ตอนที่ 502 เกราะอมตะห้าธาตุ
" เขาได้เข้าไปยังเขตอมตะ " หลี่ฉีเย่มองไปยังเซียนฟานท้องฟ้าและเอ่ย
หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง กระทั้งเต๋าเบ่ากุ้ยก็ยังตกตะลึงและเอ่ยถาม " นายน้อยรู้ได้อย่างไร ? "
ควรจะรู้ว่าเรื่องนี้เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ และตัวตนอย่างเต๋าเบ่ากุ้ยก็เป็นผู้ที่เก็บความลับได้เก่งมาก ดังนั้นไม่มีทางที่เรื่องนี้จะแพร่กระจายออกไป
หลี่ฉีเย่หัวเราะและเอ่ย " นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เกราะอมตะห้าธาตุบนร่างกลายของเซียนฟานบอกทุกอย่างแล้ว สิ่งนี้นั้นถูกซ่อนไว้ในเขตอมตะตลอดเวลาและไม่มีทางปรากฏออกมาด้านนอก อย่างเดียวคือเขาจะต้องเขาไปยังส่วนลึกของเขตอมตะและกลับมาแบบมีชีวิต เช่นนั้นเขาจึงอาจจะได้รับของบางอย่าง อย่างเช่นเกราะอมตะห้าธาตุ ! "
" นายน้อยรู้เกี่ยวกับเขตอมตะด้วย ? " เต่าเบ้ากุ้ยอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจและเอ่ย " นี้..นี้เป็นความลับอย่างมาก น้อยคนนักที่จะรู้ "
" คนอื่นอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ข้าไม่ร่วมอยู่ในคนกลุ่มนั้น " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " คนรุ่นปัจจุบันสันนิฐานว่าจักรพรรดิอมตะตี๋หยู่ได้สมบัติล่ำค่าภายในหลุมฝังศพแห่งลางร้าย แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น จักรพรรดิอมตะได้แผ่นดินอมตะ เขตอมตะที่ปากทางเข้าของอาณาจักรอมตะ "
เขาทันใดนั้นก็ยิ้มให้กับเต๋าเบ่ากุ้ยก่อนจะลูบค้างและมองไปยังเซียนฟานที่เผชิญหน้ากับตี๋เชาและเอ่ยถาม " ผู้นำนิกายรู้อะไรเกี่ยวกับคนคนนี้บ้าง ? "
" น้อยยิ่งนัก แม้ว่าข้าจะมีส่วนในการฉลองเมื่อปีนั้น แต่ข้าก็ไม่ได้พบกับเซียนฟาน คนจำนวนน้อยมากที่รู้เกี่ยวกับเบื้องหลังของเซียนฟานและตัวตนของเขา รวมถึงศิษย์จากอาณาจักรภูเขาอมตะ ข้ารู้เพียงเซียนฟานถูกแต่งตั้งเป็นลูกหลาน และอาณาจักรภูเขาอมตะยังคงรักษาความลับของเซียนฟานไว้ " เต๋าเบ่ากุ้ยส่ายหัวและเอ่ย
" ช่างน่าสนใจ " หลี่ฉีเย่มองไปยังเซียนฟานที่ถูกปกคลุมไปด้วยเกราะอมตะห้าธาตุ
ควรจะรู้ว่าเมื่อขุมอำนาจเลือกผู้สืบทอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อสายจักรพรรดิ มันจะต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่และเป็นทางการ ลูกหลานคนนั้นจะต้องได้รับการประเมินอย่างเข้มงวด
เซียนฟานนั้นได้รับแต่งตั้งให้เป็นลูกหลานแต่ยังคงถูกเก็บรักษาตัวตนของเขาไว้เป็นอย่างดี เป้นเรื่องที่หายากมาให้หมู่ขุมอำนาจ
" ข้าได้ยินเหตุผลว่าทำไมเซียนฟานถึงถูกเลือก ข่าวลือว่าเซียนฟานเป็นคนเปิดประตูสู่เขตอมตะ " เต๋าเบ่ากุ้ยเอ่ย " คนนอกรู้จักเขตอมตะนี้น้อยมาก มันเป็นที่รู้จักหลังจากเซียนฟานได้เปิดมันและเขาถูกตั้งให้เป็นลูกหลาน เซียนฟานได้เข้าไปในเขตนั้น นี้คือข่าวล่าสุดที่ข้าได้ยินมา "
" ไม่น่าแปลกใจ " หลี่ฉีเย่ยังคงจ้องไปที่เซียนฟานและเอ่ย " การเป็นเจ้าของเกราะอมตะห้าธาตุได้พิสูจน์ถึงความสุดยอดของเซียนฟานแล้ว ด้วยความสามารถและความแข็งแกร่ง ไม่แปลกที่ชายคนนี้จะเป็นผู้ปกครองอาณาจักรอมตะในอนาคต "
" ชุดเกราะนี้ทรงอำนาจขนาดนั้นเชียว ? " หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
" ไม่เพียงแต่ทรงอำนาจ ต้นกำเนิดของมันอาจจะทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตาย ทุกอย่างนั้นดูโบราณอย่างมาก " หลี่ฉีเย่เอ่ยตอบ " ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะสามารถครอบครองได้ ปราศจากการฝึกฝนและโชคที่ดีแม้แต่จักรพรรดิอมตะก็ยังไม่ได้รับมัน มันไม่ใช่เกราะอมตะธรรมดา "
" ตูม ! " ตี๋เชาทันใดนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง มือของเขาเปลี่ยนเป็นตราผนึกสวรรค์ เมื่อมันปรากฏเก้าชั้นฟ้าและสิบแผ่นดินราวกับถูกผนึก ดวงอาทิตย์และดวงดาราราวกับจะหายไป
ตราผนึกสวรรค์นี้ปกคลุมทุกอย่างเหมือนกับการกำราบของจักรพรรดิ - ไม่สามารถหยุดหรือยับยั้งได้ ตัวตนนับล้านล้วนสั่นสะเทือนเมื่อเผชิญกับตราผนึกนี้
การเคลื่อนไหวแรกของตี๋เชาทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน ทั้งผู้เยาว์และผู้อาวุโสล้วนหวาดกลัว ตี๋เชานั้นต่างจากคนธรรมดามาก เพียงการเคลื่อนไหวแรกก็ทำให้สวรรค์สั่น !
" ตูม ! ตูม ! ตูม ! " เกราะอมตะห้าธาตุบนตัวของเซียนฟานยิ่งกลิ่นอายอมตะสีทองออกมาและตั้งเป็นกำแพงทองคำออมตะปกคลุมชั้นฟ้า แม้แต่พายุที่บ้าคลั่งก็ไม่สามารถเจาะการป้องกันนี้ได้
" ตูม !! " ฝ่ามือผนึกสวรรค์ของตี๋เชาได้พุ่งเข้าใส่กำแพงจิตวิญญาณนี้ แต่มันไม่สามารถทะลวงผ่านได้และแม้แต่การสั่นไหวก็ยังไม่มี
ผู้คนไม่คาดกว่าเกราะศักดิ์สิทธิ์ของเซียนฟานนั้นจะทรงอำนาจขนาดนี้ มันไม่เพียงแต่เป็นเครื่องป้องกัน แต่ยังเป็นอาวุธที่เต็มไปด้วยความลึกลับอีกด้วย
" ไปสู้กันที่ชั้นฟ้าด้านนอก ! หยิบอาวุธจักรพรรดิของเจ้าออกมา ข้าไม่ต้องการจะเอาเปรียบด้านอาวุธ ! " เซียนฟานเอ่ยด้วยความมั่นใจก่อนจะพุ่งออกไปราวกับมังกรร่ายรำ การเหาะของเขาราวกับจะเจาะผ่านดวงดาราและชั้นฟ้าทั้งหลายได้
การแสดงออกเปลี่ยนเป็นจริงจัง ตี๋เชาคำราม กิเลนเพลิงโลหิตส่งเสียงร้องพร้อมกับปลดปล่อยเปลวเพลิงและพุ่งไปยังเส้นขอบฟ้าเพื่อไล่ตามเซียนฟาน
" การต่อสู้บนชั้นฟ้าด้านนอก ? " หลายคนอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน ไม่ว่าพวกเขากำลังจะต่อสู้กันจริงๆ ? ส่วนใหญ่แล้วมีเพียงบรรพชนเที่ยงธรรมและจักรพรรดิอมตะที่สนามรบเป็นชั้นฟ้าด้านนอก
เหตุผลนั้นง่ายมาก เมื่อตัวตนทั้งสองนั้นต่อสู้ไม่มีสถานที่ใดในโลกที่จะต้านทานอำนาจทำลายล้างของพวกเขาได้ แม้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หรือแผ่นดินเทพที่ได้รับการอวยพรก็ยังไม่สามารถอยู่รอดได้
" พวกเขาทั้งสองนั้นเป็นจักรพรรดิอมตะรุ่นเยาว์ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกชั้นฟ้าด้านนอกในการต่อสู้ ค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว " หลายคนพึมพำ
นี้ไม่ใช่ว่าปราศจากเหตุผล หากตี๋เชาได้หยิบอาวุธจักรพรรดิออกมา ไม่ว่าจะเป็นเมือง ชั้นฟ้า หรือท้องทะเลก็อาจจะถูกทำลาย การเลือกชั้นฟ้าด้านนอกนั้นเหมาะสมกับการต่อสู้ของพวกเขามาก
ตี๋เชาและเซียนฟานพุ่งออกไปยังชั้นฟ้าด้านนอก ขณะที่คนรุ่นก่อนพุ่งตามออกไป
" มาเร็ว พวกเราจะไปดูกัน " นี้เป็นการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะมันจึงดึงดูดผู้คนอย่างมาก ลูกหลานและอัจฉริยะจากนิกายทรงอำนาจล้วนแต่ไล่ตามพวกเขาไป ผู้ฝึกตนที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำล้วนไม่สามารถตามไปได้ เพราะการเป็นยังชั้นฟ้าด้านนอกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีเพียงผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะสูงหรือต้องมีสมบัติบางอย่างเท่านั้น
" พวกเราควรจะไปดูหรือไม่ ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถามหลี่ฉีเย่ การต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะทั้งสองเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและอาจะจได้รับประโยชน์จากมัน
หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาและเอ่ย " ไม่มีอะไรน่าดู ไม่ว่าตี๋เชาจะมีความสามารถท้าทายสวรรค์ขนาดไหน เขาก็ไม่มีทางฆ่าชายคนนั้นได้ แม้แต่ใช้สมบัติจักรพรรดิอมตะระดับแท้จริงก็ยังมีช่องว่าง มันไม่ทางทะลวงการป้องกันของเกราะอมตะห้าธาตุได้ "
" เกราะนั้นมีอำนาจขนาดนั้น ? " หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยอารมณ์ ในสายตาของผู้ฝึกตน สมบัติจักรพรรดิอมตะระดับแท้จริงนั้นทรงพลังที่สุด
" มันไม่ใช่ว่าเกราะนั้นทรงอำนาจ การมีชีวิดรอดกลับมาจากเขตอมตะพร้อมกับเกราะนั้นได้ เซียนฟานคนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าตี๋เชา "
หลานอวิ๋นจูกลายเป็นเคร่งขรึมมากขึ้นหลังจากได้ยินเรื่องนี้ อัจฉริยะเช่นนางนั้นต้องการท้าทายสามวีรบุรุษ ตอนนี้ยังต้องเพิ่มเซียนฟานเข้าไป นางนั้นจะต้องระวังอีกฝ่ายให้มาก
เมื่อหลี่ฉีเย่ตั้งใจจะกลับไปยังที่พักของเขา ผู้ทำนายเต๋าทันใดนั้นก็โผล่มา ผู้ทำนายเต๋าคนนี้ยังเยาว์ แต่เขาเต็มไปด้วยความมีประสบการณ์และมีรอยยิ้มลึกลับปรากฏบนใบหน้าก่อนจะเอ่ยกับหลี่ฉีเย่ " ฮี่ฮี่ นายท่าน ในที่สุดข้าก็พบท่าน "
" เจ้าเป็นสมาชิกของเผ่าหัวใจผี ? เป็นเรื่องยากมากในปัจจุบันที่จะได้เจอ " หลานอวิ๋นจูประหลาดใจที่เป็นนักทำนายเต๋าปรากฏออกมาจากที่ใดก็ไม่ทราบ
เผ่าหัวใจผีนั้นเป็นเผ่าลึกลับในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ พวกเขานั้นเก่งในเรื่องการคำนวนและอ่านอนาคต ตำนานกล่าวไว้ว่าพวกขานั้นถูกลงโทษจากสวรรค์ ดังนั้นสมาชิกของพวกเขาจึงมีชีวิตน้อยมากในปัจจุบัน
ผู้ทำนายเต๋าสวรรค์คนนี้เป็นคนที่หลี่ฉีเย่พบด้านนอกของเกาะที่สูญหาย คนที่เคยทำนายอนาคตของหลี่ฉีเย่
แม้ว่าหลานอวิ๋นจูจะเปิดเผยต้นกำเนิดของเขา นักทำนายเต๋าก็ไม่แปลกใจและยิ้มเอ่ย " เทพธิดาหลานสมกับเป็นลูกหลานของนิกายพันแม่น้ำ วิสัยทัศน์ของท่านนั้นส่องประกายราวกับดวงดารา - ช่างสดใสจริงๆ "
" เอาละ เลิกพูดไร้สาระสักที เจ้าคำนวนมันรึยัง ? " หลี่ฉีเย่เอ่ย
หลังจากได้ยิน ผู้ทำนายเต๋าก็กลายเป็นจริงจังก่อนจะหันไปมองรอบๆ และหยิบกระดาษสีเหลืองออกมาอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็มอบให้กับหลี่ฉีเย่และเอ่ย " ข้าไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ผลของการคำนวนอยู่ที่นี่แล้ว "
หลี่ฉีเย่มองไปยังแผ่นกระดาษสีเหลืองและหันกลับไปถาม " เจ้าแน่ใจ ? มันไม่มีข้อผิดหลาดใช่หรือไม่ ? "
" ความผิดพลาดของมันคือศูนย์ ตัวตนผู้ต่ำต้อยนี้ข้อรบประกันมันด้วยชีวิต ! " ผู้ทำนายเต๋าอย่างอย่างจริงจัง " นายท่าน เพื่อที่จะคำนวนมัน ชีวิตน้อยของข้านั้นเกือบจะโดนการลงทัณฑ์จากสวรรค์จนกลายเป็นขี้เถา ! "
หลานอวิ๋นจูค่อยข้างสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ทำนายเต๋าคนนี้คำนวนมให้กับหลี่ฉีเย่ พิจรณาจาการแสดงออกอย่างเคร่งขรึมของพวกเรามันจะต้องเป็นสิ่งที่ร้ายแรงมาก แต่หลานอวิ๋นจูไม่เห็นเนื้อหาบนกระดาษก่อนที่หลี่ฉีเย่จะนำมันไป
หลังจากส่งกระดาษกลับไป หลี่ฉีเย่เอ่ย " ดีมาก ในเมื่อเจ้าทำเรื่องนี้ให้ข้า ข้าจะมอบการสร้างใหม่ที่ดีให้ ตามข้าเข้าไปยังหลุมฝังศพแห่งล้างร้าย อนาคตของเจ้าอยู่ที่นั้น "
ผุ้ทำนายเต๋าฉีกยิ้มอย่างร่าเริงและเอ่ย " ผู้ต่ำต้อยคนนี้รู้ว่านายท่านเป็นดาวนำโชค การเจอกับนายท่านเป็นโชคที่ดีของข้า "
หลานอวิ๋นจูทำได้เพียงแต่ส่ายหน้าขณะคิดว่าเจ้าสารเลวนี้รู้ว่าจะประจบคนอื่นอย่างไร นางไม่รู้ว่าผู้ทำนายเต๋าคนนี้เคยอ่านฝ่ามือของหลี่ฉีเย่มาแล้วและทำหน้าเหมือนกับเห็นผี
" พวกเราจะเปิดหลุมฝังศพแห่งลางร้ายตอนนี้ " หลี่ฉีเย่เห็นไปเอ่ยกับเต๋าเบ่ากุ้ย " โชคที่จะพบภายในขึ้นอยุ่กับตัวพวกท่านเองแล้ว "
" เตรียมตัวให้พร้อมพวกเรากำลังจะเปิดหลุมฝังศพแห่งล้างร้าย ! " หลังจากได้ยินเช่นนี้ เต๋าเบ่ากุ้ยก็รีบประกาศออกคำสั่งอย่างตื่นเต้น
ไม่เพียงแค่เขา แต่เหล่าผู้อาวุโสก็ยังตื่นเต้น หลุมฝังศพแห่งล้างร้ายเป็นสิ่งที่สร้างความโลภให้กับทุกคนตั้งแต่ยุคโบราณ
พวกเขาไม่คาดว่าจะมีโอกาสเข้าไปตลอดชีวิต เท่าที่พวกเขาจำได้มีเพียงผู้ที่มีโชคดีพอที่จะได้รับการเข้าไปยังหลุมฝังศพ
ด้านนอกของหลุมฝังศพ หลายคนเสียใจที่ไม่สามารถไปดูการต่อสู้ของตี๋เชาและเซียนฟานได้ ขณะที่บางคนเห็นนิกายพันแม่น้ำหวนเคลื่อนไหว เหล่าผู้อาวุโสล้วนติดตามหลี่ฉีเย่ไปยังหน้าประตูของหลุมฝังศพแห่งล้างร้าย...
" เขาได้เข้าไปยังเขตอมตะ " หลี่ฉีเย่มองไปยังเซียนฟานท้องฟ้าและเอ่ย
หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง กระทั้งเต๋าเบ่ากุ้ยก็ยังตกตะลึงและเอ่ยถาม " นายน้อยรู้ได้อย่างไร ? "
ควรจะรู้ว่าเรื่องนี้เป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ และตัวตนอย่างเต๋าเบ่ากุ้ยก็เป็นผู้ที่เก็บความลับได้เก่งมาก ดังนั้นไม่มีทางที่เรื่องนี้จะแพร่กระจายออกไป
หลี่ฉีเย่หัวเราะและเอ่ย " นี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เกราะอมตะห้าธาตุบนร่างกลายของเซียนฟานบอกทุกอย่างแล้ว สิ่งนี้นั้นถูกซ่อนไว้ในเขตอมตะตลอดเวลาและไม่มีทางปรากฏออกมาด้านนอก อย่างเดียวคือเขาจะต้องเขาไปยังส่วนลึกของเขตอมตะและกลับมาแบบมีชีวิต เช่นนั้นเขาจึงอาจจะได้รับของบางอย่าง อย่างเช่นเกราะอมตะห้าธาตุ ! "
" นายน้อยรู้เกี่ยวกับเขตอมตะด้วย ? " เต่าเบ้ากุ้ยอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจและเอ่ย " นี้..นี้เป็นความลับอย่างมาก น้อยคนนักที่จะรู้ "
" คนอื่นอาจจะเป็นเช่นนั้น แต่ข้าไม่ร่วมอยู่ในคนกลุ่มนั้น " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " คนรุ่นปัจจุบันสันนิฐานว่าจักรพรรดิอมตะตี๋หยู่ได้สมบัติล่ำค่าภายในหลุมฝังศพแห่งลางร้าย แต่ความจริงไม่ใช่เช่นนั้น จักรพรรดิอมตะได้แผ่นดินอมตะ เขตอมตะที่ปากทางเข้าของอาณาจักรอมตะ "
เขาทันใดนั้นก็ยิ้มให้กับเต๋าเบ่ากุ้ยก่อนจะลูบค้างและมองไปยังเซียนฟานที่เผชิญหน้ากับตี๋เชาและเอ่ยถาม " ผู้นำนิกายรู้อะไรเกี่ยวกับคนคนนี้บ้าง ? "
" น้อยยิ่งนัก แม้ว่าข้าจะมีส่วนในการฉลองเมื่อปีนั้น แต่ข้าก็ไม่ได้พบกับเซียนฟาน คนจำนวนน้อยมากที่รู้เกี่ยวกับเบื้องหลังของเซียนฟานและตัวตนของเขา รวมถึงศิษย์จากอาณาจักรภูเขาอมตะ ข้ารู้เพียงเซียนฟานถูกแต่งตั้งเป็นลูกหลาน และอาณาจักรภูเขาอมตะยังคงรักษาความลับของเซียนฟานไว้ " เต๋าเบ่ากุ้ยส่ายหัวและเอ่ย
" ช่างน่าสนใจ " หลี่ฉีเย่มองไปยังเซียนฟานที่ถูกปกคลุมไปด้วยเกราะอมตะห้าธาตุ
ควรจะรู้ว่าเมื่อขุมอำนาจเลือกผู้สืบทอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อสายจักรพรรดิ มันจะต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่และเป็นทางการ ลูกหลานคนนั้นจะต้องได้รับการประเมินอย่างเข้มงวด
เซียนฟานนั้นได้รับแต่งตั้งให้เป็นลูกหลานแต่ยังคงถูกเก็บรักษาตัวตนของเขาไว้เป็นอย่างดี เป้นเรื่องที่หายากมาให้หมู่ขุมอำนาจ
" ข้าได้ยินเหตุผลว่าทำไมเซียนฟานถึงถูกเลือก ข่าวลือว่าเซียนฟานเป็นคนเปิดประตูสู่เขตอมตะ " เต๋าเบ่ากุ้ยเอ่ย " คนนอกรู้จักเขตอมตะนี้น้อยมาก มันเป็นที่รู้จักหลังจากเซียนฟานได้เปิดมันและเขาถูกตั้งให้เป็นลูกหลาน เซียนฟานได้เข้าไปในเขตนั้น นี้คือข่าวล่าสุดที่ข้าได้ยินมา "
" ไม่น่าแปลกใจ " หลี่ฉีเย่ยังคงจ้องไปที่เซียนฟานและเอ่ย " การเป็นเจ้าของเกราะอมตะห้าธาตุได้พิสูจน์ถึงความสุดยอดของเซียนฟานแล้ว ด้วยความสามารถและความแข็งแกร่ง ไม่แปลกที่ชายคนนี้จะเป็นผู้ปกครองอาณาจักรอมตะในอนาคต "
" ชุดเกราะนี้ทรงอำนาจขนาดนั้นเชียว ? " หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
" ไม่เพียงแต่ทรงอำนาจ ต้นกำเนิดของมันอาจจะทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตาย ทุกอย่างนั้นดูโบราณอย่างมาก " หลี่ฉีเย่เอ่ยตอบ " ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะสามารถครอบครองได้ ปราศจากการฝึกฝนและโชคที่ดีแม้แต่จักรพรรดิอมตะก็ยังไม่ได้รับมัน มันไม่ใช่เกราะอมตะธรรมดา "
" ตูม ! " ตี๋เชาทันใดนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง มือของเขาเปลี่ยนเป็นตราผนึกสวรรค์ เมื่อมันปรากฏเก้าชั้นฟ้าและสิบแผ่นดินราวกับถูกผนึก ดวงอาทิตย์และดวงดาราราวกับจะหายไป
ตราผนึกสวรรค์นี้ปกคลุมทุกอย่างเหมือนกับการกำราบของจักรพรรดิ - ไม่สามารถหยุดหรือยับยั้งได้ ตัวตนนับล้านล้วนสั่นสะเทือนเมื่อเผชิญกับตราผนึกนี้
การเคลื่อนไหวแรกของตี๋เชาทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน ทั้งผู้เยาว์และผู้อาวุโสล้วนหวาดกลัว ตี๋เชานั้นต่างจากคนธรรมดามาก เพียงการเคลื่อนไหวแรกก็ทำให้สวรรค์สั่น !
" ตูม ! ตูม ! ตูม ! " เกราะอมตะห้าธาตุบนตัวของเซียนฟานยิ่งกลิ่นอายอมตะสีทองออกมาและตั้งเป็นกำแพงทองคำออมตะปกคลุมชั้นฟ้า แม้แต่พายุที่บ้าคลั่งก็ไม่สามารถเจาะการป้องกันนี้ได้
" ตูม !! " ฝ่ามือผนึกสวรรค์ของตี๋เชาได้พุ่งเข้าใส่กำแพงจิตวิญญาณนี้ แต่มันไม่สามารถทะลวงผ่านได้และแม้แต่การสั่นไหวก็ยังไม่มี
ผู้คนไม่คาดกว่าเกราะศักดิ์สิทธิ์ของเซียนฟานนั้นจะทรงอำนาจขนาดนี้ มันไม่เพียงแต่เป็นเครื่องป้องกัน แต่ยังเป็นอาวุธที่เต็มไปด้วยความลึกลับอีกด้วย
" ไปสู้กันที่ชั้นฟ้าด้านนอก ! หยิบอาวุธจักรพรรดิของเจ้าออกมา ข้าไม่ต้องการจะเอาเปรียบด้านอาวุธ ! " เซียนฟานเอ่ยด้วยความมั่นใจก่อนจะพุ่งออกไปราวกับมังกรร่ายรำ การเหาะของเขาราวกับจะเจาะผ่านดวงดาราและชั้นฟ้าทั้งหลายได้
การแสดงออกเปลี่ยนเป็นจริงจัง ตี๋เชาคำราม กิเลนเพลิงโลหิตส่งเสียงร้องพร้อมกับปลดปล่อยเปลวเพลิงและพุ่งไปยังเส้นขอบฟ้าเพื่อไล่ตามเซียนฟาน
" การต่อสู้บนชั้นฟ้าด้านนอก ? " หลายคนอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน ไม่ว่าพวกเขากำลังจะต่อสู้กันจริงๆ ? ส่วนใหญ่แล้วมีเพียงบรรพชนเที่ยงธรรมและจักรพรรดิอมตะที่สนามรบเป็นชั้นฟ้าด้านนอก
เหตุผลนั้นง่ายมาก เมื่อตัวตนทั้งสองนั้นต่อสู้ไม่มีสถานที่ใดในโลกที่จะต้านทานอำนาจทำลายล้างของพวกเขาได้ แม้แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ หรือแผ่นดินเทพที่ได้รับการอวยพรก็ยังไม่สามารถอยู่รอดได้
" พวกเขาทั้งสองนั้นเป็นจักรพรรดิอมตะรุ่นเยาว์ ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกชั้นฟ้าด้านนอกในการต่อสู้ ค่อนข้างน่าประทับใจทีเดียว " หลายคนพึมพำ
นี้ไม่ใช่ว่าปราศจากเหตุผล หากตี๋เชาได้หยิบอาวุธจักรพรรดิออกมา ไม่ว่าจะเป็นเมือง ชั้นฟ้า หรือท้องทะเลก็อาจจะถูกทำลาย การเลือกชั้นฟ้าด้านนอกนั้นเหมาะสมกับการต่อสู้ของพวกเขามาก
ตี๋เชาและเซียนฟานพุ่งออกไปยังชั้นฟ้าด้านนอก ขณะที่คนรุ่นก่อนพุ่งตามออกไป
" มาเร็ว พวกเราจะไปดูกัน " นี้เป็นการต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะมันจึงดึงดูดผู้คนอย่างมาก ลูกหลานและอัจฉริยะจากนิกายทรงอำนาจล้วนแต่ไล่ตามพวกเขาไป ผู้ฝึกตนที่มีระดับการบ่มเพาะต่ำล้วนไม่สามารถตามไปได้ เพราะการเป็นยังชั้นฟ้าด้านนอกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มีเพียงผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะสูงหรือต้องมีสมบัติบางอย่างเท่านั้น
" พวกเราควรจะไปดูหรือไม่ ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถามหลี่ฉีเย่ การต่อสู้ระหว่างอัจฉริยะทั้งสองเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและอาจะจได้รับประโยชน์จากมัน
หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาและเอ่ย " ไม่มีอะไรน่าดู ไม่ว่าตี๋เชาจะมีความสามารถท้าทายสวรรค์ขนาดไหน เขาก็ไม่มีทางฆ่าชายคนนั้นได้ แม้แต่ใช้สมบัติจักรพรรดิอมตะระดับแท้จริงก็ยังมีช่องว่าง มันไม่ทางทะลวงการป้องกันของเกราะอมตะห้าธาตุได้ "
" เกราะนั้นมีอำนาจขนาดนั้น ? " หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามด้วยอารมณ์ ในสายตาของผู้ฝึกตน สมบัติจักรพรรดิอมตะระดับแท้จริงนั้นทรงพลังที่สุด
" มันไม่ใช่ว่าเกราะนั้นทรงอำนาจ การมีชีวิดรอดกลับมาจากเขตอมตะพร้อมกับเกราะนั้นได้ เซียนฟานคนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าตี๋เชา "
หลานอวิ๋นจูกลายเป็นเคร่งขรึมมากขึ้นหลังจากได้ยินเรื่องนี้ อัจฉริยะเช่นนางนั้นต้องการท้าทายสามวีรบุรุษ ตอนนี้ยังต้องเพิ่มเซียนฟานเข้าไป นางนั้นจะต้องระวังอีกฝ่ายให้มาก
เมื่อหลี่ฉีเย่ตั้งใจจะกลับไปยังที่พักของเขา ผู้ทำนายเต๋าทันใดนั้นก็โผล่มา ผู้ทำนายเต๋าคนนี้ยังเยาว์ แต่เขาเต็มไปด้วยความมีประสบการณ์และมีรอยยิ้มลึกลับปรากฏบนใบหน้าก่อนจะเอ่ยกับหลี่ฉีเย่ " ฮี่ฮี่ นายท่าน ในที่สุดข้าก็พบท่าน "
" เจ้าเป็นสมาชิกของเผ่าหัวใจผี ? เป็นเรื่องยากมากในปัจจุบันที่จะได้เจอ " หลานอวิ๋นจูประหลาดใจที่เป็นนักทำนายเต๋าปรากฏออกมาจากที่ใดก็ไม่ทราบ
เผ่าหัวใจผีนั้นเป็นเผ่าลึกลับในโลกใต้พิภพศักดิ์สิทธิ์ พวกเขานั้นเก่งในเรื่องการคำนวนและอ่านอนาคต ตำนานกล่าวไว้ว่าพวกขานั้นถูกลงโทษจากสวรรค์ ดังนั้นสมาชิกของพวกเขาจึงมีชีวิตน้อยมากในปัจจุบัน
ผู้ทำนายเต๋าสวรรค์คนนี้เป็นคนที่หลี่ฉีเย่พบด้านนอกของเกาะที่สูญหาย คนที่เคยทำนายอนาคตของหลี่ฉีเย่
แม้ว่าหลานอวิ๋นจูจะเปิดเผยต้นกำเนิดของเขา นักทำนายเต๋าก็ไม่แปลกใจและยิ้มเอ่ย " เทพธิดาหลานสมกับเป็นลูกหลานของนิกายพันแม่น้ำ วิสัยทัศน์ของท่านนั้นส่องประกายราวกับดวงดารา - ช่างสดใสจริงๆ "
" เอาละ เลิกพูดไร้สาระสักที เจ้าคำนวนมันรึยัง ? " หลี่ฉีเย่เอ่ย
หลังจากได้ยิน ผู้ทำนายเต๋าก็กลายเป็นจริงจังก่อนจะหันไปมองรอบๆ และหยิบกระดาษสีเหลืองออกมาอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็มอบให้กับหลี่ฉีเย่และเอ่ย " ข้าไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ผลของการคำนวนอยู่ที่นี่แล้ว "
หลี่ฉีเย่มองไปยังแผ่นกระดาษสีเหลืองและหันกลับไปถาม " เจ้าแน่ใจ ? มันไม่มีข้อผิดหลาดใช่หรือไม่ ? "
" ความผิดพลาดของมันคือศูนย์ ตัวตนผู้ต่ำต้อยนี้ข้อรบประกันมันด้วยชีวิต ! " ผู้ทำนายเต๋าอย่างอย่างจริงจัง " นายท่าน เพื่อที่จะคำนวนมัน ชีวิตน้อยของข้านั้นเกือบจะโดนการลงทัณฑ์จากสวรรค์จนกลายเป็นขี้เถา ! "
หลานอวิ๋นจูค่อยข้างสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้ทำนายเต๋าคนนี้คำนวนมให้กับหลี่ฉีเย่ พิจรณาจาการแสดงออกอย่างเคร่งขรึมของพวกเรามันจะต้องเป็นสิ่งที่ร้ายแรงมาก แต่หลานอวิ๋นจูไม่เห็นเนื้อหาบนกระดาษก่อนที่หลี่ฉีเย่จะนำมันไป
หลังจากส่งกระดาษกลับไป หลี่ฉีเย่เอ่ย " ดีมาก ในเมื่อเจ้าทำเรื่องนี้ให้ข้า ข้าจะมอบการสร้างใหม่ที่ดีให้ ตามข้าเข้าไปยังหลุมฝังศพแห่งล้างร้าย อนาคตของเจ้าอยู่ที่นั้น "
ผุ้ทำนายเต๋าฉีกยิ้มอย่างร่าเริงและเอ่ย " ผู้ต่ำต้อยคนนี้รู้ว่านายท่านเป็นดาวนำโชค การเจอกับนายท่านเป็นโชคที่ดีของข้า "
หลานอวิ๋นจูทำได้เพียงแต่ส่ายหน้าขณะคิดว่าเจ้าสารเลวนี้รู้ว่าจะประจบคนอื่นอย่างไร นางไม่รู้ว่าผู้ทำนายเต๋าคนนี้เคยอ่านฝ่ามือของหลี่ฉีเย่มาแล้วและทำหน้าเหมือนกับเห็นผี
" พวกเราจะเปิดหลุมฝังศพแห่งลางร้ายตอนนี้ " หลี่ฉีเย่เห็นไปเอ่ยกับเต๋าเบ่ากุ้ย " โชคที่จะพบภายในขึ้นอยุ่กับตัวพวกท่านเองแล้ว "
" เตรียมตัวให้พร้อมพวกเรากำลังจะเปิดหลุมฝังศพแห่งล้างร้าย ! " หลังจากได้ยินเช่นนี้ เต๋าเบ่ากุ้ยก็รีบประกาศออกคำสั่งอย่างตื่นเต้น
ไม่เพียงแค่เขา แต่เหล่าผู้อาวุโสก็ยังตื่นเต้น หลุมฝังศพแห่งล้างร้ายเป็นสิ่งที่สร้างความโลภให้กับทุกคนตั้งแต่ยุคโบราณ
พวกเขาไม่คาดว่าจะมีโอกาสเข้าไปตลอดชีวิต เท่าที่พวกเขาจำได้มีเพียงผู้ที่มีโชคดีพอที่จะได้รับการเข้าไปยังหลุมฝังศพ
ด้านนอกของหลุมฝังศพ หลายคนเสียใจที่ไม่สามารถไปดูการต่อสู้ของตี๋เชาและเซียนฟานได้ ขณะที่บางคนเห็นนิกายพันแม่น้ำหวนเคลื่อนไหว เหล่าผู้อาวุโสล้วนติดตามหลี่ฉีเย่ไปยังหน้าประตูของหลุมฝังศพแห่งล้างร้าย...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น