ตอนที่ 522 เขตไม้
" แต่พวกเจ้าเตรียมพร้อมแล้วรึ ? เมื่อปลาคาร์ฟยอดเพชรกลับไปถึงรังของมัน พวกเจ้าจะต้องผนึกมันไว้ ไม่เช่นนั้นปลาคาร์ฟนี้จะหายไปและมันเป็นเวลานานกว่าจะได้พบกับมันอีกครั้ง " หลี่ฉีเย่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
" นายน้อยสามารถมั่นใจได้ " เต๋าเบ้ากุ่ยเอ่ยตอบทันที " เราได้นำสมบัติของท่านบรรพบุรุษมากด้วย ตราบใดที่พวกเราสามารถหารังมันพบ พวกเราสามารถผนึกมันได้ แม้ว่ามันพยามจะหนีออกไป พวกเราก็สามารถหามันพบได้ในทันที "
หลี่ฉีเย่ทำเพียงยิ้มตอบสนองขณะมองไปยังปลาคาร์ฟยอดเพชรด้านหน้า คลื่นสูงที่เกิดจากการกระโดดของมันสร้างเป็นเสาน้ำที่น่าตื่นตกใจ
เหล่าผู้อาวุโสล้วนไม่ยอมแพ้จนกว่าพวกเขาจะพบกับรังของมัน
หลังจากมองมันชั่วครู่ หลี่ฉีเย่ก็เอ่ยกับหลานอวิ๋นจู " พวกเราจะไปกันแล้ว "
หลานอวิ๋นจูถามอย่างกประหลาดใจ " ไป ? ไปที่ไหน ? พวกเราจะไม่ไล่ตามปลานี่ไปที่รังรึ ? "
หลี่ฉีเย่ส่ายหัวเอ่ย " ปลานี่จะไม่กลับไปที่รังจนกว่ามันจะเหนื่อย และมันยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่ามันจะอ่อนล้า พวกเราจะไปที่อื่นกันก่อน "
" ไปซะ " เต๋าเบ้ากุ้ยพยักหน้าและเอ่ย " ปล่อยให้สถานที่นี่เป็นเรื่องของพวกเรา พวกเจ้าสามารถไปทดสอบสมบัติที่อื่นได้ "
หลานอวิ๋นจูรู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนักแม้ว่าจะอยู่ที่นี่ ดังนั้นนางจึงเอ่ยลาผู้อาวุโสและจากไปพร้อมกับหลี่ฉีเย่
" ตอนนี้พวกเราจะไปไหนกัน ? " นางเอ่ย " เขตปฐพี ? ข้าได้ยินว่ามีบางอย่างที่น่าเหลือเชื่อถูกขุดพบที่นั้น "
" ไม่ " หลี่ฉีเย่สายหัวของเขาและเอ่ย " เจ้าสามารถขุดพบสิ่งเหลือเชื่อได้ในเขตปฐพี แต่เจ้าจำเป็นต้องมีชีวิจอยู่เพื่อใช้มันภายหลัง "
" โอ้วท่านลุงของข้าขี้กลัวเป็นด้วย ? ไม่ใช่ว่าท่านลุงไม่เกรงกลัวสวรรค์และปฐพีหรอกรึ ? " หลานอวิ๋นจูมองเขาก่อนจะกระพริบตาและเผยรอยยิ้มทรงสเน่ห์ " ล่าสุดที่ข้าจำได้ ท่านลุงนั้นเป็นคนที่มั่นใจอย่างมาก ตอนนี้ท่านกลัวที่จะตายแล้ว ? "
หลี่ฉีเย่เคาะไปยังหน้าผากของนางก่อนจะเอ่ย " อย่าได้ทดสอบข้า สาวน้อย เขตปฐพีนั้นยังไม่เพียงพอที่จะเอาชีวิตข้า ทว่าเพื่อที่จะได้รับสิ่งของที่ดีจากที่นั้น พวกเราจะต้องเข้าไปในหลุมฝังศพ - นี้เป็นกระบวนการที่จะต้องใช้เวลามากและซับซ้อน นอกจากนี้ข้าไม่ได้สนใจของเหล่านั้น ของที่ข้าต้องการนั้นยังอยู่ที่อื่น ตัวอย่างเช่นพวกเรากำลังจะไปในสถานที่ที่ดีมากๆ "
" ที่ใดกัน ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
หลี่ฉีเย่มองไปยังขอบฟ้าและเอ่ย " เขตไม้ " เขานั้นยิ้มและเอ่ย " เจ้าไม่ต้องการจะหารากเม็ดยาราชันหรือสมบัติต้นไม้บ้างหรอกรึ ? "
ดวงตาของหลานอวิ๋นจูกลายเป็นสว่างไสวและเอ่ยถาม " สถานที่เช่นนั้นมีโอกาสที่จะปรากฏต้นไม้อย่างต้นหลิวทองคำศักดิ์ศิทธิ์? "
" เจ้าทำได้เพียงฝันแล้ว " หลี่ฉีเย่หัวเราะก่อนจะเอ่ย " ต้นไม้อย่างต้นหลิวทองคำศักดิ์ศิทธิ์นั้นมีเอกลักษณ์อย่างมาก การได้รับต้นไม้ดังกล่าวนั้นพูดง่ายกว่าทำ ต้นไม้ศักดิสิทธิ์ของนิกายเจ้าจำเป็นจะต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมากว่าที่จะเคลื่อนยายมันไปยังนิกายได้ "
" นอกจากนี้สิ่งที่จะต้องใช้มากกว่าความพยาม ก็คือการจะพบต้นไม้อย่างต้นหลิวทองคำศักดิ์ศิทธิ์ได้นั้นล้วนขึ้นอยุ่กับโอกาส หากเจ้าโชคดี เจ้าอาจจะพบกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่คล้ายกัน " หลี่ฉีเย่ยิ้มก่อนจะนำนางเดินออกมา
หลานอวิ๋นจูมองไปที่เขาและเอ่ยถามด้วยความสงสัย " ท่านลุง ทำไมท่านถึงรู้เรื่องของนิกายพันแม่น้ำของพวกเราดีนัก ? "
แม้ว่านางจะเป็นลูกหลานของนิกาย นางก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ ความจริงกระทั้งอาจารย์ของนางก็ไม่รู้ แต่หลี่ฉีเย่กับเอ่ยเรื่อเหล่านี้ออกมาราวกับว่าเขานั้นเห็นด้วยตาตนเอง
เขาจากนั้นก็เอ่ยหยอกล้อ " อย่าได้ลืมว่าข้าเป็นผู้พิทักษ์ของเจ้า บรรพบุรุษของเจ้านั้นแต่งตั้งข้าเป็นผู้พิทักษ์ด้วยตัวเอง ข้าแน่นอนว่าย่อมต่างจากคนอื่น ข้านั้นอ่านหนังสือมามากมายและไม่มีอะไรที่ข้าไม่รู้ "
หลานอวิ๋นจูมองเขาอย่างเบื่อหน่ายและเอ่ย " เพ้ย ท่านลุงหยุดเถอะ ใครจะรู้ว่าท่านโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นผู้พิทักษ์ของพวกเรา " แม้ว่านางจะเอ่ยเช่นนี้ แต่นางก้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าท่านบรรพบุรุษของนางจงใจเลือกเขาเป็นผุ้พิทักษ์ด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่านางจะยังไม่รู้รายละเอียดก็ตาม
เขตไม้เป็นหนึ่งในเขตของหลุมฝังศพแห่งลางร้าย ภายในนั้นมีต้นไม้สูงตระหง่าบดบังชั้นฟ้า และเต็มไปด้วยหมู่ไม้ที่มีชีวิตชีวา
มีภูเขาล้อมรอบพร้อมกับน้ำตกที่ไหลลงมาจากทั่วทุกที่ สิ่งมีชีวิตมากมายนั้นอยู่ที่นี่ เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามา พวกเขาจะคิดว่ากำลังอยู่ในป่าของโลกใต้พิภพศักดิสิทธิ์
สัตว์และนกมากมายกำลังวิ่งอยู่ภายในป่าไม้เหล่านี้ ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถพบได้ที่นี่ แม้แต่ต้นไม้และหญ้าก็ยังรู้จักเคลื่อนไหว กล่าวให้ถูกคือพวกมันเป็นราชันต้นไม้และรู้วิธีการเคลื่อนที่
นี่คือสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้คนที่ต้องการหาเม็ดยาและหญ้าอมตะ ทุกคนที่มาที่เขตนี้ล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเพราะมันคล้ายกับสวนขนาดใหญ่ ที่มีสมุทรไพรจำนวนมากและแม้แต่ เม็ดยาราชัน !
ทุกครั้งที่หลุมฝังศพเปิดขึ้น เหล่านักปรุงยาจำนวนมากและผู้ฝึกตนหลายคนชอบจะมายังเขตไม้
อัตรายของที่นี่นั้นมีอยู่พอสมควรหากจะเทียบกับเขตอื่น แต่สถานที่แห่งนี้อาจจะกล่าวได้ว่าไม่เหมาะกับผู้มาหาสมบัติ มันเหมาะกับผู้ฝึกตนที่อ่อนแอ โดยเฉพาะเหล่าผู้ฝึกตนพเนจรและนิกายขนาดเล็ก
ในเขตโลหะ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะขุดได้อะไรออกมาจากใต้ดิน มันอาจจะเป็นสมบัติหรืออาจจะเป็นแมลงกินโลหะ หรืออาจจะเป็นอันตรายอื่นๆ
ในเขตน้ำ ไม่มีใครรู้ว่ามันอันตรายแบบใดอยู่ใต้ผิวน้ำ บางทีพวกเขาอาจจะพบสมบัติน้ำ หรืออาจจะเป็นปีศาจน้ำออกมาลิ้มรสเนื้อพวกเขา
เขตไม้นั้นต่างออกไป หากไม่มีความทะเยอทะยานและต้องการสร้างรายได้เพียงเล็กน้อย พวกเขาสามารถมาเลือกหญ้าธรรมดาในเขตนี้ได้เพราะมันปลอดภัยมาก
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นผู้เชียวชาญในการผลิตสมุนไพรและหญ้า พวกมันจึงมีอยู่มากมาย แม้ว่ามันจะดูธรรมดาแต่กลิ่นอายของมันก็ทำให้ผู้คนสดชื่น
ความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนที่ดีนี้หมายความว่ามันเหมาะกับผู้ฝึกตนที่อ่อนแออย่างมาก สำหรับผู้ฝึกตนที่อ่อนสถานที่แห่งนี้เป็นจุดแวะพักของพวกเขา
หลานอวิ๋นจูติดตามหลี่ฉีเย่มายังสถานที่แห่งหนี่งซึ่งเต็มไปด้วยสมุนไพร กลิ่นหอมของมันปะทะเข้ากับใบหน้านางและทำให้นางสูดลมหายใจเข้าลึก
จากนั้นนางก็พึมพำ " หญ้าเงินเมเปิ้ล , ผลไม้บริสุทธิ์ , หญ้าร้อยแฉก...สถานที่แห่งนี่เหมาะสมกับนักปรุงยา "
หลี่ฉีเย่จ้องไปยังนางด้วยความประหลาดใจ หลานอวิ๋นจูมองดูเขาและเอ่ยอย่างไม่พอใจ " อะไร ? มันแปลกมากรึ ? แม้ว่าข้าจะไม่ใช่นักปรุงยา มันก็เป็นธรรมดาที่ข้าจะรู้จักพวกมันเล็กน้อย นิกายพันแม่น้ำของพวกเราเป็นเชื้อสายจักพรรดิ ดังนั้นพวกเราจึงมีคลังสมุนไพรขนาดใหญ่ "
หลี่ฉีเย่ทำเพียงยิ้มและไม่ได้เอ่ยสิ่งใด
หลานอวิ๋นจูไม่สามารถเก็บความตื่นเต้นของนางได้และเอ่ยถาม " สถานที่แห่งนี่นั้นมีสมุนไพรจำนวนมาก พวกเราควรจะเลือกและนำมันกลับไป "
หลี่ฉีเย่ลูบคางของเขาก่อนจะเอ่ย " ข้าขอโทษด้วย แต่ หญ้าเงินเมเปิ้ล , ผลไม้บริสุทธิ์ , หญ้าร้อยแฉก นั้นไม่ใช่สำหรับเจ้า "
หลานอวิ๋นจูไม่ได้สนใจก่อนจะเดินขึ้นไปด้านหน้า และนางสังเกตเห็นภูเขาที่แห้งแล้ง ด้านนอกของภูเขาเหล่านี้เหมือนกับถูกกวาดโดยผู้คน มันไม่มีร่องรอยของหน้าจิตวิญญาณ
" ฮึ่มม...สถานที่แห่งนี้ต้องเป็นส่วนยาแน่ๆ " หลานอวิ๋นจูกล่าวด้วยอารณ์หลังจากเห็นฉากนี้ แม้ว่าภูเขานี้จะสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างสมบูรณ์ เพียงมองไปยังหลุมเหล่านี้พวกเขาก็จะเห็นร่องรอยของหญ้าที่เคยอยู่
ทั้งสองนั้นเดินลึกเข้าไปในป่า พวกเขานั้นเดินผ่านภูเขามาสองสามลูก ระหว่างทางกำลังเห็นผู้ฝึกตนเก็บเกี่ยวอย่างมีความสุข
ผู้ฝึกตนบางคนปีนขึ้นมาบนยอดเขาและพยามจะหารากของสมุนไพรทีนี่ บางคนรออยู่ตรงหน้าผาเพื่อรอให้ดอกไม้บางดอกบานสะพรั่ง คนอื่นนั้นเข้าไปในถ้ำงูเพื่อจะได้รับหญ้าทองคำ ทว่าส่วนใหญ่ของพวกเขาเลือกหญ้าจิตวิญญาณตรงตีนเขา
ระดับของผู้ฝึกตนที่อยู่ที่นี่นั้นค่อนข้างตื้นเขิน และมีเพียงบางคนที่อยู่ระดับปกติ หญ้าจิตวิญญาณที่พวกเขาเก็บเกี่ยวสารถพบได้ในร้านค้า ทว่าแม้ว่าหญ้าเหล่านี้จะเป็นของธรรมดา แต่มันก็ยังเป็นผลดีต่อผู้ฝึกตนเหล่านี้
" พวกเขาเข้ามาได้อย่างไร ? " หลานอวิ๋นจูถามอย่างงุนงงหลังจากเห็นผู้ฝึกตนที่อ่อนแอภายในหลุมฝังศพ
" เจ้าไม่เคยเห็นนิกายขนาดเล็กใช่ไหม ? " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาและเอ่ย " เจ้านั้นเป็นลูกหลานของเชื้อสายจักรพรรดิตั้งแต่ยังเยาว์ ดังนั้นเจ้าจึงไม่ทราบว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ฝึกตนพเนจรและนิกายขนาดเล็กจะใช้ชีวิต หญ้าจิตวิญญาณเหล่านี้ดีต่อพวกเขาอย่างมาก พวกเขาจึงเสี่ยงชีวิตเขามาในหลุมฝังศพ และแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้ามาคนเดียวได้ พวกเขาก็จะรวมกลุ่มกัน "
" ในหมู่พวกเขาจะมีหนึ่งหรือสองคนที่น่าเกรงกลัวคนที่เป็นผู้นำของกลุ่ม ดังนั้นกลุ่มของพวกเขาจึงร่วมมือกันในการขี่เมฆโลหิต แน่นอนมีหลายคนตายในกระบวนการนี้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผู้ฝึกตนที่อ่อนแอก็ยังต้องการเข้าหลุ่มฝังศพ นี้เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต ถ้าพวกเขาโชคดีพวกเขาอาจจะเปลี่ยนโชคชะตาของนิกายได้ ดังนั้นแม้ว่าจะลำบาก หรือมีเพียงหนึ่งในสิบส่วนที่พวกเขาจะรอดชีวิต พวกเขาก็ยินดีที่จะเสี่ยงทุกอย่างและเข้ามา ! "
" แต่พวกเจ้าเตรียมพร้อมแล้วรึ ? เมื่อปลาคาร์ฟยอดเพชรกลับไปถึงรังของมัน พวกเจ้าจะต้องผนึกมันไว้ ไม่เช่นนั้นปลาคาร์ฟนี้จะหายไปและมันเป็นเวลานานกว่าจะได้พบกับมันอีกครั้ง " หลี่ฉีเย่เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
" นายน้อยสามารถมั่นใจได้ " เต๋าเบ้ากุ่ยเอ่ยตอบทันที " เราได้นำสมบัติของท่านบรรพบุรุษมากด้วย ตราบใดที่พวกเราสามารถหารังมันพบ พวกเราสามารถผนึกมันได้ แม้ว่ามันพยามจะหนีออกไป พวกเราก็สามารถหามันพบได้ในทันที "
หลี่ฉีเย่ทำเพียงยิ้มตอบสนองขณะมองไปยังปลาคาร์ฟยอดเพชรด้านหน้า คลื่นสูงที่เกิดจากการกระโดดของมันสร้างเป็นเสาน้ำที่น่าตื่นตกใจ
เหล่าผู้อาวุโสล้วนไม่ยอมแพ้จนกว่าพวกเขาจะพบกับรังของมัน
หลังจากมองมันชั่วครู่ หลี่ฉีเย่ก็เอ่ยกับหลานอวิ๋นจู " พวกเราจะไปกันแล้ว "
หลานอวิ๋นจูถามอย่างกประหลาดใจ " ไป ? ไปที่ไหน ? พวกเราจะไม่ไล่ตามปลานี่ไปที่รังรึ ? "
หลี่ฉีเย่ส่ายหัวเอ่ย " ปลานี่จะไม่กลับไปที่รังจนกว่ามันจะเหนื่อย และมันยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่ามันจะอ่อนล้า พวกเราจะไปที่อื่นกันก่อน "
" ไปซะ " เต๋าเบ้ากุ้ยพยักหน้าและเอ่ย " ปล่อยให้สถานที่นี่เป็นเรื่องของพวกเรา พวกเจ้าสามารถไปทดสอบสมบัติที่อื่นได้ "
หลานอวิ๋นจูรู้สึกว่าพวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนักแม้ว่าจะอยู่ที่นี่ ดังนั้นนางจึงเอ่ยลาผู้อาวุโสและจากไปพร้อมกับหลี่ฉีเย่
" ตอนนี้พวกเราจะไปไหนกัน ? " นางเอ่ย " เขตปฐพี ? ข้าได้ยินว่ามีบางอย่างที่น่าเหลือเชื่อถูกขุดพบที่นั้น "
" ไม่ " หลี่ฉีเย่สายหัวของเขาและเอ่ย " เจ้าสามารถขุดพบสิ่งเหลือเชื่อได้ในเขตปฐพี แต่เจ้าจำเป็นต้องมีชีวิจอยู่เพื่อใช้มันภายหลัง "
" โอ้วท่านลุงของข้าขี้กลัวเป็นด้วย ? ไม่ใช่ว่าท่านลุงไม่เกรงกลัวสวรรค์และปฐพีหรอกรึ ? " หลานอวิ๋นจูมองเขาก่อนจะกระพริบตาและเผยรอยยิ้มทรงสเน่ห์ " ล่าสุดที่ข้าจำได้ ท่านลุงนั้นเป็นคนที่มั่นใจอย่างมาก ตอนนี้ท่านกลัวที่จะตายแล้ว ? "
หลี่ฉีเย่เคาะไปยังหน้าผากของนางก่อนจะเอ่ย " อย่าได้ทดสอบข้า สาวน้อย เขตปฐพีนั้นยังไม่เพียงพอที่จะเอาชีวิตข้า ทว่าเพื่อที่จะได้รับสิ่งของที่ดีจากที่นั้น พวกเราจะต้องเข้าไปในหลุมฝังศพ - นี้เป็นกระบวนการที่จะต้องใช้เวลามากและซับซ้อน นอกจากนี้ข้าไม่ได้สนใจของเหล่านั้น ของที่ข้าต้องการนั้นยังอยู่ที่อื่น ตัวอย่างเช่นพวกเรากำลังจะไปในสถานที่ที่ดีมากๆ "
" ที่ใดกัน ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถามอย่างรวดเร็ว
หลี่ฉีเย่มองไปยังขอบฟ้าและเอ่ย " เขตไม้ " เขานั้นยิ้มและเอ่ย " เจ้าไม่ต้องการจะหารากเม็ดยาราชันหรือสมบัติต้นไม้บ้างหรอกรึ ? "
ดวงตาของหลานอวิ๋นจูกลายเป็นสว่างไสวและเอ่ยถาม " สถานที่เช่นนั้นมีโอกาสที่จะปรากฏต้นไม้อย่างต้นหลิวทองคำศักดิ์ศิทธิ์? "
" เจ้าทำได้เพียงฝันแล้ว " หลี่ฉีเย่หัวเราะก่อนจะเอ่ย " ต้นไม้อย่างต้นหลิวทองคำศักดิ์ศิทธิ์นั้นมีเอกลักษณ์อย่างมาก การได้รับต้นไม้ดังกล่าวนั้นพูดง่ายกว่าทำ ต้นไม้ศักดิสิทธิ์ของนิกายเจ้าจำเป็นจะต้องใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมากว่าที่จะเคลื่อนยายมันไปยังนิกายได้ "
" นอกจากนี้สิ่งที่จะต้องใช้มากกว่าความพยาม ก็คือการจะพบต้นไม้อย่างต้นหลิวทองคำศักดิ์ศิทธิ์ได้นั้นล้วนขึ้นอยุ่กับโอกาส หากเจ้าโชคดี เจ้าอาจจะพบกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่คล้ายกัน " หลี่ฉีเย่ยิ้มก่อนจะนำนางเดินออกมา
หลานอวิ๋นจูมองไปที่เขาและเอ่ยถามด้วยความสงสัย " ท่านลุง ทำไมท่านถึงรู้เรื่องของนิกายพันแม่น้ำของพวกเราดีนัก ? "
แม้ว่านางจะเป็นลูกหลานของนิกาย นางก็ยังไม่รู้เรื่องนี้ ความจริงกระทั้งอาจารย์ของนางก็ไม่รู้ แต่หลี่ฉีเย่กับเอ่ยเรื่อเหล่านี้ออกมาราวกับว่าเขานั้นเห็นด้วยตาตนเอง
เขาจากนั้นก็เอ่ยหยอกล้อ " อย่าได้ลืมว่าข้าเป็นผู้พิทักษ์ของเจ้า บรรพบุรุษของเจ้านั้นแต่งตั้งข้าเป็นผู้พิทักษ์ด้วยตัวเอง ข้าแน่นอนว่าย่อมต่างจากคนอื่น ข้านั้นอ่านหนังสือมามากมายและไม่มีอะไรที่ข้าไม่รู้ "
หลานอวิ๋นจูมองเขาอย่างเบื่อหน่ายและเอ่ย " เพ้ย ท่านลุงหยุดเถอะ ใครจะรู้ว่าท่านโชคดีแค่ไหนที่ได้เป็นผู้พิทักษ์ของพวกเรา " แม้ว่านางจะเอ่ยเช่นนี้ แต่นางก้เข้าใจอย่างชัดเจนว่าท่านบรรพบุรุษของนางจงใจเลือกเขาเป็นผุ้พิทักษ์ด้วยเหตุผลบางอย่าง แม้ว่านางจะยังไม่รู้รายละเอียดก็ตาม
เขตไม้เป็นหนึ่งในเขตของหลุมฝังศพแห่งลางร้าย ภายในนั้นมีต้นไม้สูงตระหง่าบดบังชั้นฟ้า และเต็มไปด้วยหมู่ไม้ที่มีชีวิตชีวา
มีภูเขาล้อมรอบพร้อมกับน้ำตกที่ไหลลงมาจากทั่วทุกที่ สิ่งมีชีวิตมากมายนั้นอยู่ที่นี่ เมื่อพวกเขาก้าวเข้ามา พวกเขาจะคิดว่ากำลังอยู่ในป่าของโลกใต้พิภพศักดิสิทธิ์
สัตว์และนกมากมายกำลังวิ่งอยู่ภายในป่าไม้เหล่านี้ ไม่มีอะไรที่ไม่สามารถพบได้ที่นี่ แม้แต่ต้นไม้และหญ้าก็ยังรู้จักเคลื่อนไหว กล่าวให้ถูกคือพวกมันเป็นราชันต้นไม้และรู้วิธีการเคลื่อนที่
นี่คือสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้คนที่ต้องการหาเม็ดยาและหญ้าอมตะ ทุกคนที่มาที่เขตนี้ล้วนเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเพราะมันคล้ายกับสวนขนาดใหญ่ ที่มีสมุทรไพรจำนวนมากและแม้แต่ เม็ดยาราชัน !
ทุกครั้งที่หลุมฝังศพเปิดขึ้น เหล่านักปรุงยาจำนวนมากและผู้ฝึกตนหลายคนชอบจะมายังเขตไม้
อัตรายของที่นี่นั้นมีอยู่พอสมควรหากจะเทียบกับเขตอื่น แต่สถานที่แห่งนี้อาจจะกล่าวได้ว่าไม่เหมาะกับผู้มาหาสมบัติ มันเหมาะกับผู้ฝึกตนที่อ่อนแอ โดยเฉพาะเหล่าผู้ฝึกตนพเนจรและนิกายขนาดเล็ก
ในเขตโลหะ ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะขุดได้อะไรออกมาจากใต้ดิน มันอาจจะเป็นสมบัติหรืออาจจะเป็นแมลงกินโลหะ หรืออาจจะเป็นอันตรายอื่นๆ
ในเขตน้ำ ไม่มีใครรู้ว่ามันอันตรายแบบใดอยู่ใต้ผิวน้ำ บางทีพวกเขาอาจจะพบสมบัติน้ำ หรืออาจจะเป็นปีศาจน้ำออกมาลิ้มรสเนื้อพวกเขา
เขตไม้นั้นต่างออกไป หากไม่มีความทะเยอทะยานและต้องการสร้างรายได้เพียงเล็กน้อย พวกเขาสามารถมาเลือกหญ้าธรรมดาในเขตนี้ได้เพราะมันปลอดภัยมาก
เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เป็นผู้เชียวชาญในการผลิตสมุนไพรและหญ้า พวกมันจึงมีอยู่มากมาย แม้ว่ามันจะดูธรรมดาแต่กลิ่นอายของมันก็ทำให้ผู้คนสดชื่น
ความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนที่ดีนี้หมายความว่ามันเหมาะกับผู้ฝึกตนที่อ่อนแออย่างมาก สำหรับผู้ฝึกตนที่อ่อนสถานที่แห่งนี้เป็นจุดแวะพักของพวกเขา
หลานอวิ๋นจูติดตามหลี่ฉีเย่มายังสถานที่แห่งหนี่งซึ่งเต็มไปด้วยสมุนไพร กลิ่นหอมของมันปะทะเข้ากับใบหน้านางและทำให้นางสูดลมหายใจเข้าลึก
จากนั้นนางก็พึมพำ " หญ้าเงินเมเปิ้ล , ผลไม้บริสุทธิ์ , หญ้าร้อยแฉก...สถานที่แห่งนี่เหมาะสมกับนักปรุงยา "
หลี่ฉีเย่จ้องไปยังนางด้วยความประหลาดใจ หลานอวิ๋นจูมองดูเขาและเอ่ยอย่างไม่พอใจ " อะไร ? มันแปลกมากรึ ? แม้ว่าข้าจะไม่ใช่นักปรุงยา มันก็เป็นธรรมดาที่ข้าจะรู้จักพวกมันเล็กน้อย นิกายพันแม่น้ำของพวกเราเป็นเชื้อสายจักพรรดิ ดังนั้นพวกเราจึงมีคลังสมุนไพรขนาดใหญ่ "
หลี่ฉีเย่ทำเพียงยิ้มและไม่ได้เอ่ยสิ่งใด
หลานอวิ๋นจูไม่สามารถเก็บความตื่นเต้นของนางได้และเอ่ยถาม " สถานที่แห่งนี่นั้นมีสมุนไพรจำนวนมาก พวกเราควรจะเลือกและนำมันกลับไป "
หลี่ฉีเย่ลูบคางของเขาก่อนจะเอ่ย " ข้าขอโทษด้วย แต่ หญ้าเงินเมเปิ้ล , ผลไม้บริสุทธิ์ , หญ้าร้อยแฉก นั้นไม่ใช่สำหรับเจ้า "
หลานอวิ๋นจูไม่ได้สนใจก่อนจะเดินขึ้นไปด้านหน้า และนางสังเกตเห็นภูเขาที่แห้งแล้ง ด้านนอกของภูเขาเหล่านี้เหมือนกับถูกกวาดโดยผู้คน มันไม่มีร่องรอยของหน้าจิตวิญญาณ
" ฮึ่มม...สถานที่แห่งนี้ต้องเป็นส่วนยาแน่ๆ " หลานอวิ๋นจูกล่าวด้วยอารณ์หลังจากเห็นฉากนี้ แม้ว่าภูเขานี้จะสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างสมบูรณ์ เพียงมองไปยังหลุมเหล่านี้พวกเขาก็จะเห็นร่องรอยของหญ้าที่เคยอยู่
ทั้งสองนั้นเดินลึกเข้าไปในป่า พวกเขานั้นเดินผ่านภูเขามาสองสามลูก ระหว่างทางกำลังเห็นผู้ฝึกตนเก็บเกี่ยวอย่างมีความสุข
ผู้ฝึกตนบางคนปีนขึ้นมาบนยอดเขาและพยามจะหารากของสมุนไพรทีนี่ บางคนรออยู่ตรงหน้าผาเพื่อรอให้ดอกไม้บางดอกบานสะพรั่ง คนอื่นนั้นเข้าไปในถ้ำงูเพื่อจะได้รับหญ้าทองคำ ทว่าส่วนใหญ่ของพวกเขาเลือกหญ้าจิตวิญญาณตรงตีนเขา
ระดับของผู้ฝึกตนที่อยู่ที่นี่นั้นค่อนข้างตื้นเขิน และมีเพียงบางคนที่อยู่ระดับปกติ หญ้าจิตวิญญาณที่พวกเขาเก็บเกี่ยวสารถพบได้ในร้านค้า ทว่าแม้ว่าหญ้าเหล่านี้จะเป็นของธรรมดา แต่มันก็ยังเป็นผลดีต่อผู้ฝึกตนเหล่านี้
" พวกเขาเข้ามาได้อย่างไร ? " หลานอวิ๋นจูถามอย่างงุนงงหลังจากเห็นผู้ฝึกตนที่อ่อนแอภายในหลุมฝังศพ
" เจ้าไม่เคยเห็นนิกายขนาดเล็กใช่ไหม ? " หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาและเอ่ย " เจ้านั้นเป็นลูกหลานของเชื้อสายจักรพรรดิตั้งแต่ยังเยาว์ ดังนั้นเจ้าจึงไม่ทราบว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผู้ฝึกตนพเนจรและนิกายขนาดเล็กจะใช้ชีวิต หญ้าจิตวิญญาณเหล่านี้ดีต่อพวกเขาอย่างมาก พวกเขาจึงเสี่ยงชีวิตเขามาในหลุมฝังศพ และแม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถเข้ามาคนเดียวได้ พวกเขาก็จะรวมกลุ่มกัน "
" ในหมู่พวกเขาจะมีหนึ่งหรือสองคนที่น่าเกรงกลัวคนที่เป็นผู้นำของกลุ่ม ดังนั้นกลุ่มของพวกเขาจึงร่วมมือกันในการขี่เมฆโลหิต แน่นอนมีหลายคนตายในกระบวนการนี้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ผู้ฝึกตนที่อ่อนแอก็ยังต้องการเข้าหลุ่มฝังศพ นี้เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต ถ้าพวกเขาโชคดีพวกเขาอาจจะเปลี่ยนโชคชะตาของนิกายได้ ดังนั้นแม้ว่าจะลำบาก หรือมีเพียงหนึ่งในสิบส่วนที่พวกเขาจะรอดชีวิต พวกเขาก็ยินดีที่จะเสี่ยงทุกอย่างและเข้ามา ! "
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น