอย่างสมบูรณ์กับคำกล่าวของหลี่ฉีเย่ มันเปิดประตูความรู้ใหม่ของนาง นางนั้นสามารถมองเห็นเส้นทางใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในตอนนี้นางเข้าสู่ระดับใหม่ของยอดเต๋า
ก่อนหน้านี้นางเป็นเพียงคนที่ยืนอยู่หน้าประตู นางนั้นเป็นระดับชะตาลี้ลับและบ่มเพาะคัมภีร์เต๋าที่ทรงพลัง ผลของมันทำให้นางแข็งแกร่ง แต่นั้นก็ไม่เพียงพอ
มันเหมือนกับว่าบางคนนั้นสร้างบ้านเอาไว้และนางก็เพียงย้ายเข้ามาอยู่ แต่ตอนนี้นางรู้วิธีสร้างบ้านของนางเองด้วยอิฐก้อนหนึ่ง !
หลี่ฉีเย่มองไปที่การแสดงออกของนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " เจ้าคิดถูกแล้ว นี้เกี่ยวกับการสร้างเต๋าและเป็นของเจ้าของเจ้าเพียงคนเดียว แม้ว่าเจ้าจะบ่มเพาะทักษะจักรพรรดิ มันก็เป็นเพียงเต๋าที่อยู่กับคนอื่นก่อนหน้าเจ้า - ไม่ใช่เจ้า หากเป็นเช่นนั้น เจ้าจะกล่าวถึงการสร้างประเทศและได้รับฉายาศักดิ์สิทธิ์ในอนาคตได้อย่างไร ? ปราศจากเต๋าของตัวเอง เจ้าจะแบกเจตจำนงแห่งสวรรค์ได้อย่างไร ? เจตจำนงแห่งสวรรค์จะยอมรับเจ้าได้อย่างไร ? "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยทำได้เพียงสูดลมหายใจเข้าลึก การสร้างเต๋าของตัวเองนั้นมีเพียงระดับบรรพชนเที่ยงธรรมเท่านั้นที่เข้าไปถึง ตอนนี้นางนั้นเป็นเพียงระดับชะตาลี้ลับยังห่างไกลจากระดับนั้น ไม่ว่าอย่างไรนางก้ได้รับประโยชน์อย่างมากจากคำกล่าวของหลี่ฉีเย่
หลี่ฉีเย่นั้นนำนางมายังสถานที่ต่างๆ นางตระหนักได้ว่ามีฉากแปลกๆปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ไม่มีใครจะสามารถมองเห็นได้หากไม่มองอย่างใกล้ชิด พวกเขาพบว่ามันมีรูปร่างคล้ายอาณาจักร
เหนือขั้นไปยังท้องฟ้าที่ห่างไกลมันมีประกายแสงสีทองพร้อมด้วยเปลวไฟศักดิ์สิทธิ์ มันราวกับว่าที่นั้นมีพระราชวังและศาลาโบราณ มันราวกับมีพื้นที่ของอาณาจักรขนาดใหญ่อยู่เป็นเหมือนอีกโลกหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ใหญ่พอจะแบกโลกทั้งสามพัน
นี้คืออาณาจักรที่อยู่เหนือเก้าชั้นฟ้าและปรากฏอย่างลึกลับในหมู่เมฆ มันทำให้ผู้มองรู้สึกราวกับตกอยู่ในภาพลวงตาที่แปลกประหลาด
" นั้นมันอะไร ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยชี้ไปยังอาณาจักรบนท้องฟ้าและเอ่ยถาม
หลี่ฉีเย่มองไปยังอาณาจักรและเอ่ยเสียงเบา " เจ้าอาจจะเรียกมันว่าอาณาจักรสวรรค์ แต่อย่าถามรายละเอียดของมัน "
" อาณาจักรสวรรค์ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะพึมพำซ่ำๆ นางทันใดนั้นก็อุทาน " นายน้อยเคยมาที่นี่มาก่อน ? "
" ไม่ " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาและเอ่ย " นี้เป็นครั้งแรกของข้าและมันไม่ง่ายที่จะมา ภายใต้สถานการณ์ปกติสถานที่แห่งนี้ไม่อนุญาติให้คนนอกเข้า ทว่าตอนนี้มันต่างออกไป หากมันไม่มีบางเรื่องเกิดขึ้น ข้าจะไม่มาที่นี่ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยนั้นไม่รู้ว่าหลี่ฉีเย่กำลังเอ่ยถึงสิ่งใด แต่นางรู้สึกได้ว่าสิ่งที่เขากล่าวถึงจะเกี่ยวข้องกับเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชน
หลี่ฉีเย่หยุดอยู่หลายครั้งและพยามมองไปรอบๆเพื่อทำความเข้าใจกับบางสิ่ง
" นายน้อยกำลังพยามจะเข้าใจสิ่งใด ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยถามอย่างอยากรู้หลังจากเห็นการกระทำของหลี่ฉีเย่
หลี่ฉีเย่เอ่ย " " คัมภีร์และบทสวด ทว่ามันเหนือความเข้าใจของข้า ข้าเพียงมองดู สิ่งเหล่านี้ซับซ้อนเกินกว่าจะเข้าใจเพียงมองผ่านๆ "
" คัมภีร์และบทสวด ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ยอย่างประหลาดใจก่อนจะมองไปรอบๆ เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้นางนั้นมองไม่เห็นคัมภีร์หรือบทสวดใดๆ
หลี่ฉีเย่เพียงยิ้มก่อนจะนำนางไปยังยอดเขาสูงเพื่อมองเห็นมุมมองที่กว้างขึ้น
หลี่ฉีเย่ชี้ไปยังสถานที่หน้านางก่อนจะเอ่ย " มองไปยังชิ้นส่วนของสวรรค์และปฐพี ภูเขาตระหง่าด้านหน้าของเจ้าคือทักษะดาบ ป่าตรงนั้นเป็นคัมภีร์ชีวิต แม่น้ำเหนือมุมนั้นเป็นคัมภีร์สวรรค์ หนาผาด้านนู้นเป็นคัมภีร์ทักษะกั้นสวรรค์.."
ฉิวหรงว่านเสวี่ยมองอย่างระวัง แต่นางไม่เห็นมันในครั้งแรก หลังจากการชี้แนะของหลี่ฉีเย่นางนั้นเห็นบางสิ่ง ตัวอย่างเช่นภูเขาด้านหน้าเหมือนจะเต็มไปด้วยพลังงานแห่งดาบ
" ความสามารถของข้านั้นต่ำเกินไปและไม่สามารถเข้าใจความลึกลับเหล่านี้ได้ทั้งหมด " ฉิวหรงว่านเสวี่ยกล่าวอย่างอับอาย
หลี่ฉีเย่เพียงตอบด้วยรอยยิ้ม " นี้ไม่สามารถตำหนิเจ้าได้ ความลึกลับของสถานที่แห่งนี้อยู่เหนือจินตนาการของเจ้า ข้าเองยังใช้เวลาจำนานมากกว่าจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ "
" ทำไมนายน้อยไม่ลองเรียนรู้ทักษะจากเกาะแห่งนี้ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยเอ่ย มันดูเหมือนว่าเกาะแห่งนี้จะเต็มไปด้วยประโยชน์อย่างมาก เกาะแห่งทักษะ ทุกคนนั้นอยากจะได้ทักษะที่ซ่อนอยู่ในเกาะแห่งนี้แต่ไม่ใช่หลี่ฉีเย่
" คัมภีร์และทักษะของที่นี่ไม่เหมาะสมกับข้า " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวและเอ่ย " ของเหล่านี้นั้นเป็นของเผ่าพันธ์ผี ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถฝึกมันได้ "
" นอกจากนี้มันยังไร้ประโยชน์สำหรับข้าที่จะเรียนมัน คนที่ทิ้งของเหล่านี้ไว้ล้วนมีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์ ภูเขาเหมือนกันแต่พวกมันก็ยังมีบางอย่างที่ต่างกัน ทั้งความกว้างและความสูง แต่ละคนจะมองเห็นสิ่งที่ต่างกันและได้ข้อสรุปที่ต่างกัน สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยโครงสร้างเต๋าและคัมภีร์ ดังนั้นผู้คนจะได้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน บางครั้ง ความต่างอาจจะเป็นสวรรค์และปฐพี..." หลี่ฉีเย่หยุดชั่วคราวเมื่อเอ่ยถึงตรงนี้
" หากเจ้าต้องการจะเรียรู้ทุกอย่างที่นี่ เช่นนั้นเจ้าต้องมีระดับเดียวกับคนคนนั้น หรือไม่เจ้าจะต้องมีความรู้ที่ท้าทายสวรรค์ ทัศนคติที่เหนือผู้คนและความสามารถที่ยากจะคาดเดา ไม่มีก้อนหินใดกลายเป็นรากที่ดีได้ ทุกอย่างที่อาจจะกลับไปสู่ต้นกำเนิดของมันแม้ว่าจะใช้เวลามากก็ตาม " หลี่ฉีเย่เอ่ยต่อเนื่อง " แม้ว่าข้าจะเข้าใจพวกมันเล็กน้อย แต่ก็เป็นเรื่องยากที่ข้าจะสอนคนอื่น ทุกคนมีการตีความเต๋าที่แตกต่างกันและมีช่องว่าง ทว่าหากเจ้าต้องการจะเรียนมันเพยงเล็กน้อย เช่นนั้นก็จะมีประโยชน์ในเมื่อที่นี่เป็นต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผี "
" ต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผี !? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยอุทานอย่างตกตะลึง
หลี่ฉีเย่พยักหน้าเอ่ย " เจ้าสามารถกล่าวเช่นนั้นได้ อย่างน้อยนี้ก็เป็นแหล่งที่บรรพบุรุษเผ่าพันธ์ผีรู้แจ้ง ผลที่ออกมาจึงน่าอัศจรรนย์หากคนอื่นรู้ว่าที่นี่เต็มไปด้วยยอดเต๋าของเผ่าพันธ์ผี ! "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยถูกแช่แข็งด้วยความตกใจ หากสถานที่แห่งนี้เป็นต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผี เช่นนั้นทุกคัมภีร์ที่นี่ล้วนแต่เหมาะสมกับเผ่าพันธ์ผี
" เช่นนั้น...นี้คือที่ไหนกัน ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยสูดลมหายใจเข้าลึกหลังจกาเอ่ยถามมันกับหลี่ฉีเย่
เขาเอ่ยตอบ " เกาะที่ถูกทอดทิ้ง บางคนนั้นทิ้งเต๋าสวรรค์ไว้ที่นี่ ดังนั้นที่นี่จึงกลายเป็นดินแดนแห่งการปฏิเสธ "
ฉิวหรงว่านเสวี่ยเปิดปากกว้างก่อนจะอุทาน " ดินแดนที่ถูกทอดทิ้ง ? เป็นไปไม่ได้! ไม่ใช่ว่าที่นี่คือต้นกำเนิดของเผ่าพันธ์ผีของพวกเรา ? "
" นี้เป็นเรื่องจริงที่เจ้าต้องยอมรับ นานมาแล้วผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีจำนวนมากมาจากที่แห่งนี้ กล่าวให้ถูกพวกเขาถูกสร้างโดยคนคนนั้น แต่สำหรับเขานี้เป็นเพียงการเสียเวลาเปล่า "
" ทำไม...ทำไมเขาถึงได้ทิ้งเหล่าทักษะที่ทรงอำนาจเหล่านี้ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยมองไปยังดินแดนที่เต็มไปด้วยทักษะและคัมภีร์ทรงอำนาจจำนวนมาก ผู้คนจะกลายเป็นมีความสุขอย่างบ้าคลั่งหากพวกเขาได้เรียนรู้ของเหล่านี้
หลี่ฉีเย่มองไปยังเส้นขอบฟ้าและเอ่ย " เพราะว่าเขานั้นล้มเหลว ดังนั้นเขาจึงปล่อยความล้มเหลวไว้ที่นี่ ตัวอย่างเช่นภูเขาดาบ แต่มันก็ยังเป็นทอง ป่าที่เต็มไปด้วยคัมภีร์ชีวิตมันก็ยังเป็นไม้ แม่น้ำที่เต็มไปด้วยคัมภีร์สวรรค์มันก็ยังเป็นน้ำ พวกมันเป็นธาตุทั้งห้า เจ้าเข้าใจหรือยัง ? เขานั้นใช้ทฤษฎีการผสานห้าธาตุเพื่อต่อต้าสวรรค์ ! "
" ต่อต้านสวรรค์ ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะเอ่ยซ้ำ
" การสร้างชีวิต " หลี่ฉีเย่มองไปยังนางก่อนจะเอ่ย " แต่เขานั้นไม่ประสบความสำเร็จ มันเห็นได้ชัดจากการดูสถานที่แห่งนี้ เขาได้พยามหลายครั้ง แต่ทุกอย่างล้วนไร้ความหมาย ! "
" การสร้างชีวิต ? " ฉิวหรงว่านเสวี่ยผงะถอยหลัง ก่อนหน้านี้หลี่ฉีเย่กล่าวว่าการสร้างชีวิตเป็นหน้าที่ของสวรรค์ แต่ตอนนี้มีบางคนพยามจะต่อต้านสวรรค์ !!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น