ตอนที่ 510 สมบัติของเขตลับ
มันได้รับการบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด เปลวไฟบนร่างของมันค่อยๆมอดดับลง ถ้าไม่ได้ดื่มน้ำทิพย์หมื่นดาราก่อนจะเข้าไป มันจะตายในทะเลสาปแม้ว่าจะมีสิบชีวิตก็ตาม
หลานอวิ๋นจูและผู้ทำนายเต๋าตกตะลึงอย่างมาก มันใช่เป็นเพราะเต๋านั้นได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเพราะตอไม้ที่มีลักษณะคล้ายมือ
ในเวลานี้ รอบๆตอไม้ที่เหี่ยวเฉาเปล่งประกายด้วยลำแสงอมตะไร้ที่สิ้นสุดและมันค่อยกระจายออกมา ลำแสงอมตะเหล่านี้เป็นประกอบไปด้วยยอดเต๋าของโลก มันเหมือนกับว่าพวกมันจะสามารถทำลายชันฟ้าและสร้างความโกลาหลให้กับหยินและหยางได้ มันเหมือนกับว่าลำแสงอตะเหล่านี้ออกมาจากร่างกายของตัวตนอมตะ
แม้แต่อัจฉริยะอย่างหลานอวิ๋นจูก็ไม่สามารถมองผ่านแสงเหล่านี้ได้ ขาของนางกลายเป็นอ่อนแอลงอย่างมาก ลำแสงเหล่านี้ปลูกฝังความกลัวเข้าสู่จิตใจของทุกคนที่อยู่ที่นี่ เมื่อลำแสงเหล่านี้เขาปะทะตัว หลานอวิ๋นจูและผู้ทำนายเต๋ารู้สึกราวกับเต๋าของพวกเขากำลังถูกสุดยอดเต๋ากำราบและมันกรีดร้องพร้อมกับพยามดิ้นรน
หลานอวิ๋นจูนั้นบ่มเพาะเจตจำนงแห่งสวรรค์ แต่มันไม่สามารถต้านทานแสงอมตะนี้ได้ มันน่ากลัวขนาดไหนกัน แม้แต่คัมภีร์เจตจำนงแห่งสวรรค์ก็ยังไม่สามารถต่อต้าน ?
ภายในลำแสงอมตะเหล่านี้ มันมี ' บางอย่าง ' ที่มองไม่เห็นอยู่ แสงของมันนั้นส่องประกายเจิดจ้าเกินไป หลานอวิ๋นจูต้องกระตุ้นเนตรสวรรค์ของนางโดยใช้อำนาจของคัมภีร์ลับ เพื่อดูของภายใน
มันเป็นหนังสือ หนังสือที่เก่าแก่อย่างมาก มันดูเหมือนจะได้รับการสร้างขึ้นโดยกระบวนการตามธรรมชาติ ดังนั้นมันจึงดูเป็นมากกว่าหนังสือที่สร้างขึ้นโดยสวรรค์และปฐพี หนังสือเล่มนี้มีกลิ่นอายของโลกราวกับมันเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่ง
หลานอวิ๋นจูไม่สามารถจินตนาการถึงอำนาจของหนังสือเมื่อมันถูกเปิดใช้ เมื่อหน้าหนังสือเหล่านี้ถูกพลิกไปมาสวรรค์และปฐพีต่างสั่นสะท้าน หรือบางทีโลกนับพันอาจจะสูญเสียท่วงทำนองของพวกมัน ท้องฟ้านั้นอาจจะหลั่งนำตาเป็นโลหิตขณะที่ปฐพีแตกสลาย !
หลี่ฉีเย่มองไปยังหนังสือเล่มนี้และพูดด้วยอารมณ์ " จริง...มันเป็นเรื่องจริง สิ่งที่ข้าคิด มันมีตัวตนอยู่จริงๆ ! "
ในอดีตหลี่ฉีเย่ในฐานะอีกาทมิฬ ได้กลายเป็นสหายกับเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนและได้รับประสบการณ์ร่วมกันมากมาย เจ้าตำหนักกล่าวว่าเขตลับในหลุมฝังศพแห่งลางร้ายนั้นมีหนังสือซ่อนอยู่ ดังนั้นหลี่ฉีเย่จึงหามันอยู่ตลอดเวลา หนังสือที่หายาก หนังสือที่สร้างความโลภให้แม้แต่จักรพรรดิอมตะ หนังสือที่มีคุณค่าที่เขายินดีจะจ่ายทุกอย่างเพื่อให้ได้รับมันมา
ต่อมา เขาไม่ได้มาหลุมฝังศพแห่งลางร้ายเพียงครั้งหรือสองครั้ง บางครั้งเขามาไม่ได้เพื่อหาสมบัติใดๆ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าเขามาเพื่อหาจุดหยุดของเมฆโลหิต สุดท้ายด้วยการทำงานหนักและจ่ายเวลาไปเป็นจำนวนมาก หลี่ฉีเย่ก็หาเขตลับนี้เจอ
ครั้งต่อมา หลี่ฉีเย่ได้นำจักรพรรดิอมตะฉินหลี่มาที่นี่ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้รับหนังสือ หนังสือเล่มนี้มักจะค้างคาอยู่ในหัวใจของเขามาเป็นเวลานาน ดังนั้นเขาจึงเริ่มศึกษาตำราและจารึกมากยิ่งขึ้น สุดท้ายเขาก็สะดุดกับวิธีการหนึ่งเข้า
ในยุคนี้ เขานั้นมีโอกาสได้พบกับตอไม้แห้ง นี้ทำให้เขามีโอกาสได้ใช้วิธีนี้ เขานั้นไม่แน่ใจการมีตัวตนของหนังสือและทำได้เพียงคาดเดา แม้แต่เจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนเองก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกัน
นอกจากนี้มันยังมีเขตลับหลายแห่งในหลุมฝังศพแห่งลางร้ายและไม่แน่ว่ามันจะปรากฏที่ไหน สรุปคือหลี่ฉีเย่ไม่มีความมั่นใจใดๆ แต่หนังสือเล่มนี้คุ้มค่ากับการเดิมพัน
มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ อย่างที่เขาคาดเดา ในเขตลับนี้มีหนังสืออยู่ ตำนานนั้นเป็นจริงและความลับในหนังสือนี้ก็ต้องเป็นจริงเช่นกัน
เต่าขึ้นปีนขึ้นมายังฝั่งขณะที่หลี่ฉีเย่พุ่งไปคว้าหนังสืออย่างรวดเร็ว เขาไม่สามารถที่จะโอบกอดหนังสือเล่มนี้และเอ่ยด้วยอารมณ์ " มันเป็นหนังสือเล่มนี้จริงๆ ! สวรรค์ยังไม่ทอดทิ้งข้า ! "
ผู้ทำนายเต๋าเอ่ยถามขณะสั่นไหว " นี้เป็นหนังสือที่มีคุณค่าแบบใดกัน ? " เขานั้นไม่รู้อะไรมากนักนอกจากมันเป็นหนังสือที่น่ามหัศจรรย์และน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
หลี่ฉีเย่สูดลมหายใจเข้าลึกและวางหนังสือเล่มนี้กลับไปในประตูพรสวรรค์ของเขาพร้อมกับตอไม้แห้ง เห็นร่างกายของเต่าที่แตกหัก หลี่ฉีเย่หยิบขวดออกมาและป้อนมันด้วยน้ำทิพย์หมื่นดารา
หลังจากได้ยินมันเข้าไปแล้ว เต่ากลับกลายมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผลของน้ำทิพย์เริ่มที่จะสมานแผลของมัน
หลานอวิ๋นจูจ้องมองเขาอีกครั้งและเอ่ย " ท่านมันสิ้นเปลืองเกินไป หนึ่งหยดนั้นเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนหวดากลัวจนตาย แต่นี้ยังมีหยดอื่นอีก ?! นี้ท่านต้องการให้คนทั้งโลกตายจากความฟุ่มเฟือยของท่าน ? "
หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะตำหนิการกระทำเช่นนี้ ถ้าหากคนอื่นเห็นสิ่งนี้ พวกเขาจะปล่อยเต่าไปและเพลิดเพลินไปกับน้ำทิพย์หมื่นดาราที่มี
อีกด้านหนึ่ง ผู้ทำนายเต๋าอดไม่ได้ที่จะได้กับเต๋าตัวนี้ พวกเขาไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสน้ำทิพย์หมื่นดารา ไม่แม้แต่หยดเดียว
" นี้สำหรับความร่วมมือของมัน มันคุ้นค่าอย่างมาก " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ยขณะเคาะกระดองเต่า " ตอนนี้เจ้าเป็นอิสระแล้ว เมื่อถึงเวลา ข้าจะบอกให้บางคนไปปล่อยเจ้าที่ทะเลราตรี "
ราวกับเต่านั้นเข้าใจคำพูดของหลี่ฉีเย่ มันได้ใช้หัวถูกับมือของหลี่ฉีเย่อย่างมีความสุข หลี่ฉีเย่ผ่อนคลายและถอนโซ่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบลำตัวเต่าออก
ผ่านไปชั่วครู่หลังจากที่เขาได้รับหนังสือเล่มนี้ เสียงพึมพำก็ปรากฏ จากทะเลสาปประตูเต๋าได้เปิดออกอย่างช้าๆ มันถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องจากไปแล้ว
หลี่ฉีเย่มองไปยังประตูเคลื่อนย้ายและบอกกับทั้งสอง " มา มันถึงเวลาที่พวกเราจะเข้าไปยังห้าเขตหลุมฝังศพ "
หลานอวิ๋นจูและผู้ทำนายเต๋าสวรรค์ติดตามหลี่ฉีเย่ไปในทันที ทันใดนั้นพวกเขาก็กลายเป็นแสงสีดำและถูกเคลื่อนย้ายออกจากเขตลับไปยังที่อื่น
หลานอวิ๋นจูเปิดดวงตาของนางและเห็นภาพด้านหน้าเป็นภูเขาตระหง่านตามด้วยเทือกเขาสูง ภูเขาสูงส่วนใหญ่นั้นเกิดจากก้อนหินขนาดใหญ่ประกอบกับก้อนหินขนาดเล็กอีกหลายก้อน ด้วยเหตุนี้ทำให้รูปร่างของมันจึงแปลกประหลาด บางคนมองมันเห็นไข่ขณะที่บางคนมองมันเป็นเสา
ยืนอยู่หน้าภาพเหล่านี้ พวกเขาไม่เห็นอะไรอื่นนอกหินราวกับว่าที่นี่เป็นโลกแห่งหิน
" ความผันผวนของโลหะที่นี่ค่อนข้างแข็งแกร่ง " หลานอวิ๋นจูรู้สึกถึงกลิ่นอายแปลกๆและอุทานออกมา " หรือสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่พิเศษในการให้กำเนิดสมบัติโลหะและหินศักดิ์สิทธิ์ ? "
" เจ้ากล่าวถูก " หลี่ฉีเย่ยิ้มเอ่ย " มันมีห้าเขตหลุมฝังศพในหลุมฝังศพแห่งลางร้าย และเขตนั้นต่างกันออกไป บางคนแบ่งมันออกเป็นห้าธาตุ เขตโลหะ เขตไม้ เขตไฟ เขตน้ำ และเขตปฐพี สถานที่ที่เจ้ายืนอยู่เรียกว่าเขตโลหะ "
" เขตห้าธาตุ...." ผู้ทำนายเต๋าคิดกับตัวเอง นี้มันแตกต่างจากจินตนาการของเขา
" เจ้าสามารถกล่าวเช่นนั้นได้ ในแต่ละเขตนั้นมีลักษณะเฉาพะของพวกมัน ตัวอย่างเช่นเขตโลหะจะให้กำเนิดสมบัติโลหะและหินศักดิ์สิทธิ์ หากผู้คนต้องการเต๋าสมบัติโลหะหรือหินแห่งโชคชะตาที่แท้จริง พวกเขาสามารถหาได้จากที่นี่ มันมีแร่และโลหะอยู่ในเขตนี้ " หลี่ฉีเย่หยุดชั่วคราวก่อนจะเอ่ยต่อ " หากเจ้าต้องการจะหาเม็ดยาจิตวิญญาณหรือหญ้าสมุนไพร เช่นนั้นเจ้าต้องไปยังเขตไม้เพราะว่าพวกมันจะมีปริมาณมากที่นั้น มันเป็นที่ที่มีส่วนผสมที่ดีที่สุดในโลก "
" สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่หลุมฝังศพแห่งลางร้ายรึ ? " หลานอวิ๋นจูถามอย่างงุนงง " มันไม่มีหลุมฝังศพที่นี่ ทำไมถึงยังถูกเรียกว่าหลุมฝังศพแห่งลางร้าย ? "
" เจ้าต้องการจะเห็นหลุมฝังศพ ? " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " เช่นนั้นไปยังเขตปฐพี หลุมฝังศพที่เจ้าต้องการเห็นจะอยู่ที่เขตนั้น และทั้งหมดล้วนอยู่เหนือจินตนาการของเจ้า อย่างแรกจะต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อนจะไปยังเขตนี้ และเป็นเขตสุดท้ายที่จะไป "
" ทำไมเป็นเช่นนั้น ? " ผู้ทำนายเต๋าเอ่ยถาม
หลี่ฉีเย่หรี่สายตาของเขาและเอ่ยอธิบาย " เขตปฐพีนั้นถูกเรียกสุดยอดหลุมฝังศพ หรือเขตศูนย์กลาง แม้ว่าทั้งห้าเขตนั้นจะไม่ได้เชื่อมต่อกันโดยตรง เขตอื่นๆทั้งสี่ล้วนอยู่ล้อมรอบเขตปฐพี สุดยอดหลุมฝังศพนั้นเป็นเขตที่อันตรายที่สุดในพวกมัน ดังนั้นหากเจ้าต้องการจะไปทดสอบโชคในสถานที่แห่งนั้น เจ้าต้องเตรียมพร้อมที่จะตายไว้ด้วย หากเจ้ารอดชีวิตกลับมา แน่นอนว่าเจ้าจะได้รับการสร้างใหม่ที่ยิ่งใหญ่ และคนส่วนใหญ่มักจะตายอยู่ภายในนั้น หนึ่งในสิบรอดนั้นยังเยอะไป บางทีมีเพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้นที่รอดออกมาได้ "
หลานอวิ๋นจูเอ่ยถาม " ทำไมมันจึงอันตราย ? มันมีผีอยู่ที่นั้นรึ ? "
" ฮ่าฮ่า ผี ? " หลี่ฉีเย่หัวเราะเอ่ย " หากมันมีผีเหมือนกับสมาชิกของเผ่าพันธ์ผี เช่นนั้นมันจะไม่ได้น่ากลัวเลย เมื่อเจ้าเข้าไปยังเขตปฐพี เจ้าจะรู้ว่าผีที่น่ากลัวที่สุดในโลกมันเป็นยังไง "
" มันมีผีอยู่ที่นั้นจริงๆ ? " ผู้ทำนายเต๋าเอ่ยถามอีกครั้ง
แม้ว่าผู้คนจะเรียกเผ่าพันธ์ผีอมตะว่าผี ผีอมตะเหล่านั้นก้ไม่ยอมรับฉายานี้ ความจริงก็คือพวกเขาไม่ใช่ผี แต่เป็นตัวตนที่มีเลือดและเนื้อ
บางตัวตนสมควรจะเรียกว่าผีมากกว่า ตัวอย่างเช่นกลุ่มก้อนความรู้สึก แต่พวกเขาก็ยังไม่ใช่ผีที่แท้จริง พวกเขานั้นเป็นเพียงกลุ่มความรู้สึก ต่างจากผีที่มนุษย์ในโลกคิด...
มันได้รับการบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด เปลวไฟบนร่างของมันค่อยๆมอดดับลง ถ้าไม่ได้ดื่มน้ำทิพย์หมื่นดาราก่อนจะเข้าไป มันจะตายในทะเลสาปแม้ว่าจะมีสิบชีวิตก็ตาม
หลานอวิ๋นจูและผู้ทำนายเต๋าตกตะลึงอย่างมาก มันใช่เป็นเพราะเต๋านั้นได้รับบาดเจ็บ แต่เป็นเพราะตอไม้ที่มีลักษณะคล้ายมือ
ในเวลานี้ รอบๆตอไม้ที่เหี่ยวเฉาเปล่งประกายด้วยลำแสงอมตะไร้ที่สิ้นสุดและมันค่อยกระจายออกมา ลำแสงอมตะเหล่านี้เป็นประกอบไปด้วยยอดเต๋าของโลก มันเหมือนกับว่าพวกมันจะสามารถทำลายชันฟ้าและสร้างความโกลาหลให้กับหยินและหยางได้ มันเหมือนกับว่าลำแสงอตะเหล่านี้ออกมาจากร่างกายของตัวตนอมตะ
แม้แต่อัจฉริยะอย่างหลานอวิ๋นจูก็ไม่สามารถมองผ่านแสงเหล่านี้ได้ ขาของนางกลายเป็นอ่อนแอลงอย่างมาก ลำแสงเหล่านี้ปลูกฝังความกลัวเข้าสู่จิตใจของทุกคนที่อยู่ที่นี่ เมื่อลำแสงเหล่านี้เขาปะทะตัว หลานอวิ๋นจูและผู้ทำนายเต๋ารู้สึกราวกับเต๋าของพวกเขากำลังถูกสุดยอดเต๋ากำราบและมันกรีดร้องพร้อมกับพยามดิ้นรน
หลานอวิ๋นจูนั้นบ่มเพาะเจตจำนงแห่งสวรรค์ แต่มันไม่สามารถต้านทานแสงอมตะนี้ได้ มันน่ากลัวขนาดไหนกัน แม้แต่คัมภีร์เจตจำนงแห่งสวรรค์ก็ยังไม่สามารถต่อต้าน ?
ภายในลำแสงอมตะเหล่านี้ มันมี ' บางอย่าง ' ที่มองไม่เห็นอยู่ แสงของมันนั้นส่องประกายเจิดจ้าเกินไป หลานอวิ๋นจูต้องกระตุ้นเนตรสวรรค์ของนางโดยใช้อำนาจของคัมภีร์ลับ เพื่อดูของภายใน
มันเป็นหนังสือ หนังสือที่เก่าแก่อย่างมาก มันดูเหมือนจะได้รับการสร้างขึ้นโดยกระบวนการตามธรรมชาติ ดังนั้นมันจึงดูเป็นมากกว่าหนังสือที่สร้างขึ้นโดยสวรรค์และปฐพี หนังสือเล่มนี้มีกลิ่นอายของโลกราวกับมันเป็นหนึ่งเดียวกับทุกสิ่ง
หลานอวิ๋นจูไม่สามารถจินตนาการถึงอำนาจของหนังสือเมื่อมันถูกเปิดใช้ เมื่อหน้าหนังสือเหล่านี้ถูกพลิกไปมาสวรรค์และปฐพีต่างสั่นสะท้าน หรือบางทีโลกนับพันอาจจะสูญเสียท่วงทำนองของพวกมัน ท้องฟ้านั้นอาจจะหลั่งนำตาเป็นโลหิตขณะที่ปฐพีแตกสลาย !
หลี่ฉีเย่มองไปยังหนังสือเล่มนี้และพูดด้วยอารมณ์ " จริง...มันเป็นเรื่องจริง สิ่งที่ข้าคิด มันมีตัวตนอยู่จริงๆ ! "
ในอดีตหลี่ฉีเย่ในฐานะอีกาทมิฬ ได้กลายเป็นสหายกับเจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนและได้รับประสบการณ์ร่วมกันมากมาย เจ้าตำหนักกล่าวว่าเขตลับในหลุมฝังศพแห่งลางร้ายนั้นมีหนังสือซ่อนอยู่ ดังนั้นหลี่ฉีเย่จึงหามันอยู่ตลอดเวลา หนังสือที่หายาก หนังสือที่สร้างความโลภให้แม้แต่จักรพรรดิอมตะ หนังสือที่มีคุณค่าที่เขายินดีจะจ่ายทุกอย่างเพื่อให้ได้รับมันมา
ต่อมา เขาไม่ได้มาหลุมฝังศพแห่งลางร้ายเพียงครั้งหรือสองครั้ง บางครั้งเขามาไม่ได้เพื่อหาสมบัติใดๆ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าเขามาเพื่อหาจุดหยุดของเมฆโลหิต สุดท้ายด้วยการทำงานหนักและจ่ายเวลาไปเป็นจำนวนมาก หลี่ฉีเย่ก็หาเขตลับนี้เจอ
ครั้งต่อมา หลี่ฉีเย่ได้นำจักรพรรดิอมตะฉินหลี่มาที่นี่ แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่ได้รับหนังสือ หนังสือเล่มนี้มักจะค้างคาอยู่ในหัวใจของเขามาเป็นเวลานาน ดังนั้นเขาจึงเริ่มศึกษาตำราและจารึกมากยิ่งขึ้น สุดท้ายเขาก็สะดุดกับวิธีการหนึ่งเข้า
ในยุคนี้ เขานั้นมีโอกาสได้พบกับตอไม้แห้ง นี้ทำให้เขามีโอกาสได้ใช้วิธีนี้ เขานั้นไม่แน่ใจการมีตัวตนของหนังสือและทำได้เพียงคาดเดา แม้แต่เจ้าตำหนักบุปผาบรรพชนเองก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกัน
นอกจากนี้มันยังมีเขตลับหลายแห่งในหลุมฝังศพแห่งลางร้ายและไม่แน่ว่ามันจะปรากฏที่ไหน สรุปคือหลี่ฉีเย่ไม่มีความมั่นใจใดๆ แต่หนังสือเล่มนี้คุ้มค่ากับการเดิมพัน
มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ อย่างที่เขาคาดเดา ในเขตลับนี้มีหนังสืออยู่ ตำนานนั้นเป็นจริงและความลับในหนังสือนี้ก็ต้องเป็นจริงเช่นกัน
เต่าขึ้นปีนขึ้นมายังฝั่งขณะที่หลี่ฉีเย่พุ่งไปคว้าหนังสืออย่างรวดเร็ว เขาไม่สามารถที่จะโอบกอดหนังสือเล่มนี้และเอ่ยด้วยอารมณ์ " มันเป็นหนังสือเล่มนี้จริงๆ ! สวรรค์ยังไม่ทอดทิ้งข้า ! "
ผู้ทำนายเต๋าเอ่ยถามขณะสั่นไหว " นี้เป็นหนังสือที่มีคุณค่าแบบใดกัน ? " เขานั้นไม่รู้อะไรมากนักนอกจากมันเป็นหนังสือที่น่ามหัศจรรย์และน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
หลี่ฉีเย่สูดลมหายใจเข้าลึกและวางหนังสือเล่มนี้กลับไปในประตูพรสวรรค์ของเขาพร้อมกับตอไม้แห้ง เห็นร่างกายของเต่าที่แตกหัก หลี่ฉีเย่หยิบขวดออกมาและป้อนมันด้วยน้ำทิพย์หมื่นดารา
หลังจากได้ยินมันเข้าไปแล้ว เต่ากลับกลายมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ผลของน้ำทิพย์เริ่มที่จะสมานแผลของมัน
หลานอวิ๋นจูจ้องมองเขาอีกครั้งและเอ่ย " ท่านมันสิ้นเปลืองเกินไป หนึ่งหยดนั้นเพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้คนหวดากลัวจนตาย แต่นี้ยังมีหยดอื่นอีก ?! นี้ท่านต้องการให้คนทั้งโลกตายจากความฟุ่มเฟือยของท่าน ? "
หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะตำหนิการกระทำเช่นนี้ ถ้าหากคนอื่นเห็นสิ่งนี้ พวกเขาจะปล่อยเต่าไปและเพลิดเพลินไปกับน้ำทิพย์หมื่นดาราที่มี
อีกด้านหนึ่ง ผู้ทำนายเต๋าอดไม่ได้ที่จะได้กับเต๋าตัวนี้ พวกเขาไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสน้ำทิพย์หมื่นดารา ไม่แม้แต่หยดเดียว
" นี้สำหรับความร่วมมือของมัน มันคุ้นค่าอย่างมาก " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ยขณะเคาะกระดองเต่า " ตอนนี้เจ้าเป็นอิสระแล้ว เมื่อถึงเวลา ข้าจะบอกให้บางคนไปปล่อยเจ้าที่ทะเลราตรี "
ราวกับเต่านั้นเข้าใจคำพูดของหลี่ฉีเย่ มันได้ใช้หัวถูกับมือของหลี่ฉีเย่อย่างมีความสุข หลี่ฉีเย่ผ่อนคลายและถอนโซ่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รอบลำตัวเต่าออก
ผ่านไปชั่วครู่หลังจากที่เขาได้รับหนังสือเล่มนี้ เสียงพึมพำก็ปรากฏ จากทะเลสาปประตูเต๋าได้เปิดออกอย่างช้าๆ มันถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องจากไปแล้ว
หลี่ฉีเย่มองไปยังประตูเคลื่อนย้ายและบอกกับทั้งสอง " มา มันถึงเวลาที่พวกเราจะเข้าไปยังห้าเขตหลุมฝังศพ "
หลานอวิ๋นจูและผู้ทำนายเต๋าสวรรค์ติดตามหลี่ฉีเย่ไปในทันที ทันใดนั้นพวกเขาก็กลายเป็นแสงสีดำและถูกเคลื่อนย้ายออกจากเขตลับไปยังที่อื่น
หลานอวิ๋นจูเปิดดวงตาของนางและเห็นภาพด้านหน้าเป็นภูเขาตระหง่านตามด้วยเทือกเขาสูง ภูเขาสูงส่วนใหญ่นั้นเกิดจากก้อนหินขนาดใหญ่ประกอบกับก้อนหินขนาดเล็กอีกหลายก้อน ด้วยเหตุนี้ทำให้รูปร่างของมันจึงแปลกประหลาด บางคนมองมันเห็นไข่ขณะที่บางคนมองมันเป็นเสา
ยืนอยู่หน้าภาพเหล่านี้ พวกเขาไม่เห็นอะไรอื่นนอกหินราวกับว่าที่นี่เป็นโลกแห่งหิน
" ความผันผวนของโลหะที่นี่ค่อนข้างแข็งแกร่ง " หลานอวิ๋นจูรู้สึกถึงกลิ่นอายแปลกๆและอุทานออกมา " หรือสถานที่แห่งนี้จะเป็นที่พิเศษในการให้กำเนิดสมบัติโลหะและหินศักดิ์สิทธิ์ ? "
" เจ้ากล่าวถูก " หลี่ฉีเย่ยิ้มเอ่ย " มันมีห้าเขตหลุมฝังศพในหลุมฝังศพแห่งลางร้าย และเขตนั้นต่างกันออกไป บางคนแบ่งมันออกเป็นห้าธาตุ เขตโลหะ เขตไม้ เขตไฟ เขตน้ำ และเขตปฐพี สถานที่ที่เจ้ายืนอยู่เรียกว่าเขตโลหะ "
" เขตห้าธาตุ...." ผู้ทำนายเต๋าคิดกับตัวเอง นี้มันแตกต่างจากจินตนาการของเขา
" เจ้าสามารถกล่าวเช่นนั้นได้ ในแต่ละเขตนั้นมีลักษณะเฉาพะของพวกมัน ตัวอย่างเช่นเขตโลหะจะให้กำเนิดสมบัติโลหะและหินศักดิ์สิทธิ์ หากผู้คนต้องการเต๋าสมบัติโลหะหรือหินแห่งโชคชะตาที่แท้จริง พวกเขาสามารถหาได้จากที่นี่ มันมีแร่และโลหะอยู่ในเขตนี้ " หลี่ฉีเย่หยุดชั่วคราวก่อนจะเอ่ยต่อ " หากเจ้าต้องการจะหาเม็ดยาจิตวิญญาณหรือหญ้าสมุนไพร เช่นนั้นเจ้าต้องไปยังเขตไม้เพราะว่าพวกมันจะมีปริมาณมากที่นั้น มันเป็นที่ที่มีส่วนผสมที่ดีที่สุดในโลก "
" สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่หลุมฝังศพแห่งลางร้ายรึ ? " หลานอวิ๋นจูถามอย่างงุนงง " มันไม่มีหลุมฝังศพที่นี่ ทำไมถึงยังถูกเรียกว่าหลุมฝังศพแห่งลางร้าย ? "
" เจ้าต้องการจะเห็นหลุมฝังศพ ? " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " เช่นนั้นไปยังเขตปฐพี หลุมฝังศพที่เจ้าต้องการเห็นจะอยู่ที่เขตนั้น และทั้งหมดล้วนอยู่เหนือจินตนาการของเจ้า อย่างแรกจะต้องมีการเตรียมความพร้อมก่อนจะไปยังเขตนี้ และเป็นเขตสุดท้ายที่จะไป "
" ทำไมเป็นเช่นนั้น ? " ผู้ทำนายเต๋าเอ่ยถาม
หลี่ฉีเย่หรี่สายตาของเขาและเอ่ยอธิบาย " เขตปฐพีนั้นถูกเรียกสุดยอดหลุมฝังศพ หรือเขตศูนย์กลาง แม้ว่าทั้งห้าเขตนั้นจะไม่ได้เชื่อมต่อกันโดยตรง เขตอื่นๆทั้งสี่ล้วนอยู่ล้อมรอบเขตปฐพี สุดยอดหลุมฝังศพนั้นเป็นเขตที่อันตรายที่สุดในพวกมัน ดังนั้นหากเจ้าต้องการจะไปทดสอบโชคในสถานที่แห่งนั้น เจ้าต้องเตรียมพร้อมที่จะตายไว้ด้วย หากเจ้ารอดชีวิตกลับมา แน่นอนว่าเจ้าจะได้รับการสร้างใหม่ที่ยิ่งใหญ่ และคนส่วนใหญ่มักจะตายอยู่ภายในนั้น หนึ่งในสิบรอดนั้นยังเยอะไป บางทีมีเพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้นที่รอดออกมาได้ "
หลานอวิ๋นจูเอ่ยถาม " ทำไมมันจึงอันตราย ? มันมีผีอยู่ที่นั้นรึ ? "
" ฮ่าฮ่า ผี ? " หลี่ฉีเย่หัวเราะเอ่ย " หากมันมีผีเหมือนกับสมาชิกของเผ่าพันธ์ผี เช่นนั้นมันจะไม่ได้น่ากลัวเลย เมื่อเจ้าเข้าไปยังเขตปฐพี เจ้าจะรู้ว่าผีที่น่ากลัวที่สุดในโลกมันเป็นยังไง "
" มันมีผีอยู่ที่นั้นจริงๆ ? " ผู้ทำนายเต๋าเอ่ยถามอีกครั้ง
แม้ว่าผู้คนจะเรียกเผ่าพันธ์ผีอมตะว่าผี ผีอมตะเหล่านั้นก้ไม่ยอมรับฉายานี้ ความจริงก็คือพวกเขาไม่ใช่ผี แต่เป็นตัวตนที่มีเลือดและเนื้อ
บางตัวตนสมควรจะเรียกว่าผีมากกว่า ตัวอย่างเช่นกลุ่มก้อนความรู้สึก แต่พวกเขาก็ยังไม่ใช่ผีที่แท้จริง พวกเขานั้นเป็นเพียงกลุ่มความรู้สึก ต่างจากผีที่มนุษย์ในโลกคิด...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น