ตอนที่ 519 หินที่หยิ่งยโสยอมรับเจ้านาย
" อย่าทำมัน อย่าทำมัน เขาต้องทำมันไม่ได้ อย่าประสบความสำเร็จเลย " ผู้ฝึกตนเผ่าผีนั้นแอบแช่งหลี่ฉีเย่ ในตอนนี้ทุกคนหวังจะเห็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ มันอาจจะเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ถ้าหากหินนั้นยอมรับเจ้านาย แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่ต่างออกไป มันจะเป็นปาฏิหาริย์หากหินไม่ยอมรับหลี่ฉีเย่ !
นี้เป็นหินที่ไม่สนใจแม้แต่จักรพรรดิอมตะและอัจฉริยะในรุ่นอนาคตถูกทดสอบอย่างมาก มันคงจะเป็นปาฏิหาริย์ในรุ่นนี้หากหินนั้นยอมรับเจ้านาย ทว่าหลี่ฉีเย่ทำเรื่องน่าเหลือเชื่อในวันนี้ มันดูราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่หินเหล่านี้จะยอมรับเขาเป็นเจ้านาย
หลี่ฉีเย่เดินเข้าไปใกล้กินก้อนนั้นก่อนจะนั่งลง ทุกคนต่างสูดลมหายใจลึกด้วยอารมณ์และเฝ้าดูการกระทำของหลี่ฉีเย่
เขาทำเพียงนั่งลงโดยไม่ได้ปลดปล่อยพลังงานในสายเลือดใดๆ และทำสิ่งทีน่าประทับใจ นั้นคือเขาลูบมันอย่างแผ่วเบาส
" สหายเก่า ข้าอยู่ที่นี่แล้ว " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย คำกล่าวของเขาทำให้หินนั้นสั่น รวมถึงหัวใจของผู้ชมทั้งหมด
" ได้โปรด อย่ายอมรับเขา ! " บางคนพึมพำ ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนพูดแบบนี้ แต่นี้ราวกับเป็นความเห็นที่อยู่ในใจของทุกคน
โชคดีที่หินนั้นสั่นเพียงเล็กน้อยแล้วมันก็ไม่ได้ขยับอีก ฝูงชนต่างถอนหายใจโล่งอกหลังจากเห็นฉากนี้ มันรู้สึกราวกับพวกเขาได้ยกภูเขาออกจากอก ทว่าพวกเขาก็ยังไม่วางใจและเฝ้าดูอย่างจริงจังเพราะทุกอย่างนั้นยังไม่สิ้นสุด
หลี่ฉีเย่ยิ้มก่อนจะเอ่ยหลังจากเห็นหินไม่ขยับ " ช่างเป็นหินที่หยิ่งยโส ข้าสงสัยนัก เจ้าคิดว่าจะอยู่ทีนี่ไปนานเท่าไหร่กัน ? "
การตอบสนองของหินยังคงนิ่ง นี้ทำให้ผู้จนกลายเป็นมีความสุขและตะโกน " นี้คือปาฏิหาริย์ ถือว่าสวรรค์ยังมีตา ! "
หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย การที่หินไม่ยอมรับหลี่ฉีเย่ทำให้พวกเขาผ่อนคลายและตื่นเต้น
ทว่าหลี่ฉีเย่ก็ยังสงบอย่างมาก เขานั้นมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าขณะที่มือลูบหินและแหงนหน้ามองฟ้า ท่าทางของเขานั้นราวกับกำลังคุยกับสหายเก่า " เจ้าจำวันที่จักรพรรดิอมตะฉินหลี่มาที่นี่ได้หรือไม่ ? เจ้าไม่ยอมรับเขา ข้าคิดว่าบางทีมันอาจจะยังไม่ถึงเวลา ไม่ต้องเอ่ยถึงจักรพรรดิอมตะหมิงตู่ก่อนหน้าเขาด้วย แต่วันนี้เมื่อข้าได้มาที่นี่ด้วยตัวเอง ดังนั้นมันจะไม่เหมือนในอดีต ถูกต้องหรือไม่ ? "
หินนั้นยังคงนิ่งเหมือนเดิม ผู้คนในภูเขาเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ พวกเขาไม่รู้ว่าหลี่ฉีเย่กำลังพูดคุยอะไรกับหิน แต่พวกเขากำลังรอดูปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น - นั้นคือการทีหินจะไม่ยอมรับหลี่ฉีเย่เป็นเจ้านาย
" ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนที่หยิ่งยโสอย่างมาก " หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างสบายๆ " แต่ข้าก็เคยเห็นคนที่หยิ่งยโสมากกว่าเจ้า เจ้ารู้ใช่ไหม ? สำหรับข้าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่ข้าได้ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว "
หินยังคงเงียบ หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน " มันมีเรื่องน่าเหลือเชื่อมากมายในโลกนี้ ตัวอย่างเช่นการสังหารเทพและจบชีวิตตัวตนอมตะ เจ้ารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่อเหล่านี้ ? หรือเจ้ายังรู้สึกว่าการสังหารเทพยังไม่มีค่าพอ ? เช่นนั้นการฆ่าจักรพรรดิอมตะเป็นอย่างไร ? "
ยืนอยู่ด้านข้าง หลานอวิ๋นจูเต็มไปด้วยความงงงวยเกี่ยวกับสิ่งที่หลี่ฉีเย่พูดกับหิน สังหารเทพนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวพออยู่แล้ว แต่การฆ่าจักรพรรดิอมตะนี้มัน ? กล่าวตามตรงคือมันเป็นไปไม่ได้
" บางทีเจ้าอาจจะคิดว่าการสังหารเทพและฆ่าจักรพรรดิอมตะยังไร้ค่าอยู่ ? " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ยเสริม " หากข้าต้องการจะบดขยี้หิน มันไม่สำคัญว่าจะเป็นหินแบบใด ตราบใดที่ข้าต้องการ...ข้าคิดว่าข้าสามารถหาวิธีการได้ เช่นเดียวกับที่เจ้าคิดว่าการสังหารเทพและฆ่าจักพรรดิอมตะล้วนไม่มีค่า ข้าก็เช่นเดียวกันการบดขยี้หินสำหรับข้าก็ไม่มีอะไรให้ใส่ใจ หากข้าไม่สามารถมีมันได้ แม้แต่สมบัติที่ล้ำค่าและสุดยอดที่สุดก็จะไม่มีค่าแม้แต่เหรียญเดียวในสายตาข้า หากข้าไม่สามารถมีมันได้ ทำไมข้ายังต้องลังเลที่จะบดขยี้มัน ? เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร ? "
ในเวลานี้ หินนั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยการสั่นเล็กน้อย
ผู้ฝึกตนเผ่าผีนั้นรู้สึกได้ว่าหัวใจของพวกเขาเต้นเร็วขึ้น หลังจากเห็นก้อนหินสั่นไหวหลายคนเริ่มอธิฐาน " ได้โปรด อย่าได้ยอมรับเขาเป็นเจ้านาย ! "
ในเวลานี้ หลี่ฉีเย่ยังคงเอ่ยอย่างสงบ " แม้ว่าข้าจะเป็นคนดุร้าย แต่ข้าก็ไม่ใช่คนเลว " เขาเอ่ยเสริม " ข้านั้นรักคนมีความสามารถและสมบัติ ดังนั้นข้าจะไม่สนใจเจ้าในวันนี้ สวรรค์และปฐพีใช้เวลาจำนวนมากกว่าจะกำเนิดหินเช่นเจ้าออกมาได้ - หากข้าจะบดขยี้เจ้าทิ้ง นี้จะเป็นเรื่องสิ้นเปลืองอย่างมาก "
หลี่ฉีเย่ปัดมือของเขาไปมาหลังจากยืนขึ้น " หากเจ้าต้องการจะอยู่ในสถานที่เหม็นอับเช่นนี้ในรุ่นปัจจุบัน เช่นนั้นข้าก็เชื่อว่าเจ้าได้เสียช่วงเวลาที่จะเปล่งประกายและสร้างสีสันให้กับยุคตั้งแต่ยุคเริ่มต้นแห่งเวลาเกิดขึ้น มันไม่เคยมียุคเช่นนี้มาก่อนและเจ้าได้ผ่านเจ้านายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้ซึ่งกวาดผ่านยุคข้ามกาลเวลามา "
" แต่หากเจ้าไม่พอใจและอยากจะอยู่ที่นี่มากกว่า ข้าก็ไม่บังคับ มันยังมีอาวุธอีกนับหมื่นในโลกนี้ และหากข้าต้องการแม้แต่สุดยอดอาวุธก็ยังต้องมาอยู่ในมือข้า ตอนนั้นข้าก็ไม่ต้องการเจ้าแล้ว " หลี่ฉีเย่กล่าวเสร็จก็หันหลังเดินจากไป
ผู้ฝึกตนผีทุดคนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นร่าเริงเช่นเดียวกับผู้ฝึกตนมนุษย์ ในเวลานี้พวกเขารู้สึกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต
" ฮ่าฮ่า เจ้าคนแซ่หลี่นั้นทำไม่..." ผู้ฝึกตนเผ่าผีหัวเราะด้วยความสุข ทว่าก่อนที่เขาจะกล่าวจบ ปากของเขาก็เปิดกว้าง มันกว้างพอที่จะใส่ไข่หานเข้าไปได้ !
" ตึ่ม ! " เมื่อหลี่ฉีเย่หันหลังจะจากไป หินก้อนนั้นทันใดนั้นก็กระโดดเข้าสู่ฝ่ามือของเขา
" ม่ายยยยย !! " บางคนกรีดร้องอย่างโหยห้วน พวกเขาเห่าหอนด้วยเสียงที่เสียใจยิ่งกว่าคนในตระกูลเสียชีวิต
" บัดซบเอ้ย ! มันยังมีความยุติธรรมอยู่บนโลกอีกรึไง ! " อัจฉริยะบางคนเอ่ยด้วยอารมณ์สาปแช่งสวรรค์และปฐพี " สวรรค์ ท่านไม่มีตา ? ท่านกำลังกลั่นแกล้งคนอ่อนแอ่เช่นเราใช่หรือไม่ ? มันจะไม่เป็นไรเลยหากท่านให้หินโชคชะตาทุกก้อนบนโลกกับเขา แต่ต้องไม่ใช่เจ้าหินหยิ่งยโสก้อนนั้น ! แล้วจากนี้ผู้ฝึกตนที่เหลือในโลกจะมีชีวิตต่ออย่างไร ? "
" ปาฏิหาริย์ไม่ได้เกิดขึ้น บ้าเอ้ย ! โลกมันไม่ยุติธรรม ! " ผู้ฝึกตนเผ่าผีนั้นอุทาน
ผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีนั้นเป็นคนที่ได้รับความเดือดร้อยอย่างมากจากเรื่องนี้ หลี่ฉีเย่ได้เหยียบย่ำความภาคภูมิใจของตี๋เชาและเทียนหุยหลี่ ซึ่งทั้งสองเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา ในเวลานี้เพียงชั่วครู่เดียวหลี่ฉีเย่ได้ทำให้เผ่ามนุษย์นั้นเปล่งประกาย
ในอีกด้านหนึ่ง เผ่ามนุษย์นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผสมกันไป พวกเขาไม่รู้ว่าจะมีความสุขหรือเสียใจ สุดท้ายพวกเขาก็เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ในจิตใจ ผู้นำนิกายมนุษย์เอ่ยอย่างขมขื่น " ลูกรักของสวรรค์เช่นนั้นควรจะเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราเผ่ามนุษย์ ทว่าสัตว์ประหลาดปีศาจเช่นเขาจะกวาดผ่านยุคนี้ทั้งหมดและปิดกั้นเส้นทางของอัจฉริยะในยุคนี้ จากนี้ต่อไปใครที่ต้องการไปยังจุดสูงสุดต้องผ่านปีศาจตัวนี้เสียก่อน "
ในช่วงเวลาสั้นๆ ทุกคนมีความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป เผ่าพันธ์มนุษย์เองก็ยังอดไม่ได้ที่จะกลายเป็นอิจฉาหลี่ฉีเย่ เขานั้นเป็นลูกรักของเหล่าสวรรค์อย่างแท้จริง - นี้มันไม่ยุติธรรม
" นี้จึงเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง " หลี่ฉีเย่ลูบหินก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็เก็บมันและจากไป ทิ้งให้คนอื่นมองด้วยสายตาอิจฉาและแดงก่ำ
ทว่า มันก็จะกลายเป็นเพียงเรื่อไร้ความหมายที่จะอิจฉาหลี่ฉีเย่ แม้ว่าพวกเขาจะลองพยามขโมยและประสบความสำเร็จ แต่หินก้อนนั้นก็จะไม่ยอมรับพวกเขาและหนีรอดไป
" ตึ่ม ! ตึ่ม ! ตึ่ม ! " เหล่าหินโชคชะตาทั้งหมดที่รออยู่ด้านนอก พวกมันกระโดดอย่างบ้าคลั่งราวกับกำลังพอเจอช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต
ผู้ฝึกตนบางคนหน้าซีดหลังจากเห็นฉากนี้ " นี้มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น ? "
" ที่ละก้อน ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ " หลี่ฉีเย่ยิ้มขณะเอ่ยพร้อมกับกางฝ่ามืออก เขานั้นเก็บหินแปดและเก้าตัวอักษรจำนวนมาก รวมถึงทั้งหินที่มี ห้า หก และเจ็ดตัวอักษรอีกจำนวนไม่น้อยก็รอเขาอยู่
เขาขว้างหินแปดและเก้าตัวอักษรบางก้อนออกไป หินห้า หก และเจ็ดตัวอักษรเต็มไปด้วยความไม่พอใจและรออย่างมีความหวัง
" กลับไปและเติมโตตามเวลา พวกเจ้าทุกก้อนล้วนมีโอกาส และอนาคตของพวกเจ้าจะไม่จบที่นี่ " หลี่ฉีเย่กล่าวก่อนจะโบกมือของเขา สุดท้ายเหล่าหินที่ไม่เต็มใจก่อนหน้าก็ทำได้เพียงกลับไปที่เดิม
ในเวลานี้ภูเขามังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นกลายเป็นโล่งอย่างมาก หินแปดและเก้าตัวอักษรจำนวนมากถูกเก็บไปโดยหลี่ฉีเย่และพวกมันเหลืออยู่เพียงไม่กี่ก้อน
ฉากนี้ทำให้ความมีเหตุผลของทุกคนที่เฝ้ามองและสายตาของพวกทำได้แต่เหม่อลอย
แม้แต่หลานอวิ๋นจูก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเต็มใจ หลี่ฉีเย่ทำให้หินจำนวนมากยอมรับเขานี้ก็น่าตกตะลึงเพียงพอแล้ว แต่นางยิ่งกลายเป็นไร้คำพูดเมื่อเขาได้รับหินโชคชะตาจำนวนมาก อัจฉริยะปีศาจนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาเป็นตัวตนที่อยู่เหนือจินตนาการของทุกคน ไม่เพียงแค่นั้นเขายังเก็บหินทุกก้อนกลับไปได้ - นี้มันทำลายความมีเหตุผลทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง
ทุกคนรู้ดีว่าผู้ฝึกตนสามารถนำหินออกไปได้เพียงก้อนเดียว หากพวกเขาถูกยอมรับโดยหลายก้อนพวกเขาต้องทำเพียงเลือกหนึ่งในนั้น และหินก้อนอื่นๆไม่สามารถเอาไปได้...
" อย่าทำมัน อย่าทำมัน เขาต้องทำมันไม่ได้ อย่าประสบความสำเร็จเลย " ผู้ฝึกตนเผ่าผีนั้นแอบแช่งหลี่ฉีเย่ ในตอนนี้ทุกคนหวังจะเห็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น
ก่อนหน้านี้ มันอาจจะเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ถ้าหากหินนั้นยอมรับเจ้านาย แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่ต่างออกไป มันจะเป็นปาฏิหาริย์หากหินไม่ยอมรับหลี่ฉีเย่ !
นี้เป็นหินที่ไม่สนใจแม้แต่จักรพรรดิอมตะและอัจฉริยะในรุ่นอนาคตถูกทดสอบอย่างมาก มันคงจะเป็นปาฏิหาริย์ในรุ่นนี้หากหินนั้นยอมรับเจ้านาย ทว่าหลี่ฉีเย่ทำเรื่องน่าเหลือเชื่อในวันนี้ มันดูราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่หินเหล่านี้จะยอมรับเขาเป็นเจ้านาย
หลี่ฉีเย่เดินเข้าไปใกล้กินก้อนนั้นก่อนจะนั่งลง ทุกคนต่างสูดลมหายใจลึกด้วยอารมณ์และเฝ้าดูการกระทำของหลี่ฉีเย่
เขาทำเพียงนั่งลงโดยไม่ได้ปลดปล่อยพลังงานในสายเลือดใดๆ และทำสิ่งทีน่าประทับใจ นั้นคือเขาลูบมันอย่างแผ่วเบาส
" สหายเก่า ข้าอยู่ที่นี่แล้ว " หลี่ฉีเย่อมยิ้มเอ่ย คำกล่าวของเขาทำให้หินนั้นสั่น รวมถึงหัวใจของผู้ชมทั้งหมด
" ได้โปรด อย่ายอมรับเขา ! " บางคนพึมพำ ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนพูดแบบนี้ แต่นี้ราวกับเป็นความเห็นที่อยู่ในใจของทุกคน
โชคดีที่หินนั้นสั่นเพียงเล็กน้อยแล้วมันก็ไม่ได้ขยับอีก ฝูงชนต่างถอนหายใจโล่งอกหลังจากเห็นฉากนี้ มันรู้สึกราวกับพวกเขาได้ยกภูเขาออกจากอก ทว่าพวกเขาก็ยังไม่วางใจและเฝ้าดูอย่างจริงจังเพราะทุกอย่างนั้นยังไม่สิ้นสุด
หลี่ฉีเย่ยิ้มก่อนจะเอ่ยหลังจากเห็นหินไม่ขยับ " ช่างเป็นหินที่หยิ่งยโส ข้าสงสัยนัก เจ้าคิดว่าจะอยู่ทีนี่ไปนานเท่าไหร่กัน ? "
การตอบสนองของหินยังคงนิ่ง นี้ทำให้ผู้จนกลายเป็นมีความสุขและตะโกน " นี้คือปาฏิหาริย์ ถือว่าสวรรค์ยังมีตา ! "
หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย การที่หินไม่ยอมรับหลี่ฉีเย่ทำให้พวกเขาผ่อนคลายและตื่นเต้น
ทว่าหลี่ฉีเย่ก็ยังสงบอย่างมาก เขานั้นมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้าขณะที่มือลูบหินและแหงนหน้ามองฟ้า ท่าทางของเขานั้นราวกับกำลังคุยกับสหายเก่า " เจ้าจำวันที่จักรพรรดิอมตะฉินหลี่มาที่นี่ได้หรือไม่ ? เจ้าไม่ยอมรับเขา ข้าคิดว่าบางทีมันอาจจะยังไม่ถึงเวลา ไม่ต้องเอ่ยถึงจักรพรรดิอมตะหมิงตู่ก่อนหน้าเขาด้วย แต่วันนี้เมื่อข้าได้มาที่นี่ด้วยตัวเอง ดังนั้นมันจะไม่เหมือนในอดีต ถูกต้องหรือไม่ ? "
หินนั้นยังคงนิ่งเหมือนเดิม ผู้คนในภูเขาเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ พวกเขาไม่รู้ว่าหลี่ฉีเย่กำลังพูดคุยอะไรกับหิน แต่พวกเขากำลังรอดูปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น - นั้นคือการทีหินจะไม่ยอมรับหลี่ฉีเย่เป็นเจ้านาย
" ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนที่หยิ่งยโสอย่างมาก " หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างสบายๆ " แต่ข้าก็เคยเห็นคนที่หยิ่งยโสมากกว่าเจ้า เจ้ารู้ใช่ไหม ? สำหรับข้าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ตราบใดที่ข้าได้ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว "
หินยังคงเงียบ หลี่ฉีเย่เอ่ยอย่างไม่รีบร้อน " มันมีเรื่องน่าเหลือเชื่อมากมายในโลกนี้ ตัวอย่างเช่นการสังหารเทพและจบชีวิตตัวตนอมตะ เจ้ารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่อเหล่านี้ ? หรือเจ้ายังรู้สึกว่าการสังหารเทพยังไม่มีค่าพอ ? เช่นนั้นการฆ่าจักรพรรดิอมตะเป็นอย่างไร ? "
ยืนอยู่ด้านข้าง หลานอวิ๋นจูเต็มไปด้วยความงงงวยเกี่ยวกับสิ่งที่หลี่ฉีเย่พูดกับหิน สังหารเทพนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัวพออยู่แล้ว แต่การฆ่าจักรพรรดิอมตะนี้มัน ? กล่าวตามตรงคือมันเป็นไปไม่ได้
" บางทีเจ้าอาจจะคิดว่าการสังหารเทพและฆ่าจักรพรรดิอมตะยังไร้ค่าอยู่ ? " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ยเสริม " หากข้าต้องการจะบดขยี้หิน มันไม่สำคัญว่าจะเป็นหินแบบใด ตราบใดที่ข้าต้องการ...ข้าคิดว่าข้าสามารถหาวิธีการได้ เช่นเดียวกับที่เจ้าคิดว่าการสังหารเทพและฆ่าจักพรรดิอมตะล้วนไม่มีค่า ข้าก็เช่นเดียวกันการบดขยี้หินสำหรับข้าก็ไม่มีอะไรให้ใส่ใจ หากข้าไม่สามารถมีมันได้ แม้แต่สมบัติที่ล้ำค่าและสุดยอดที่สุดก็จะไม่มีค่าแม้แต่เหรียญเดียวในสายตาข้า หากข้าไม่สามารถมีมันได้ ทำไมข้ายังต้องลังเลที่จะบดขยี้มัน ? เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร ? "
ในเวลานี้ หินนั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองโดยการสั่นเล็กน้อย
ผู้ฝึกตนเผ่าผีนั้นรู้สึกได้ว่าหัวใจของพวกเขาเต้นเร็วขึ้น หลังจากเห็นก้อนหินสั่นไหวหลายคนเริ่มอธิฐาน " ได้โปรด อย่าได้ยอมรับเขาเป็นเจ้านาย ! "
ในเวลานี้ หลี่ฉีเย่ยังคงเอ่ยอย่างสงบ " แม้ว่าข้าจะเป็นคนดุร้าย แต่ข้าก็ไม่ใช่คนเลว " เขาเอ่ยเสริม " ข้านั้นรักคนมีความสามารถและสมบัติ ดังนั้นข้าจะไม่สนใจเจ้าในวันนี้ สวรรค์และปฐพีใช้เวลาจำนวนมากกว่าจะกำเนิดหินเช่นเจ้าออกมาได้ - หากข้าจะบดขยี้เจ้าทิ้ง นี้จะเป็นเรื่องสิ้นเปลืองอย่างมาก "
หลี่ฉีเย่ปัดมือของเขาไปมาหลังจากยืนขึ้น " หากเจ้าต้องการจะอยู่ในสถานที่เหม็นอับเช่นนี้ในรุ่นปัจจุบัน เช่นนั้นข้าก็เชื่อว่าเจ้าได้เสียช่วงเวลาที่จะเปล่งประกายและสร้างสีสันให้กับยุคตั้งแต่ยุคเริ่มต้นแห่งเวลาเกิดขึ้น มันไม่เคยมียุคเช่นนี้มาก่อนและเจ้าได้ผ่านเจ้านายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผู้ซึ่งกวาดผ่านยุคข้ามกาลเวลามา "
" แต่หากเจ้าไม่พอใจและอยากจะอยู่ที่นี่มากกว่า ข้าก็ไม่บังคับ มันยังมีอาวุธอีกนับหมื่นในโลกนี้ และหากข้าต้องการแม้แต่สุดยอดอาวุธก็ยังต้องมาอยู่ในมือข้า ตอนนั้นข้าก็ไม่ต้องการเจ้าแล้ว " หลี่ฉีเย่กล่าวเสร็จก็หันหลังเดินจากไป
ผู้ฝึกตนผีทุดคนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นร่าเริงเช่นเดียวกับผู้ฝึกตนมนุษย์ ในเวลานี้พวกเขารู้สึกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต
" ฮ่าฮ่า เจ้าคนแซ่หลี่นั้นทำไม่..." ผู้ฝึกตนเผ่าผีหัวเราะด้วยความสุข ทว่าก่อนที่เขาจะกล่าวจบ ปากของเขาก็เปิดกว้าง มันกว้างพอที่จะใส่ไข่หานเข้าไปได้ !
" ตึ่ม ! " เมื่อหลี่ฉีเย่หันหลังจะจากไป หินก้อนนั้นทันใดนั้นก็กระโดดเข้าสู่ฝ่ามือของเขา
" ม่ายยยยย !! " บางคนกรีดร้องอย่างโหยห้วน พวกเขาเห่าหอนด้วยเสียงที่เสียใจยิ่งกว่าคนในตระกูลเสียชีวิต
" บัดซบเอ้ย ! มันยังมีความยุติธรรมอยู่บนโลกอีกรึไง ! " อัจฉริยะบางคนเอ่ยด้วยอารมณ์สาปแช่งสวรรค์และปฐพี " สวรรค์ ท่านไม่มีตา ? ท่านกำลังกลั่นแกล้งคนอ่อนแอ่เช่นเราใช่หรือไม่ ? มันจะไม่เป็นไรเลยหากท่านให้หินโชคชะตาทุกก้อนบนโลกกับเขา แต่ต้องไม่ใช่เจ้าหินหยิ่งยโสก้อนนั้น ! แล้วจากนี้ผู้ฝึกตนที่เหลือในโลกจะมีชีวิตต่ออย่างไร ? "
" ปาฏิหาริย์ไม่ได้เกิดขึ้น บ้าเอ้ย ! โลกมันไม่ยุติธรรม ! " ผู้ฝึกตนเผ่าผีนั้นอุทาน
ผู้ฝึกตนเผ่าพันธ์ผีนั้นเป็นคนที่ได้รับความเดือดร้อยอย่างมากจากเรื่องนี้ หลี่ฉีเย่ได้เหยียบย่ำความภาคภูมิใจของตี๋เชาและเทียนหุยหลี่ ซึ่งทั้งสองเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา ในเวลานี้เพียงชั่วครู่เดียวหลี่ฉีเย่ได้ทำให้เผ่ามนุษย์นั้นเปล่งประกาย
ในอีกด้านหนึ่ง เผ่ามนุษย์นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผสมกันไป พวกเขาไม่รู้ว่าจะมีความสุขหรือเสียใจ สุดท้ายพวกเขาก็เต็มไปด้วยหลากหลายอารมณ์ในจิตใจ ผู้นำนิกายมนุษย์เอ่ยอย่างขมขื่น " ลูกรักของสวรรค์เช่นนั้นควรจะเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราเผ่ามนุษย์ ทว่าสัตว์ประหลาดปีศาจเช่นเขาจะกวาดผ่านยุคนี้ทั้งหมดและปิดกั้นเส้นทางของอัจฉริยะในยุคนี้ จากนี้ต่อไปใครที่ต้องการไปยังจุดสูงสุดต้องผ่านปีศาจตัวนี้เสียก่อน "
ในช่วงเวลาสั้นๆ ทุกคนมีความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป เผ่าพันธ์มนุษย์เองก็ยังอดไม่ได้ที่จะกลายเป็นอิจฉาหลี่ฉีเย่ เขานั้นเป็นลูกรักของเหล่าสวรรค์อย่างแท้จริง - นี้มันไม่ยุติธรรม
" นี้จึงเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง " หลี่ฉีเย่ลูบหินก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็เก็บมันและจากไป ทิ้งให้คนอื่นมองด้วยสายตาอิจฉาและแดงก่ำ
ทว่า มันก็จะกลายเป็นเพียงเรื่อไร้ความหมายที่จะอิจฉาหลี่ฉีเย่ แม้ว่าพวกเขาจะลองพยามขโมยและประสบความสำเร็จ แต่หินก้อนนั้นก็จะไม่ยอมรับพวกเขาและหนีรอดไป
" ตึ่ม ! ตึ่ม ! ตึ่ม ! " เหล่าหินโชคชะตาทั้งหมดที่รออยู่ด้านนอก พวกมันกระโดดอย่างบ้าคลั่งราวกับกำลังพอเจอช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต
ผู้ฝึกตนบางคนหน้าซีดหลังจากเห็นฉากนี้ " นี้มันกำลังจะเกิดอะไรขึ้น ? "
" ที่ละก้อน ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องรีบ " หลี่ฉีเย่ยิ้มขณะเอ่ยพร้อมกับกางฝ่ามืออก เขานั้นเก็บหินแปดและเก้าตัวอักษรจำนวนมาก รวมถึงทั้งหินที่มี ห้า หก และเจ็ดตัวอักษรอีกจำนวนไม่น้อยก็รอเขาอยู่
เขาขว้างหินแปดและเก้าตัวอักษรบางก้อนออกไป หินห้า หก และเจ็ดตัวอักษรเต็มไปด้วยความไม่พอใจและรออย่างมีความหวัง
" กลับไปและเติมโตตามเวลา พวกเจ้าทุกก้อนล้วนมีโอกาส และอนาคตของพวกเจ้าจะไม่จบที่นี่ " หลี่ฉีเย่กล่าวก่อนจะโบกมือของเขา สุดท้ายเหล่าหินที่ไม่เต็มใจก่อนหน้าก็ทำได้เพียงกลับไปที่เดิม
ในเวลานี้ภูเขามังกรศักดิ์สิทธิ์นั้นกลายเป็นโล่งอย่างมาก หินแปดและเก้าตัวอักษรจำนวนมากถูกเก็บไปโดยหลี่ฉีเย่และพวกมันเหลืออยู่เพียงไม่กี่ก้อน
ฉากนี้ทำให้ความมีเหตุผลของทุกคนที่เฝ้ามองและสายตาของพวกทำได้แต่เหม่อลอย
แม้แต่หลานอวิ๋นจูก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเต็มใจ หลี่ฉีเย่ทำให้หินจำนวนมากยอมรับเขานี้ก็น่าตกตะลึงเพียงพอแล้ว แต่นางยิ่งกลายเป็นไร้คำพูดเมื่อเขาได้รับหินโชคชะตาจำนวนมาก อัจฉริยะปีศาจนั้นต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง พวกเขาเป็นตัวตนที่อยู่เหนือจินตนาการของทุกคน ไม่เพียงแค่นั้นเขายังเก็บหินทุกก้อนกลับไปได้ - นี้มันทำลายความมีเหตุผลทั้งหมดอย่างสิ้นเชิง
ทุกคนรู้ดีว่าผู้ฝึกตนสามารถนำหินออกไปได้เพียงก้อนเดียว หากพวกเขาถูกยอมรับโดยหลายก้อนพวกเขาต้องทำเพียงเลือกหนึ่งในนั้น และหินก้อนอื่นๆไม่สามารถเอาไปได้...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น