ตอนที่ 493 เจ้าหญิงฟินิกซ์เข้าสู่สนามรบ
คนที่ใช่สมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะที่ต่ำจะไม่สามารถใช้งานมันเต็มไปกำลังได้ ทว่าแม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมก็ยังไม่สามารถใช้งานอำนาจสมบัติได้หนึ่งร้อยเปอเซน ไม่ต้องเอ่ยถึงการปลดปล่อยระเบิดอำนาจที่รุนแรง
นี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับผู้ฝึกตน อาวุธของพวกเขานั้นทรงพลังมากที่สุด
แต่ตอนนี้ ด้วยการโจมตีอมตะที่เผาไหม้ทุกอย่างทำให้ทุกคนตกตะลึง เรื่องดังกล่าวนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เหล่าคนตายที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดล้วนสั่นด้วยความกลัวหลังจากเห็นฉากเหล่านี้ " อะไร..นั้นมัน...ทักษะอะไร ? "
การโจมตีนี้นั้นมันท้าทายสวรรค์และน่ากลัวมากเกินไป
แม้แต่ยอดเซียนเล็บจันทรน์เสี้ยวและยอดเซียนผีแมลงที่เป็นลูกหลานจักรพรรดิก็ยังสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่ต้องเอ่ยถึงทักษะจักรพรรดิ พวกเขานั้นกระทั้งบ่มเพาะคัมภีร์เจตจำนงสวรรค์ ทว่าไม่ว่าอำนาจของพวกมันจะทรงพลังขนาดไหน มันก็ยังไม่สามารถเทียบกับการระเบิดเมื่อครู่ได้
ใบหน้าของเทียนหุยหลี่เปลี่ยนสี่ เขานั้นถูกยกย่องจากอาณาจักรโบราณ และถูกเรียกผู้มีวิญญาณของจักรพรรดิอมตะ ดังนั้นเขาจะไม่เคยเห็นทักษธจักรพรรดิที่ทรงพลังได้อย่างไร ? ทว่าการโจมตีของหลี่ฉีเย่เมื่อครู่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เขาผู้ที่มีใบหน้าสงบอยู่เสมอก็อดไม่ได้ที่จะบิดเบี้ยมไปด้วยความสับสน
นั่งอยู่บนรถม้า เจ้าหญิงฟินิกซ์ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืนอย่างตกตะลึง
นี้เป็นการระเบิดอำนาจอมตะที่ทำให้หลายสั่นสะท้าน จากนั้นทุกคนก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่น่ากลัว - ศักยภาพของหลี่ฉีเย่ไม่ได้ใกล้เคียงกับสามวีรบุรุษ เขานั้นเหนือกว่าไปแล้ว !
มาถึงตอนนี้ หลายทำได้เพียงสูดลมหายใจเข้าลึก ขณะที่เผ่ามนุษย์ถูกเผาไปด้วยความตื่นเต้น
คนตายที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดจ้องมองหลี่ฉีเย่อย่างสงสัย " นั้นมันเป็นทักษอะไรกัน ? " สำหรับพวกเขา การโจมตีก่อนหน้านั้นอันตรายเกินไป แม้แต่บรรพชนของนิกายทรงอำนาจก็ยังรู้สึกได้ถึงอันตราย
ทำลายโชติช่วงนั้นเป็นทักษะโบราณทรงอำนาจที่มีต้นกำเนิดไม่แน่ชัด เมื่อจักรพรรดิอมตะเฟยหยางยังเยาว์ ทักษะนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับเขา ไม่ได้ถูกใช้อีกเลยหลังจากที่เขาแบกเจตจำนงแห่งสวรรค์และผนึกทักษะนี้
หลายปีผ่านไปและจักรพรรดิอมตะในยุคขยายดินแดน เขาไม่ได้ส่งผ่านทักษะนี้ไปยังรุ่นอนาคต ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้จักมัน
" พวกเราต้องการอาวุธจักรพรรดิ ! " ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวและยอดเซียนผีมองหน้ากันและเอ่ย พวกเขานั้นมีข้อสรุปเดียวกัน ดังนั้นต้องร้องขอนิกายสำหรับอาวุธจักรพรรดิ ไม่ว่าจะเป็นระดับชีวิตหรือระดับแท้จริงก็ย่อมได้ แต่ระดับแท้จริงจะดีกว่ามาก !
พวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่สามารถต่อต้านหลี่ฉีเย่ได้หากปราศจากอาวุธจักรพรรดิ ดังนั้นนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น !
และไม่ได้เป็นเพียงทั้งสอง แม้แต่เทียนหุยหลี่ก็ยังก้มหัวไตร่ตรอง บางเทียนหุยหลี่ก็เหมือนกับทั้งสอง ต้องการอาวุธจักรพรรดิเพื่อกำราบหลี่ฉีเย่ !
อาวุธ ไม่ว่าจะทรงพลังขนาดไหนพวกมันจะพังหลังจากใช้ทำลายโชติช่วง นอกจากอาวุธจักรพรรดิ ความจริงก็คือแม้แต่อาวุธจักรพรรดิระดับชีวิตก็ยังต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นความแข็งแกร่งของมันได้
มีเพียงอาวุธจักรพรรดิระดับแท้จริงเท่านั้นที่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบ แน่นอนว่าหากใช้มันซ่ำไปมาก็อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายได้
หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะหลังจกาสังหารสิบแปดอสูรในหนึ่งการเคลื่อนไหว เขานั้นเดินตรงยังสถานที่ที่เจ้าหญิงฟินิกซ์อยู่ ขณะเดียวกันเจ้าหญิงก็มองหลี่ฉีเย่อย่างเย็นชาโดยไม่หวาดกลัวใดๆ
หลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็ขึ้นมาเหยียบบนชั้นฟ้าและมองไปยังเจ้าหญิงก่อนจะอมยิ้มเอ่ย " เอาละ ตอนนี้ข้าก็ทดสอบเจ้าได้แล้ว "
ตอนนี้ ฉากตรงนั้นทุกคนอดไม่ได้ที่จะกลายเป็นตรึงเครียด ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคิดว่าสถานการณ์จะมาถึงจุดนนี้ได้
มันอาจจะได้รับการกล่าวขานด้วยคำพูดง่ายๆ เหล่าผู้คนที่มาร่วมตัวกันทีนี่ คิดว่าการฆ่ามนุษย์ผู้เยาว์คนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องง่ายยิ่ง แต่ตอนนี้หลี่ฉีเย่ฆ่าผู้เชียวชาญนับหมื่นและเข้าถึงตัวเจ้าหญิง สถานการณ์ของเจ้าหญิงนั้นอันตรายอย่างมาก
นางนั้นก้าวลงมาจากรถม้าด้วยกลิ่นอายของราชินีและกล่าวอย่างเย็นชา " ข้ายอมรับว่าเจ้านั้นน่ากลัวมากที่เดียว ทว่าด้วยการเคลื่อนไหวที่ผิด เจ้าจะสูญเสียทุกสิ่ง สามีของข้านั้นคือผู้ปกครองโลกและไม่มีอะไรจะมาเปลี่ยนหรือขว้างเส้นทางของเขาในการเป็นจักรพรรดิอมตะได้ ! " หากคนอื่นกล่าวคำพูดนี้ พวกเขาจะถูกเรียกขานว่าคนบ้า แต่เจ้าหญิงฟินิกซ์สามารถกล่าวได้เพราะตี๋เชาเป็นคนที่มีโอกาสสูงสุดในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ที่จะกลายเป็นจักรพรรดิ
เทียนหุยหลี่นั้นไม่ได้ปฏิเสธคำกล่าวของนาง แม้แต่เหล่าตัวตนที่ซ่อนอยู่ในความมืดก็ไม่คิดว่านี้เป็นเพียงการโอ้อวด ทุกคนในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทเห็นตรงกันว่าตี๋เชานั้นมีโอกาสมากที่สุด
" สูญเสีย ? " หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะ " หากข้าจะต้องพ่ายแพ้ให้สักวันหนึ่ง มันแน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เพราะสามีเจ้า นอกจากนี้เส้นทางสู่การเป็นจักรพรรดิอมตะนั้นไม่มีที่สิ้นสุด รอจนกระทั้งสามีเจ้าเป็นจักรพรรดิอมตะก่อนดีกว่าค่อยมาโอ้อวด ทว่า ข้าเกรงว่ามันจะไม่มีวันนั้น ตราบใดที่ข้ายังอยู่ที่นี่ ใครยังจะกลายเป็นจักรพรรดิอมตะได้อีก ? เจตจำนงแห่งสวรรค์นั้นเป็นของข้าเพียงคนเดียว และบัลลัลงก์สวรรค์ก็คือที่นั่งของข้า ! "
คำกล่าวของเจ้าหญิงฟินิกซ์เรียกว่าโอ้อวดอย่างมาก แต่คำกล่าวของหลี่ฉีเย่นั้นยโสยิ่งกว่า แม้ว่าคนอื่นจะรู้ว่าเขานั้นโอหังเกินไป แต่พวกเขาก้ต้องยอมรับสิ่งหนึ่ง - หลังจากากรต่อสู้วันนี้ หลี่ฉีเย่แน่นอนว่ามีคุณสมบัติที่จะแย่งบัลลังก์ !
" ช่างโอ้อวด " เจ้าหญิงฟินิกซ์แค่นเสียง " ข้าอยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ใช้การเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดของเจ้าซะ และข้าจะทำลายพวกมัน ! "
ทัศนคติที่เย่อหยิงของเจ้าหญิงทำให้หลายคนประหลาดใจ
หลี่ฉีเย่นั้นฆ่าคนเป็นจำนวนมากและใช้ทำลายโชติช่วงจนทำให้หลายคนตื่นตระหนก พวกเขารู้ว่าเจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นทรงพลัง แต่พวกเขาก็รู้ว่านางไม่สามารถฆ่าหลี่ฉีเยได้ นางนั้นไม่สามารถย้อนกลับสถานการณ์นอกจากว่านางจะมีทักษะที่ทรงพลังยิ่งกว่า
หลังจากการต่อสู้นี้ ทุกคนรู้ว่าอัจฉริยะจากเชื้่อสายจักพรรดิอย่างยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวและยอดเซียนผีแมลงนั้นไม่สามารถต่อกรกับหลี่ฉีเย่ได้ เว้นแต่จะมีอาวุธจักรพรรดิ
ดังนั้นการที่เจ้าหญิงเลือกที่จะสู้โดยไม่ถอยทำให้หลายคนประหลาดใจ
" สมกับเป็นราชินี " หลี่ฉีเย่อมยิ้มและเอ่ย หลังจากได้ยินคำท้าทายของเจ้าหญิง " เจ้าต้องการจะทดสอบข้าและศึกษาข้า ? ทว่าน่าเสียดายเจ้าเพียงลำพังคงไม่มีความสามารถพอให้ข้าใช้ทักษะที่ดีที่สุดได้ เพียงมือเปล่าของข้าก็พอแล้ว " หลี่ฉีเย่พับแขนเสื้อหลังจากเอ่ยเสร็จ
คำกล่าวของหลี่ฉีเย่ทำให้หลายคนได้แต่มองหน้ากัน
หลี่ฉีเย่นั้นเป็นคนมีความสามารถท้าทายสวรรค์ แต่เจ้าหญิงเลือกที่จะสู้กับเขาไม่ได้เพื่อตัดสิน แต่เพื่อจะตรวจสอบ
ตั้งแต่เริ่ม เขาสู้โดยไม่ใช้อาวุธใดๆ แม้ว่าเขาจะใช้ทักษะที่ทรงพลัง คนอื่นก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่ได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงของเขาออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาปลดปล่อยทำลายโชติช่วง ทุกคนเข้าใจถึงอำนาจที่เขาซ่อนไว้และทำให้วพวกเขาตัวสั่น
ตอนนี้ เจ้าหญิงนั้นต้องการจะทดสอบศักยภาพของเขาและจัดการเพื่อปูทางให้กับสามีนาง
เมื่อมาถึงตอนนี้ มันไม่มีโอกาสเจรจาสำหรับพวกเขาทั้งสองฝ่าย แน่นอนฝ่ายต้องมีฝ่ายหนึ่งตาย ในเวลานี้ไม่มีใครรู้จักตัวตนของหลี่ฉีเย่ แม้ว่าตี๋เชาจะถูกเรียกว่าตัวตนอมตะ เขาก็ไม่ได้มีความได้เปรียบ เจ้าหญิงฟินิกซ์ต้องการจะสู้เพื่อสามีนางได้ว่างแผนจัดการหลี่ฉีเย่
" พวกเราควรจะแต่งงานกับสตรีเหมือนเจ้าหญิงฟินิกซ์ ! " หลายคนอดไม่ได้ที่จะพึมพำในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้กำลังหรือการวางแผน ทุกคนต้องยอมรับว่านางเป็นภรรยาที่มีความสามารถ
นางนั้นไม่เพียงแต่ทำหน้าที่วางแผนให้กับเขา นางกระทั้งกำจัดผู้ที่มาขว้างเส้นทางจักรพรรดิของเขาด้วย
" ตี๋เชาและเจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ " ในเวลานี้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะอิจฉาตี๋เชา
ผู้นำนิกายรุ่นก่อนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ " น่าประทับใจ สมกับเป็นคู่หมั้นของตี๋เชา ทั้งความฉลาดและความกล้าหาญของนางน่าชื่นชมมาก "
วันนี้หลังจากได้เห็นการแสดงออกของนาง ทุกคนเห็นตกกันว่านางเหมาะสมกับคำว่าราชินี
ทุกคนมองไปที่นางอย่างลับๆและคาดเดาว่าสงครามนี้จะจบลงอย่างไร
" ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไร เคลื่อนไหวซะ ! " เจ้าหญิงฟินิกซ์ประกาศอย่างไม่แยแส
" โอมมม ! " ในเวลานี้ พลังงานในสายเลือดของนางนั้นปรากฏอยู่เบื่องหลังพร้อมกับวงแหวนชีวิตที่ส่องประกายสดใสราวกับปีกของฟินิกซ์ ในตอนนี้ตัวอักษรโบราณและอำนาจเต๋าจำนวนมากหมุนวนรอบตัวนาง
ทุกคนนั้นตกตะลึงที่เห็นพลังของจักรพรรดิปรากฏอยู่รอบตัวนางและอุทาน " เป็นไปอย่างไร ? นี้มันคัมภีร์จักรพรรดิ ! "
แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่านี้เป็นคัมภีร์ทักษะหรือทักษะวงแหวนชีวิต แต่มันอยู่ในระดับจักรพรรดิ เป็นสุดยอดคัมภีร์และเป็นของจักรพรดริอมตะคนใดก็ยังไม่มีใครรู้...
คนที่ใช่สมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมที่อยู่ในระดับการบ่มเพาะที่ต่ำจะไม่สามารถใช้งานมันเต็มไปกำลังได้ ทว่าแม้แต่บรรพชนเที่ยงธรรมก็ยังไม่สามารถใช้งานอำนาจสมบัติได้หนึ่งร้อยเปอเซน ไม่ต้องเอ่ยถึงการปลดปล่อยระเบิดอำนาจที่รุนแรง
นี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับผู้ฝึกตน อาวุธของพวกเขานั้นทรงพลังมากที่สุด
แต่ตอนนี้ ด้วยการโจมตีอมตะที่เผาไหม้ทุกอย่างทำให้ทุกคนตกตะลึง เรื่องดังกล่าวนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เหล่าคนตายที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดล้วนสั่นด้วยความกลัวหลังจากเห็นฉากเหล่านี้ " อะไร..นั้นมัน...ทักษะอะไร ? "
การโจมตีนี้นั้นมันท้าทายสวรรค์และน่ากลัวมากเกินไป
แม้แต่ยอดเซียนเล็บจันทรน์เสี้ยวและยอดเซียนผีแมลงที่เป็นลูกหลานจักรพรรดิก็ยังสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่ต้องเอ่ยถึงทักษะจักรพรรดิ พวกเขานั้นกระทั้งบ่มเพาะคัมภีร์เจตจำนงสวรรค์ ทว่าไม่ว่าอำนาจของพวกมันจะทรงพลังขนาดไหน มันก็ยังไม่สามารถเทียบกับการระเบิดเมื่อครู่ได้
ใบหน้าของเทียนหุยหลี่เปลี่ยนสี่ เขานั้นถูกยกย่องจากอาณาจักรโบราณ และถูกเรียกผู้มีวิญญาณของจักรพรรดิอมตะ ดังนั้นเขาจะไม่เคยเห็นทักษธจักรพรรดิที่ทรงพลังได้อย่างไร ? ทว่าการโจมตีของหลี่ฉีเย่เมื่อครู่เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เขาผู้ที่มีใบหน้าสงบอยู่เสมอก็อดไม่ได้ที่จะบิดเบี้ยมไปด้วยความสับสน
นั่งอยู่บนรถม้า เจ้าหญิงฟินิกซ์ทันใดนั้นก็ลุกขึ้นยืนอย่างตกตะลึง
นี้เป็นการระเบิดอำนาจอมตะที่ทำให้หลายสั่นสะท้าน จากนั้นทุกคนก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่น่ากลัว - ศักยภาพของหลี่ฉีเย่ไม่ได้ใกล้เคียงกับสามวีรบุรุษ เขานั้นเหนือกว่าไปแล้ว !
มาถึงตอนนี้ หลายทำได้เพียงสูดลมหายใจเข้าลึก ขณะที่เผ่ามนุษย์ถูกเผาไปด้วยความตื่นเต้น
คนตายที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดจ้องมองหลี่ฉีเย่อย่างสงสัย " นั้นมันเป็นทักษอะไรกัน ? " สำหรับพวกเขา การโจมตีก่อนหน้านั้นอันตรายเกินไป แม้แต่บรรพชนของนิกายทรงอำนาจก็ยังรู้สึกได้ถึงอันตราย
ทำลายโชติช่วงนั้นเป็นทักษะโบราณทรงอำนาจที่มีต้นกำเนิดไม่แน่ชัด เมื่อจักรพรรดิอมตะเฟยหยางยังเยาว์ ทักษะนี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับเขา ไม่ได้ถูกใช้อีกเลยหลังจากที่เขาแบกเจตจำนงแห่งสวรรค์และผนึกทักษะนี้
หลายปีผ่านไปและจักรพรรดิอมตะในยุคขยายดินแดน เขาไม่ได้ส่งผ่านทักษะนี้ไปยังรุ่นอนาคต ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้จักมัน
" พวกเราต้องการอาวุธจักรพรรดิ ! " ยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวและยอดเซียนผีมองหน้ากันและเอ่ย พวกเขานั้นมีข้อสรุปเดียวกัน ดังนั้นต้องร้องขอนิกายสำหรับอาวุธจักรพรรดิ ไม่ว่าจะเป็นระดับชีวิตหรือระดับแท้จริงก็ย่อมได้ แต่ระดับแท้จริงจะดีกว่ามาก !
พวกเขาตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่สามารถต่อต้านหลี่ฉีเย่ได้หากปราศจากอาวุธจักรพรรดิ ดังนั้นนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น !
และไม่ได้เป็นเพียงทั้งสอง แม้แต่เทียนหุยหลี่ก็ยังก้มหัวไตร่ตรอง บางเทียนหุยหลี่ก็เหมือนกับทั้งสอง ต้องการอาวุธจักรพรรดิเพื่อกำราบหลี่ฉีเย่ !
อาวุธ ไม่ว่าจะทรงพลังขนาดไหนพวกมันจะพังหลังจากใช้ทำลายโชติช่วง นอกจากอาวุธจักรพรรดิ ความจริงก็คือแม้แต่อาวุธจักรพรรดิระดับชีวิตก็ยังต้องใช้เวลานานกว่าจะฟื้นความแข็งแกร่งของมันได้
มีเพียงอาวุธจักรพรรดิระดับแท้จริงเท่านั้นที่แทบจะไม่ได้รับผลกระทบ แน่นอนว่าหากใช้มันซ่ำไปมาก็อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายได้
หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะหลังจกาสังหารสิบแปดอสูรในหนึ่งการเคลื่อนไหว เขานั้นเดินตรงยังสถานที่ที่เจ้าหญิงฟินิกซ์อยู่ ขณะเดียวกันเจ้าหญิงก็มองหลี่ฉีเย่อย่างเย็นชาโดยไม่หวาดกลัวใดๆ
หลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็ขึ้นมาเหยียบบนชั้นฟ้าและมองไปยังเจ้าหญิงก่อนจะอมยิ้มเอ่ย " เอาละ ตอนนี้ข้าก็ทดสอบเจ้าได้แล้ว "
ตอนนี้ ฉากตรงนั้นทุกคนอดไม่ได้ที่จะกลายเป็นตรึงเครียด ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคิดว่าสถานการณ์จะมาถึงจุดนนี้ได้
มันอาจจะได้รับการกล่าวขานด้วยคำพูดง่ายๆ เหล่าผู้คนที่มาร่วมตัวกันทีนี่ คิดว่าการฆ่ามนุษย์ผู้เยาว์คนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องง่ายยิ่ง แต่ตอนนี้หลี่ฉีเย่ฆ่าผู้เชียวชาญนับหมื่นและเข้าถึงตัวเจ้าหญิง สถานการณ์ของเจ้าหญิงนั้นอันตรายอย่างมาก
นางนั้นก้าวลงมาจากรถม้าด้วยกลิ่นอายของราชินีและกล่าวอย่างเย็นชา " ข้ายอมรับว่าเจ้านั้นน่ากลัวมากที่เดียว ทว่าด้วยการเคลื่อนไหวที่ผิด เจ้าจะสูญเสียทุกสิ่ง สามีของข้านั้นคือผู้ปกครองโลกและไม่มีอะไรจะมาเปลี่ยนหรือขว้างเส้นทางของเขาในการเป็นจักรพรรดิอมตะได้ ! " หากคนอื่นกล่าวคำพูดนี้ พวกเขาจะถูกเรียกขานว่าคนบ้า แต่เจ้าหญิงฟินิกซ์สามารถกล่าวได้เพราะตี๋เชาเป็นคนที่มีโอกาสสูงสุดในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ที่จะกลายเป็นจักรพรรดิ
เทียนหุยหลี่นั้นไม่ได้ปฏิเสธคำกล่าวของนาง แม้แต่เหล่าตัวตนที่ซ่อนอยู่ในความมืดก็ไม่คิดว่านี้เป็นเพียงการโอ้อวด ทุกคนในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทเห็นตรงกันว่าตี๋เชานั้นมีโอกาสมากที่สุด
" สูญเสีย ? " หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะ " หากข้าจะต้องพ่ายแพ้ให้สักวันหนึ่ง มันแน่นอนว่าย่อมไม่ใช่เพราะสามีเจ้า นอกจากนี้เส้นทางสู่การเป็นจักรพรรดิอมตะนั้นไม่มีที่สิ้นสุด รอจนกระทั้งสามีเจ้าเป็นจักรพรรดิอมตะก่อนดีกว่าค่อยมาโอ้อวด ทว่า ข้าเกรงว่ามันจะไม่มีวันนั้น ตราบใดที่ข้ายังอยู่ที่นี่ ใครยังจะกลายเป็นจักรพรรดิอมตะได้อีก ? เจตจำนงแห่งสวรรค์นั้นเป็นของข้าเพียงคนเดียว และบัลลัลงก์สวรรค์ก็คือที่นั่งของข้า ! "
คำกล่าวของเจ้าหญิงฟินิกซ์เรียกว่าโอ้อวดอย่างมาก แต่คำกล่าวของหลี่ฉีเย่นั้นยโสยิ่งกว่า แม้ว่าคนอื่นจะรู้ว่าเขานั้นโอหังเกินไป แต่พวกเขาก้ต้องยอมรับสิ่งหนึ่ง - หลังจากากรต่อสู้วันนี้ หลี่ฉีเย่แน่นอนว่ามีคุณสมบัติที่จะแย่งบัลลังก์ !
" ช่างโอ้อวด " เจ้าหญิงฟินิกซ์แค่นเสียง " ข้าอยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน ใช้การเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดของเจ้าซะ และข้าจะทำลายพวกมัน ! "
ทัศนคติที่เย่อหยิงของเจ้าหญิงทำให้หลายคนประหลาดใจ
หลี่ฉีเย่นั้นฆ่าคนเป็นจำนวนมากและใช้ทำลายโชติช่วงจนทำให้หลายคนตื่นตระหนก พวกเขารู้ว่าเจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นทรงพลัง แต่พวกเขาก็รู้ว่านางไม่สามารถฆ่าหลี่ฉีเยได้ นางนั้นไม่สามารถย้อนกลับสถานการณ์นอกจากว่านางจะมีทักษะที่ทรงพลังยิ่งกว่า
หลังจากการต่อสู้นี้ ทุกคนรู้ว่าอัจฉริยะจากเชื้่อสายจักพรรดิอย่างยอดเซียนเล็บจันทร์เสี้ยวและยอดเซียนผีแมลงนั้นไม่สามารถต่อกรกับหลี่ฉีเย่ได้ เว้นแต่จะมีอาวุธจักรพรรดิ
ดังนั้นการที่เจ้าหญิงเลือกที่จะสู้โดยไม่ถอยทำให้หลายคนประหลาดใจ
" สมกับเป็นราชินี " หลี่ฉีเย่อมยิ้มและเอ่ย หลังจากได้ยินคำท้าทายของเจ้าหญิง " เจ้าต้องการจะทดสอบข้าและศึกษาข้า ? ทว่าน่าเสียดายเจ้าเพียงลำพังคงไม่มีความสามารถพอให้ข้าใช้ทักษะที่ดีที่สุดได้ เพียงมือเปล่าของข้าก็พอแล้ว " หลี่ฉีเย่พับแขนเสื้อหลังจากเอ่ยเสร็จ
คำกล่าวของหลี่ฉีเย่ทำให้หลายคนได้แต่มองหน้ากัน
หลี่ฉีเย่นั้นเป็นคนมีความสามารถท้าทายสวรรค์ แต่เจ้าหญิงเลือกที่จะสู้กับเขาไม่ได้เพื่อตัดสิน แต่เพื่อจะตรวจสอบ
ตั้งแต่เริ่ม เขาสู้โดยไม่ใช้อาวุธใดๆ แม้ว่าเขาจะใช้ทักษะที่ทรงพลัง คนอื่นก็ยังรู้สึกว่าเขาไม่ได้แสดงศักยภาพที่แท้จริงของเขาออกมา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาปลดปล่อยทำลายโชติช่วง ทุกคนเข้าใจถึงอำนาจที่เขาซ่อนไว้และทำให้วพวกเขาตัวสั่น
ตอนนี้ เจ้าหญิงนั้นต้องการจะทดสอบศักยภาพของเขาและจัดการเพื่อปูทางให้กับสามีนาง
เมื่อมาถึงตอนนี้ มันไม่มีโอกาสเจรจาสำหรับพวกเขาทั้งสองฝ่าย แน่นอนฝ่ายต้องมีฝ่ายหนึ่งตาย ในเวลานี้ไม่มีใครรู้จักตัวตนของหลี่ฉีเย่ แม้ว่าตี๋เชาจะถูกเรียกว่าตัวตนอมตะ เขาก็ไม่ได้มีความได้เปรียบ เจ้าหญิงฟินิกซ์ต้องการจะสู้เพื่อสามีนางได้ว่างแผนจัดการหลี่ฉีเย่
" พวกเราควรจะแต่งงานกับสตรีเหมือนเจ้าหญิงฟินิกซ์ ! " หลายคนอดไม่ได้ที่จะพึมพำในจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้กำลังหรือการวางแผน ทุกคนต้องยอมรับว่านางเป็นภรรยาที่มีความสามารถ
นางนั้นไม่เพียงแต่ทำหน้าที่วางแผนให้กับเขา นางกระทั้งกำจัดผู้ที่มาขว้างเส้นทางจักรพรรดิของเขาด้วย
" ตี๋เชาและเจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ " ในเวลานี้ทุกคนอดไม่ได้ที่จะอิจฉาตี๋เชา
ผู้นำนิกายรุ่นก่อนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ " น่าประทับใจ สมกับเป็นคู่หมั้นของตี๋เชา ทั้งความฉลาดและความกล้าหาญของนางน่าชื่นชมมาก "
วันนี้หลังจากได้เห็นการแสดงออกของนาง ทุกคนเห็นตกกันว่านางเหมาะสมกับคำว่าราชินี
ทุกคนมองไปที่นางอย่างลับๆและคาดเดาว่าสงครามนี้จะจบลงอย่างไร
" ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไร เคลื่อนไหวซะ ! " เจ้าหญิงฟินิกซ์ประกาศอย่างไม่แยแส
" โอมมม ! " ในเวลานี้ พลังงานในสายเลือดของนางนั้นปรากฏอยู่เบื่องหลังพร้อมกับวงแหวนชีวิตที่ส่องประกายสดใสราวกับปีกของฟินิกซ์ ในตอนนี้ตัวอักษรโบราณและอำนาจเต๋าจำนวนมากหมุนวนรอบตัวนาง
ทุกคนนั้นตกตะลึงที่เห็นพลังของจักรพรรดิปรากฏอยู่รอบตัวนางและอุทาน " เป็นไปอย่างไร ? นี้มันคัมภีร์จักรพรรดิ ! "
แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่านี้เป็นคัมภีร์ทักษะหรือทักษะวงแหวนชีวิต แต่มันอยู่ในระดับจักรพรรดิ เป็นสุดยอดคัมภีร์และเป็นของจักรพรดริอมตะคนใดก็ยังไม่มีใครรู้...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น