ตอนที่ 515 ตามหาหินโชคชะตา
ผู้อาวุโสอีกคนเอ่ยอย่างมีความสุข " ฮัวซีนั้นมีความสามารถอย่างแท้จริง ! เขาจะไปถึงระดับองค์รักษ์เทพสวรรค์ภายในสิบปีต่อจากนี้ ! "
หินโชคชะตาที่มีสี่ตัวอักษรหรือมากกว่าจะเลือกเจ้านายของพวกเรา การเลือกของพวกมันนั้นไม่มีมาตราฐานตายตัวหรือวิธีพิเศษ โดยปกติยิ่งผู้ฝึกตนมีพรสวรรค์มากก็ยิ่งได้รับการยอมรับมาก แต่นี้เป็นเพียงเรื่องปกติเท่านั้นและไม่มีกฏแน่นอน
หินเหล่านี้นั้นมีความคิดของเป็นของตนเอง โดยเฉพาะก้อนที่มีตัวอักษรมากกว่าสี่ขึ้นไป พวกขามันรู้ว่าเจ้านายคนใดจะทำให้พวกมันส่องประกายได้
เห็นว่าศิษย์ลังเลที่จะเลือกก้อนหิน อาจารย์ของเขาเอ่ยแนะนำ " ฮัวซี เลือกหินใบไม้ผลิ แม้ว่าหินนี้จะมีห้าตัวอักษร ด้วยใบไม้ผลิภายใน มันเหมาะสมกับพรสวรรค์ของเจ้ามาก "
ผู้ฝึกตนทมี่ฉลาดโดยเฉพาะเหล่าอาจารย์ หรือผู้นำนิกาย จะไม่แนะนำให้ศิษย์ของพวกเขาเลือกหินที่มีตัวอักษรมากกว่าหินที่เหมาะสม วิธีหลังเป็นวิธีที่ผู้ฝึกตนจะปลดปล่อยศักยภาพได้เต็มที่
หลังจาได้ฟังคำกล่าวของอาจารย์ ศิษย์ผุ้เยาว์คนรนั้นได้เลือกหินที่มีใบไม้ผลิอยู่ภายใน หลังจากเขาเลือกหิน แม้ว่าหินอีกสองก้อนจะยอมรับเขา พวกมันก็ไม่กระโดดไปรอบเขาเช่นก้อนหน้า
ผู้ฝึกตนนั้นสามารถเลือกสมบัติพรสวรรค์ได้เพียงหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาทำได้เพียงเลือกหินโชตชะตาเพียงก้อนเดียว แม้ว่าพวกเขาจะถูกเลือกหลายก้อน พวกเขาก็ได้ทำได้เพียงเลือกหนึ่งในพวกมัน
สำหรับเหล่าคนที่มีอาวุธพรสวรรค์ หากพวกเขาไม่ได้ยอมปแพ้อาวุธพรสวรรค์ก่อนหน้า เช่นนั้นหินที่ได้รับการเลือกใหม่ก็จะบินหนีไป มันจะไม่อยู่กับเจ้านายของใหม่
แน่นอนว่านี่เป็นสถานการณ์ สำหรับหินโชคชะตารูปแบบสมบูรณ์และเทพหินโชคชะตา สำหรับหินธรรมดานั้นไม่ได้มีข้อจำกัดเช่นนี้
อาวุธของขุมอำนาจนั้นใช้เพียงหินระดับธรรมดาเท่านั้น หากผู้ฝึกตนต้องการอันที่ดีกว่ามัน เช่นนั้นพวกเขาจะต้องออกไปและหาด้วยตัวเอง !
ดังนั้นในภูเขาจึงวุ่นวายอย่างมาก แม้ว่ากระทั้งผู้ที่มีอาวุธพรสวรรค์อยู่แล้วก็ยังมาเพื่อที่จะเลือกอันที่ดีกว่า
หลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูในอีกฝั่งหนึ่ง พวกเขาอยู่ที่ส่วนล่างของภูเขา โดยปกติผู้จะวิ่งไปยังส่วนยอดขอองภูเขา แต่หลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูยังอยู่ที่ตีนเขา ที่นี่พวกเขาหยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่งจากซากปรักหักพัง
ความเห็นโดยร่วมก็คือที่นี่นั้นมีแต่หินที่ไม่คุ้มค่ากับการเสียเวลา พวกมันมีน้อยกว่าสี่ตัวอักษร นอกจากนี้ยังถูกปกป้องโดยแมลง
" ฮ่าฮ่า หรือว่าเจ้าคนแซ่หลี่นั้นไม่กล้าที่จะขึ้นไปยังกลางเขา ? เขาไม่กล้าที่จะไปที่นั้นเพราะกลัวว่าจะไม่มีหินก้อนใดยอมรับความสามารถของเขา ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะเขาถึงทำให้เขาอยู่แต่เพียงที่นี่ " ผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีที่เป็นไม่ชอบหลี่ฉีเย่อดไม่ได้ที่จะแดกดัน
" โอ้ว ? เช่นนั้นเจ้าคงเป็นอัจฉริยะละมั้ง ? " ผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์โต้ตอบในทันที " อัจฉริยะเช่นเจ้ามีการต่อสู้ที่น่าจดจำหรือไม่ ? แม้ว่านายน้อยหลี่ ความภูมิใจของเผ่าพันธ์มนุษย์เราจะไม่ได้มีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์มากนัก เขาคนเดียวฆ่าผู้เชียวชาญเผ่าผีราวกับสุนัข ผู้เชียวชาญผีเหมือนตัวตายอย่างสุนัขด้วยมือของเขา ! "
" เจ้า !! " ผู้เชียวชาญผีสั่นด้วยความโกรธ
ทว่าผู้เชียวชาญมนุษย์นั้นมาจากนิกายใหญ่และจ้องไปยังเผ่าผีอย่างไม่แยแส
" แล้วยังไง ? ไม่มั่นใจ ? เช่นนั้นก็ไปบอกกับศิษย์น้องหลี่ อย่างที่เจ้ากล่าว ความสามารถของศิษย์น้องหลี่ของพวกเรานั้นไม่ดีอย่างมาก เช่นนั้นอัจฉริยะของเผ่าพันธ์ผีเช่นเจ้าคงจะเอาชนะเขาได้ภายในสามกระบ่วนท่าใช่ไหม ? เช่นนั้นก็โปรดไปท้าทายกับศิษย์น้องของพวกเรา " ผู้เชียวชาญเผ่ามนุษย์หัวเราะเยาะ
แม้ว่าจะอับอายด้วยความโกรธแต่ผู้เชียวชาญผีก็ย่อมแพ้ในที่สุด แม้ว่าเผ่าพันธ์ผีจะเกลียดชังมนุษย์อย่างหลี่ฉีเย่มากแค่ไหน เขาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะท้าทายหลี่ฉีเย่ หลี่ฉีเย่สามารถสังหารได้แม้แต่องค์รักษ์เทพสวรรค์ เช่นนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงเขา
แม้ว่าคนอื่ๆนจะไม่ได้สงสัยและหัวเราะเยาะหลี่ฉีเย่อย่างเผ่าพันธ์ผี แต่พวกเขาก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่ตีนเขา
" นี้พวกเขาพยามกำลังจะทำอะไร ? " ผู้ฝึกตนที่ฉลาด กระทั้งผู้ที่มาจากเผ่าพันธ์ผีก็ยังไม่กล้าดูถูกหลี่ฉีเย่ นอกจากนี้อัจฉริยะเช่นหลานอวิ๋นจูก็ยังอยู่กับเขา ทั้งสองนั้นไม่ใช่คนโง่
" บางที่พวกเขากำลังพยามจะหาหินที่มีความเหาะสมมากกว่าหินที่มีตัวอักษรจำนวนมาก จำได้ว่าย้อนกลับไปยังยุคหมิงโบราณ จำได้ว่าหอกของจักรพรรดิอมตะปู่ซานนั้นสร้างมาจากหินโชคชะตาหนึ่งตัวอักษร คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในปีนั้นจักรพรรดิได้มีการต่อสู้ที่ท้าทายสวรรค์และยิ้มอย่างภูมิใจเหนือเก้าชั้นฟ้า ด้วยหอกของเขาเขาได้สังหารผู้คนไปจำนวนมาก สมบัติจักจพรรดิอมตะระดับแท้จริงและสมบัติของตัวตนอมตะจำนวนมากล้วนพังทลายเมื่อหอกของเขาปรากฏ "
" นั้นมีเหตุผล และมันเหมาะสมกับอัจฉริยะปีศาจอย่างแท้จริง " ไม่ใช่ผู้ฝึกตนทั้งหมดเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว ผู้ฝึกตนอาวุโสเอ่ยแสดงความคิดของเขา " โดยส่วนตัว ข้าคิดว่ายิ่งมีตัวอักษรมากมันก็จะยิ่งดี ข้ากระหายหินเก้าตัวอักษร เพียงคิดเกี่ยวกับมันอำนาจของเทพหินโชคชะตา ! มันราวกับพวกมันสืบเชื้อสายมาจากทวยเทพ ! "
ตัวตนที่ยิ่งใหญ่อีกคนไม่ได้สนับสนุนความคิดนี้และเอ่ยแย้ง " มันไม่สำคัญ แม้ว่าเจ้าจะมีหินเก้าตัวอักษรพร้อมกับหนึ่งเทพเต๋า เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถพอที่จะควบคุมเทพเต๋า ? เจ้าไม่แม้แต่จะบ่มเพาะคัมภีร์จักรพรรดิ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมเทพหินโชคชะตา อีกแง่หนึ่งก็คือเทพหินโชคชะตาในมือเจ้าจะไม่ต่างจากขยะ "
" ไม่มีทาง หากไม่ลองพยาม พวกเราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าสามารถควบคุมเทพหินโชคชะตาได้หรือไม่ ? " ผู้ฝึกตนอาวุโสเอ่ย
ในเวลาไม่นานทั้งสองคนก็ได้ทะเลาะกัน
ในความเป็นจริงทฤษฎีเกี่ยวเทพหินโชคชะตานั้นได้รับการถกเถียงกันเสมอ ทั้งสองล้วนได้รับการสนับสนุนและคัดค้านจากคนทั่วไป
หลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูนั้นได้ค้นหาที่ตีนเขาเป็นเวลานานมาก เขานั้นไม่สามารถมองหาหินที่เหมาะกับหลานอวิ๋นจูได้ แต่เขาทำให้หินหลายก้อนกระโดดไปมารอบตัว
หลี่ฉีเย่สังเกตหินโชคชะตาที่คล้ายกับหยก เขาก้มหัวลงและหยิบขั้นมา " อันนี้ก็ไม่เลว "
" หึ่งง ! " ขณะที่เขาหยิบมันขึ้นมา แมลงกินโลหะก็พุ่งตัวออกมาจากพื้นดิน และบินหาหลี่ฉีเย่ด้วยความเร็วสูง ทว่าหลี่ฉีเย่นั้นเร็วยิ่งกว่า ก่อนที่แมลงกินโลหะจะถึงตัวเขา มันถูกผ่าออกเป็นสองซีก
" ฉีก ! " ร่างของแมลงค่อยๆร่วงลง
" นี้ท่านบ่มเพาะกายาอะไร ? " หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามหลังจกาเห็นหลี่ฉีเย่จัดการแมลงได้อย่างง่าย
คนอื่นนั้นอาจจะไม่รู้ แต่หลานอวิ๋นจูนั้นมั่นใจว่าหลี่ฉีเย่บ่มเพาะกายาอมตะ ทว่ากายาของเขาทำให้นางรู้สึกแปลกๆและไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกายาใด
กระทั้งความคิดของนาง ก็ไม่มีทางคิดว่าหลี่ฉีเย่จะบ่มเพาะสองกายาอมตะ นี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
" เรื่องนี้...เจ้าจะรู้ภายหลัง " หลี่ฉีเย่ตอบอย่างร่าเริงและหยิบหินโชคชะตาขึ้นมา
หลานอวิ๋นจูสังเกตเห็นว่าเขาได้หยิบหินที่มีเอกลักษณ์ราวกับว่าเขารู้ว่ามันทำอะไรได้ " ท่านคิดว่าหินเหล่านี้สามารถผสานกันได้หรือไม่ ? "
" มันไม่จำเป็นสำหรับข้า " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวเอ่ย " ข้าไม่เหมาะกับการผสานเต๋า แต่โอกาสนั้นเหมาะกับคนที่ใช่ บางทีหากเป็นเช่นนั้นข้าสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ "
หลานอวิ๋นจูนั้นไม่ได้เอ่ยสิ่งใด การผสานตัวอักษรนั้นเป็นเพียงทฤษฎีในสายตาของคนทั่วไป ส่วนใหญ่ของผู้ฝึกตนนั้นไม่เคยเห็นมันมาก่อน
หลังจากอยู่ตีนเขามาเป็นเวลานาน ทั้งสองก็ไม่สามารถหาหินที่เหมาะกับหลานอวิ๋นจูได้
" เมื่อเรามาที่นี่ พวกเราก็ควรจะขึ้นไปบนยอดเขาและลองดู " หลี่ฉีเย่เงยหน้าขึ้นไปมองยอดเขาและหรี่สายตาของเขาเอ่ย " ใช้ชะตากรรมผลึกแม่น้ำที่เป็นเต๋าพื้นฐานของเจ้า จากที่ข้ารู้มันมีหินโชคชะตาที่เหมาะสมกับเจ้า แน่นอนว่ามันมีอยู่จริง แต่ข้าไม่แน่ใจว่าอยู่ที่นี่หรือไม่ "
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ หลานอวิ๋นจูอุทานด้วยความโกรธ " อะไรนะ !? ท่านรู้ว่ามีหินที่เหมาะสมกับข้าอยู่บนยอดเขา แต่ท่านไม่ได้พูดและทำให้พวกเราหามันอย่างโง่งมอยู่ที่นี่ ? "
หลี่ฉีเย่มองไปใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " สาวน้อย ใส่ใจกับการกระทำของเจ้าหน่อย เจ้านั้นเป็นเทพธิดาจากนิกายพันแม่น้ำ คนที่มีชื่อเสียงและงดงามพร้อมกับมารยาทที่ดี เจ้าไม่รู้สึกรอว่าของเหล่านี้จะพังทลายลงด้วยใบหน้าที่น่ากลัวของเจ้าในตอนนี้ ? "
" นี้ท่าน ! " หลานอวิ๋นจูนั้นเกือบจะอาเจียนด้วยเลือดจากการหยอกล้อของเขา นางกัดฟันและเอ่ย " ท่านจำไว้เลย วันหนึ่งข้าจะตอบแทนท่านแน่นอน ! "
หลี่ฉีเย่ไม่ได้สนใจคำขู่ของนางก่อนจะเอ่ย " ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อประโยชน์ของเจ้าและเป็นการรักษาหน้าของเจ้า มันดีที่จะหาหินที่เหมาะสมที่นี่เพราะว่าหากพวกเราขึ้นไปในทันทีหินก้อนนั้นจะไม่ยอมรับเจ้า และนี้จะทำให้เจ้าอับอายออย่างมาก ทุกคนนั้นรู้ว่าเจ้าเป็นอัจฉริยนะ - เทพธิดาที่งดงาม ดังนั้นหากหินก้อนนั้นปฏิเสธเจ้า เจ้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน ? "
ผู้อาวุโสอีกคนเอ่ยอย่างมีความสุข " ฮัวซีนั้นมีความสามารถอย่างแท้จริง ! เขาจะไปถึงระดับองค์รักษ์เทพสวรรค์ภายในสิบปีต่อจากนี้ ! "
หินโชคชะตาที่มีสี่ตัวอักษรหรือมากกว่าจะเลือกเจ้านายของพวกเรา การเลือกของพวกมันนั้นไม่มีมาตราฐานตายตัวหรือวิธีพิเศษ โดยปกติยิ่งผู้ฝึกตนมีพรสวรรค์มากก็ยิ่งได้รับการยอมรับมาก แต่นี้เป็นเพียงเรื่องปกติเท่านั้นและไม่มีกฏแน่นอน
หินเหล่านี้นั้นมีความคิดของเป็นของตนเอง โดยเฉพาะก้อนที่มีตัวอักษรมากกว่าสี่ขึ้นไป พวกขามันรู้ว่าเจ้านายคนใดจะทำให้พวกมันส่องประกายได้
เห็นว่าศิษย์ลังเลที่จะเลือกก้อนหิน อาจารย์ของเขาเอ่ยแนะนำ " ฮัวซี เลือกหินใบไม้ผลิ แม้ว่าหินนี้จะมีห้าตัวอักษร ด้วยใบไม้ผลิภายใน มันเหมาะสมกับพรสวรรค์ของเจ้ามาก "
ผู้ฝึกตนทมี่ฉลาดโดยเฉพาะเหล่าอาจารย์ หรือผู้นำนิกาย จะไม่แนะนำให้ศิษย์ของพวกเขาเลือกหินที่มีตัวอักษรมากกว่าหินที่เหมาะสม วิธีหลังเป็นวิธีที่ผู้ฝึกตนจะปลดปล่อยศักยภาพได้เต็มที่
หลังจาได้ฟังคำกล่าวของอาจารย์ ศิษย์ผุ้เยาว์คนรนั้นได้เลือกหินที่มีใบไม้ผลิอยู่ภายใน หลังจากเขาเลือกหิน แม้ว่าหินอีกสองก้อนจะยอมรับเขา พวกมันก็ไม่กระโดดไปรอบเขาเช่นก้อนหน้า
ผู้ฝึกตนนั้นสามารถเลือกสมบัติพรสวรรค์ได้เพียงหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาทำได้เพียงเลือกหินโชตชะตาเพียงก้อนเดียว แม้ว่าพวกเขาจะถูกเลือกหลายก้อน พวกเขาก็ได้ทำได้เพียงเลือกหนึ่งในพวกมัน
สำหรับเหล่าคนที่มีอาวุธพรสวรรค์ หากพวกเขาไม่ได้ยอมปแพ้อาวุธพรสวรรค์ก่อนหน้า เช่นนั้นหินที่ได้รับการเลือกใหม่ก็จะบินหนีไป มันจะไม่อยู่กับเจ้านายของใหม่
แน่นอนว่านี่เป็นสถานการณ์ สำหรับหินโชคชะตารูปแบบสมบูรณ์และเทพหินโชคชะตา สำหรับหินธรรมดานั้นไม่ได้มีข้อจำกัดเช่นนี้
อาวุธของขุมอำนาจนั้นใช้เพียงหินระดับธรรมดาเท่านั้น หากผู้ฝึกตนต้องการอันที่ดีกว่ามัน เช่นนั้นพวกเขาจะต้องออกไปและหาด้วยตัวเอง !
ดังนั้นในภูเขาจึงวุ่นวายอย่างมาก แม้ว่ากระทั้งผู้ที่มีอาวุธพรสวรรค์อยู่แล้วก็ยังมาเพื่อที่จะเลือกอันที่ดีกว่า
หลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูในอีกฝั่งหนึ่ง พวกเขาอยู่ที่ส่วนล่างของภูเขา โดยปกติผู้จะวิ่งไปยังส่วนยอดขอองภูเขา แต่หลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูยังอยู่ที่ตีนเขา ที่นี่พวกเขาหยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่งจากซากปรักหักพัง
ความเห็นโดยร่วมก็คือที่นี่นั้นมีแต่หินที่ไม่คุ้มค่ากับการเสียเวลา พวกมันมีน้อยกว่าสี่ตัวอักษร นอกจากนี้ยังถูกปกป้องโดยแมลง
" ฮ่าฮ่า หรือว่าเจ้าคนแซ่หลี่นั้นไม่กล้าที่จะขึ้นไปยังกลางเขา ? เขาไม่กล้าที่จะไปที่นั้นเพราะกลัวว่าจะไม่มีหินก้อนใดยอมรับความสามารถของเขา ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะเขาถึงทำให้เขาอยู่แต่เพียงที่นี่ " ผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีที่เป็นไม่ชอบหลี่ฉีเย่อดไม่ได้ที่จะแดกดัน
" โอ้ว ? เช่นนั้นเจ้าคงเป็นอัจฉริยะละมั้ง ? " ผู้ฝึกตนเผ่ามนุษย์โต้ตอบในทันที " อัจฉริยะเช่นเจ้ามีการต่อสู้ที่น่าจดจำหรือไม่ ? แม้ว่านายน้อยหลี่ ความภูมิใจของเผ่าพันธ์มนุษย์เราจะไม่ได้มีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์มากนัก เขาคนเดียวฆ่าผู้เชียวชาญเผ่าผีราวกับสุนัข ผู้เชียวชาญผีเหมือนตัวตายอย่างสุนัขด้วยมือของเขา ! "
" เจ้า !! " ผู้เชียวชาญผีสั่นด้วยความโกรธ
ทว่าผู้เชียวชาญมนุษย์นั้นมาจากนิกายใหญ่และจ้องไปยังเผ่าผีอย่างไม่แยแส
" แล้วยังไง ? ไม่มั่นใจ ? เช่นนั้นก็ไปบอกกับศิษย์น้องหลี่ อย่างที่เจ้ากล่าว ความสามารถของศิษย์น้องหลี่ของพวกเรานั้นไม่ดีอย่างมาก เช่นนั้นอัจฉริยะของเผ่าพันธ์ผีเช่นเจ้าคงจะเอาชนะเขาได้ภายในสามกระบ่วนท่าใช่ไหม ? เช่นนั้นก็โปรดไปท้าทายกับศิษย์น้องของพวกเรา " ผู้เชียวชาญเผ่ามนุษย์หัวเราะเยาะ
แม้ว่าจะอับอายด้วยความโกรธแต่ผู้เชียวชาญผีก็ย่อมแพ้ในที่สุด แม้ว่าเผ่าพันธ์ผีจะเกลียดชังมนุษย์อย่างหลี่ฉีเย่มากแค่ไหน เขาก็ไม่มีความกล้าพอที่จะท้าทายหลี่ฉีเย่ หลี่ฉีเย่สามารถสังหารได้แม้แต่องค์รักษ์เทพสวรรค์ เช่นนั้นไม่ต้องเอ่ยถึงเขา
แม้ว่าคนอื่ๆนจะไม่ได้สงสัยและหัวเราะเยาะหลี่ฉีเย่อย่างเผ่าพันธ์ผี แต่พวกเขาก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่ตีนเขา
" นี้พวกเขาพยามกำลังจะทำอะไร ? " ผู้ฝึกตนที่ฉลาด กระทั้งผู้ที่มาจากเผ่าพันธ์ผีก็ยังไม่กล้าดูถูกหลี่ฉีเย่ นอกจากนี้อัจฉริยะเช่นหลานอวิ๋นจูก็ยังอยู่กับเขา ทั้งสองนั้นไม่ใช่คนโง่
" บางที่พวกเขากำลังพยามจะหาหินที่มีความเหาะสมมากกว่าหินที่มีตัวอักษรจำนวนมาก จำได้ว่าย้อนกลับไปยังยุคหมิงโบราณ จำได้ว่าหอกของจักรพรรดิอมตะปู่ซานนั้นสร้างมาจากหินโชคชะตาหนึ่งตัวอักษร คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในปีนั้นจักรพรรดิได้มีการต่อสู้ที่ท้าทายสวรรค์และยิ้มอย่างภูมิใจเหนือเก้าชั้นฟ้า ด้วยหอกของเขาเขาได้สังหารผู้คนไปจำนวนมาก สมบัติจักจพรรดิอมตะระดับแท้จริงและสมบัติของตัวตนอมตะจำนวนมากล้วนพังทลายเมื่อหอกของเขาปรากฏ "
" นั้นมีเหตุผล และมันเหมาะสมกับอัจฉริยะปีศาจอย่างแท้จริง " ไม่ใช่ผู้ฝึกตนทั้งหมดเห็นด้วยกับความคิดดังกล่าว ผู้ฝึกตนอาวุโสเอ่ยแสดงความคิดของเขา " โดยส่วนตัว ข้าคิดว่ายิ่งมีตัวอักษรมากมันก็จะยิ่งดี ข้ากระหายหินเก้าตัวอักษร เพียงคิดเกี่ยวกับมันอำนาจของเทพหินโชคชะตา ! มันราวกับพวกมันสืบเชื้อสายมาจากทวยเทพ ! "
ตัวตนที่ยิ่งใหญ่อีกคนไม่ได้สนับสนุนความคิดนี้และเอ่ยแย้ง " มันไม่สำคัญ แม้ว่าเจ้าจะมีหินเก้าตัวอักษรพร้อมกับหนึ่งเทพเต๋า เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถพอที่จะควบคุมเทพเต๋า ? เจ้าไม่แม้แต่จะบ่มเพาะคัมภีร์จักรพรรดิ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมเทพหินโชคชะตา อีกแง่หนึ่งก็คือเทพหินโชคชะตาในมือเจ้าจะไม่ต่างจากขยะ "
" ไม่มีทาง หากไม่ลองพยาม พวกเราจะรู้ได้อย่างไรว่าข้าสามารถควบคุมเทพหินโชคชะตาได้หรือไม่ ? " ผู้ฝึกตนอาวุโสเอ่ย
ในเวลาไม่นานทั้งสองคนก็ได้ทะเลาะกัน
ในความเป็นจริงทฤษฎีเกี่ยวเทพหินโชคชะตานั้นได้รับการถกเถียงกันเสมอ ทั้งสองล้วนได้รับการสนับสนุนและคัดค้านจากคนทั่วไป
หลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูนั้นได้ค้นหาที่ตีนเขาเป็นเวลานานมาก เขานั้นไม่สามารถมองหาหินที่เหมาะกับหลานอวิ๋นจูได้ แต่เขาทำให้หินหลายก้อนกระโดดไปมารอบตัว
หลี่ฉีเย่สังเกตหินโชคชะตาที่คล้ายกับหยก เขาก้มหัวลงและหยิบขั้นมา " อันนี้ก็ไม่เลว "
" หึ่งง ! " ขณะที่เขาหยิบมันขึ้นมา แมลงกินโลหะก็พุ่งตัวออกมาจากพื้นดิน และบินหาหลี่ฉีเย่ด้วยความเร็วสูง ทว่าหลี่ฉีเย่นั้นเร็วยิ่งกว่า ก่อนที่แมลงกินโลหะจะถึงตัวเขา มันถูกผ่าออกเป็นสองซีก
" ฉีก ! " ร่างของแมลงค่อยๆร่วงลง
" นี้ท่านบ่มเพาะกายาอะไร ? " หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามหลังจกาเห็นหลี่ฉีเย่จัดการแมลงได้อย่างง่าย
คนอื่นนั้นอาจจะไม่รู้ แต่หลานอวิ๋นจูนั้นมั่นใจว่าหลี่ฉีเย่บ่มเพาะกายาอมตะ ทว่ากายาของเขาทำให้นางรู้สึกแปลกๆและไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นกายาใด
กระทั้งความคิดของนาง ก็ไม่มีทางคิดว่าหลี่ฉีเย่จะบ่มเพาะสองกายาอมตะ นี้เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
" เรื่องนี้...เจ้าจะรู้ภายหลัง " หลี่ฉีเย่ตอบอย่างร่าเริงและหยิบหินโชคชะตาขึ้นมา
หลานอวิ๋นจูสังเกตเห็นว่าเขาได้หยิบหินที่มีเอกลักษณ์ราวกับว่าเขารู้ว่ามันทำอะไรได้ " ท่านคิดว่าหินเหล่านี้สามารถผสานกันได้หรือไม่ ? "
" มันไม่จำเป็นสำหรับข้า " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวเอ่ย " ข้าไม่เหมาะกับการผสานเต๋า แต่โอกาสนั้นเหมาะกับคนที่ใช่ บางทีหากเป็นเช่นนั้นข้าสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ "
หลานอวิ๋นจูนั้นไม่ได้เอ่ยสิ่งใด การผสานตัวอักษรนั้นเป็นเพียงทฤษฎีในสายตาของคนทั่วไป ส่วนใหญ่ของผู้ฝึกตนนั้นไม่เคยเห็นมันมาก่อน
หลังจากอยู่ตีนเขามาเป็นเวลานาน ทั้งสองก็ไม่สามารถหาหินที่เหมาะกับหลานอวิ๋นจูได้
" เมื่อเรามาที่นี่ พวกเราก็ควรจะขึ้นไปบนยอดเขาและลองดู " หลี่ฉีเย่เงยหน้าขึ้นไปมองยอดเขาและหรี่สายตาของเขาเอ่ย " ใช้ชะตากรรมผลึกแม่น้ำที่เป็นเต๋าพื้นฐานของเจ้า จากที่ข้ารู้มันมีหินโชคชะตาที่เหมาะสมกับเจ้า แน่นอนว่ามันมีอยู่จริง แต่ข้าไม่แน่ใจว่าอยู่ที่นี่หรือไม่ "
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ หลานอวิ๋นจูอุทานด้วยความโกรธ " อะไรนะ !? ท่านรู้ว่ามีหินที่เหมาะสมกับข้าอยู่บนยอดเขา แต่ท่านไม่ได้พูดและทำให้พวกเราหามันอย่างโง่งมอยู่ที่นี่ ? "
หลี่ฉีเย่มองไปใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธของนางและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " สาวน้อย ใส่ใจกับการกระทำของเจ้าหน่อย เจ้านั้นเป็นเทพธิดาจากนิกายพันแม่น้ำ คนที่มีชื่อเสียงและงดงามพร้อมกับมารยาทที่ดี เจ้าไม่รู้สึกรอว่าของเหล่านี้จะพังทลายลงด้วยใบหน้าที่น่ากลัวของเจ้าในตอนนี้ ? "
" นี้ท่าน ! " หลานอวิ๋นจูนั้นเกือบจะอาเจียนด้วยเลือดจากการหยอกล้อของเขา นางกัดฟันและเอ่ย " ท่านจำไว้เลย วันหนึ่งข้าจะตอบแทนท่านแน่นอน ! "
หลี่ฉีเย่ไม่ได้สนใจคำขู่ของนางก่อนจะเอ่ย " ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อประโยชน์ของเจ้าและเป็นการรักษาหน้าของเจ้า มันดีที่จะหาหินที่เหมาะสมที่นี่เพราะว่าหากพวกเราขึ้นไปในทันทีหินก้อนนั้นจะไม่ยอมรับเจ้า และนี้จะทำให้เจ้าอับอายออย่างมาก ทุกคนนั้นรู้ว่าเจ้าเป็นอัจฉริยนะ - เทพธิดาที่งดงาม ดังนั้นหากหินก้อนนั้นปฏิเสธเจ้า เจ้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกัน ? "
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น