ตอนที่ 525 สุดยอดพื้นที่ของนักปรุงยา
หลี่ฉีเย่ตอบอย่างไม่ลดละ " เจ้ายังไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ ทว่าหากความลับภายในส่วนลับปรากฏขึ้นมาข้าจะพาเจ้าไปสัมผัสกับมัน "

หลังจากได้ยินเช่นนี้หลานอวิ๋นจูก็ไม่ได้เอ่ยถามสิ่งใดอีก นางรู้สึกว่าความลับนี่จะต้องน่าตกตะลึงอย่างแน่นอน

" พวกเราไปเถอะ " หลี่ฉีเย่นำนางเข้าไปในสวน พวกเขานั้นไม่ได้เดินเข้าไปไกลมากนักก่อนจะมีหญ้าจิตวิญญาณกระโดดออกมา หญ้าจิตวิญญาณนี้เป็นเหมือนกับมังกรขนาดลเล็กขดตัว

หลานอวิ๋นจูรู้เกี่ยวกับข้อมูลของมันก่อนจะร้องอุทาน " หญ้าจิตวิญญาณมังกรไหม ! อีกเพียงก้าวเดียวมันก็จะกลายเป็นหญ้ามังกร ! "

หญ้าจิตวิญญาณเป็นส่วนสำคัญในการปรับแต่งเม็ดยา หากปราศจากมัน ผู้คนจะไม่สามารถกลั่นเม็ดยาได้ มันมีหญ้าจิตวิญญาณอยู่หลายชนิด แต่หญ้าจิตวิญญาณมังกรไหมเป็นชนิดที่ดีที่สุด ผลของมันนั้นมีประสิทธิภาพมากจึงเป็นที่ต้องการมากกว่าชนิดอื่นๆ

หญ้าจิตวิญญาณนั้นมีเก้ารูปแบบ และทั้งเก้ารูปแบบนั้นเป็นขีดจำกัด เหมือนกันสำหรับหญ้าจิตวิญญาณมังกรไหมก็มีเก้าขั้นที่แตกต่างกัน ในสามระยะแรกมันจะอยู่ในรูปแบบของดอกไม้ สามระยะกลางมันจะกลายเป็นหญ้าจิตวิญญาณ และสามระยะสุดท้ายมันจะกลายเป็นหญ้ามังกร ตำนานกล่าวว่าเมื่อมันไปถึงระดับสุดท้าย มันจะเปลี่ยนเป็นมังกรตัวน้อยจริงๆ !

หลี่ฉีเย่เอื้อมมือไปและดึงหญ้าจิตวิญญาณนี่ มันแสดงออกอย่างไม่เต็มใจ แต่มือของหลี่ฉีเย่นั้นปิดทุกทางหนีของมันเอาไว้หมด

ด้านนอกของหลุมฝังศพ หญ้าจิตวิญญาณต้นนี่ถือว่าล้ำค่ามาก พวกมันจะเติบโตในสถานที่อันตรายที่สุดและมีผู้คุ้มกัน ทว่าในสวนของนักปรุงยาอมตะแห่งนี่ มันเป็นเพียงหญ้าธรรมดาๆ เท่านั้น

หลี่ฉีเย่ปล่อยมันไปและเอ่ยกับหลานอวิ๋นจู " จำเอาไว้ มันมีกฏอยู่สามข้อในสวนแห่งนี้ อย่างแรกเจ้าสามารถแรกได้เพียงหญ้าจิตวิญญาณธรรมดา "

" หญ้าจิตวิญญาณธรรมดาเป็นอย่างไร ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถาม

หลี่ฉีเย่เอ่ยตอบด้วยรอยยิ้ม " ธรรมดาหมายถึงยาราชันทั่วไป ปกติพวกมันจะมีอายุสามล้านปีหรือ่อนกว่า หรือบางต้นอาจจะมีทั้งเก้ารูปแบบ "

" หรือมันมีหญ้าจิตวิญญาณที่มีสิบรูปแบบอยู่ด้วย ? "

นี่เป็นสิ่งที่ปกติที่ทั่วทั้งโลกรู้ เก้ารูปแบบนั้นเป็นขีดจำกัดของหญ้าจิตวิญญาณ

สำหรับเรื่องนี้ หลี่ฉีเย่เพียงยิ้มเอ่ย " อย่างที่สอง สำหรับสมุนไพรจักรพรรดิ , สมุนไพรอมตะ และสมุนไพรอมตะที่แท้จริง รวมถึงต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีอายุมากกว่าห้าล้านปี เจ้าจะสามารถอนมันได้เมื่อพวกมันยินยอมเท่านั้น หากพวกมันเต็มใจจะไปกับเจ้า เช่นนั้นเจ้าสามารถนำพวกมันไปได้ ทว่าหากเจ้ากำลัง เช่นนั้นระวังจะถูกลงโทษ ! "

" ข้าจะแยกประเภทของสมุนไพรจักรพรรดิ , สมุนไพรอมตะ และสมุนไพรอมตะที่แท้จริงอย่างไร ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ยถามอย่างสับสน

หลี่ฉีเย่ส่ายหัวของเขาก่อนจะเอ่ย " จริงๆแล้วมันไม่มีมาตราฐาน บางคนพิจรณาว่าสมุนไพราชันที่มีอายุมากกว่าสามลานปีขั้นไปเป็นสมุนไพรจักรพรรดิ แต่นี้เป็นการแยกด้วยนักปรุงยาที่อ่อนแอ เมื่อนักปรุงยามาถึงระดับหนึ่งพวกเราจะสามารถติดต่อกับสมุนไพรราชันได้ แต่นั้นเป็นเพียงตำนาน ส่วนนักปรุงยาจะแยกว่าสมุนไพรที่อายุน้อยกว่าห้าลานปีเป็นสมุนไพรจักพรรดิ สำหรับสมุนไพรจิตวิญญาณที่หายาก อย่างหญ้าวิหคอมตะ พวกเขาเรียกมันว่าสมุนไพรอมตะ "

" แล้วสมุนไพรอมตะที่แท้จริงเป็นอย่างไร ? " หลานอวิ๋นจูเอ่ย " จะแยกว่ามันเป็นสมุนไพรทีจริงหรือปลอมได้อย่างไร ? "

หลี่ฉีเย่เอ่ยตอบ " สมุนไพรอมตะที่แท้จริงนั้นแบ่งออกเป็นหลายระดับ สมุนไพรจิตวิญญาณอย่างหญ้าวิหคอมตะนั้นเป็นของหายาก แต่มันไม่ใช่หญ้าอมตะที่แท้จริง หญ้าอมตะที่แท้จริงนั้นมาจากยุคโบราณและได้รับการบ่มเพาะโดนผู้เป็นอมตะ บางคนกระทั้งเอ่ยว่าสมุนไพรอมตะที่แท้จริงซ่อนความลับของการเป็นอมตะไว้อยู่ ! "

" มันมีสิ่งของเช่นนั้นอยู่บนโลกด้วย ? " หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะเอ่ย " สมุนไพรอมตะที่แท้จริงสามารถทำให้ผู้กินมีชีวิตนิรันดร์..."

หลี่ฉีเยนั้นไม่ได้เอ่ยตอบคำถามของนางเนื่องจากเขากำลังขุดหญ้าผลไม้เงินอายุสองล้านปี มันเป็นสมุนไพรส่วนผสมกับเม็ดยาชีวิต สมุนไพรจิตวิญญาณเช่นนี่มีคุณค่าและหายากอย่างมาก

" กฏข้อที่สามก็คืออย่าได้โลภเกินไป ในสถานที่แห่งนี้เจ้าสามารถเลือกหญ้าจิตวิญญาณธรรมดาได้โดยไม่มีอันตราย ทว่าหากเจ้าโลกมากเกินไปและหยิบมันมาจำนวนมาก เช่นนั้นอำนาจของสวนจะลงโทษเจ้า หากเจ้าเจอสามอย่างให้เลือกสองอย่างและทิ้งไว้หนึ่ง - เจ้าควรจะจำไว้ว่ามันเป็นจำนวนสูงสุด นี้ก็พลักดันชีวิตไปสู่จุดที่อันตรายแล้ว "

หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะยิ้มเมื่อถึงตอนนี้ ในสถานที่แห่งนี้ เม็ดยาราชันน้อยและเม็ดยาราชันถูกเรียกว่าหญ้าจิตวิญญาณธรรมดา รายการเหล่านี้สามารถสร้างความขัดแย้งได้นับไม่ถ้วน

ทว่านางทันใดนั้นก็นึกสงสัยเกี่ยวกับสวนนี้จึงเอ่ยถาม " จะเกินอะไรขึ้นหากข้าเลือกของจากสวนนี้มากกเกินไป ? "

" ง่ายมาก " หลี่ฉีเย่ตอบด้วยรอยยิ้ม " หากเจ้าไม่ใช่จักรพรรดิอมตะ เช่นนั้นก็ไม่ต้องคิดถึงการมีชีวิตรอด "

หลานอวิ๋นจูได้ยินก็หน้าซีด หญ้าอมตะนั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายสวรรค์แม้แต่องค์รักษ์เทพสาวรรค์ก็ยังไม่สามารถจัดการกับพวกมันได้ และด้วยการลงโทษจากสวนนี้ ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในระดับจักรพรรดิอมตะไม่ต้องฝันจะมีชีวิตรอด เว้นแต่ว่าพวกมันยินดีจะไปกับท่านด้วย

" อย่ายืนงงอยู่ที่นี่ มาก่อนได้ก่อน ข้าจะไม่เลือกอะไรให้กับเจ้า ! " หลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็เริ่มขุนไม้ไผ่อาบโลหิตขึ้นมา

หลานอวิ๋นจูฟื้นคืนสติของนางก่อนจะตะโกน " ท่านลุง ท่านกำลังข่มขู่สตรีคนนี้ ท่านเริ่มขุนต่อหน้าข้าก่อนจะที่จะเอ่ยอะไรเสียอีก ! " หลานอวิ๋นจูไม่ได้สนใจมารยาทสตรีก่อนจะกรีดร้องและวิ่งตามหลี่ฉีเย่

หลี่ฉีเย่ทำเพียงยิ้มก่อนจะปล่อยรากราชันให้กับนาง

นางนั้นได้รับการเก็บเกี่ยวที่ดีเยี่ยมจากคำแนะนำของหลี่ฉีเย่ ยิ่งนางขุดไปมากเท่าไหร่นางก็พบว่ายิ่งพูดไม่ออก ที่สมุนไพรราชันนั้นไม่ต่างจากหัวไชเท้า คนหนึ่งสามารถดึงพวกมันได้จากทุกที่

นางนั้นไม่ใช่นักปรุงยาดังนั้นทักษะการขุดของนางจึงยากกว่าหลี่ฉีเย่ หากไม่ใช่เพราะว่าเขาทำให้พื้นที่แถวนั้นให้ขุดง่ายๆ นางอาจจะไม่ได้สามารถขุดสิ่งใดได้เลย แม้ว่าจำนวนของนางจะห่างไกลจากหลี่ฉีเย่ แต่นางก็ยังพอใจอย่างมาก

ลองคิดถึงราชันเทพสวรรค์จากตระกูลจางที่มาพร้อมกับอาวุธจักรพรรดิขณะที่ไล่จับหญ้าราชันไปหมื่นไมล์ สุดท้ายไม่มีใครรู้ว่าเขาจับได้หรือไม่ ทว่าหลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจูสามารถขุดหญ้าราชันเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายราวกับขุดผัก นี้เป็นโอกาสที่ดีอย่างยิ่ง

หลังจากขุดและเดินไปเป็นเวลานาน หลี่ฉีเย่สุดท้ายก็มองไปด้านหน้าและเอ่ยด้วยรอยยิ้ม " ในที่สุดพวกเราก็มาถึงที่นี่ "

หลานอวิ๋นจูนั้นถอยหลังไปหลายก้าว นางในที่สุดก็ตระหนักได้ว่าการเก็บสมุนไพราชันนั้นไม่ใช่จุดหมายของหลี่ฉีเย่ มันเป็นเพียงการฆ่าเวลาทเท่านั้น เช่นนั้นแล้วอะไรคือจุดหมายของเขา ?

นางนั้นลุกขึ้นยืนขณะที่ขุดสมุนไพรราชันอีกต้นได้ แต่นางก็ต้องตกตะลึงเมื่อเห็นฉากด้านหน้า นางตกใจจนไม่สามารถปิดปากได้

ด้านหน้าของพวกเขาเป็นพื้นที่สมุนไพรที่มีสีฟ้าส่องประกายราวกับหยกและมีหมอกสีฟ้าคลุมไปทั่ว ทว่าหากมองยังระวังจะเห็นได้ว่ามันไม่ใช่หมอกกลับกันมันเป็นพลังงานใลกที่ถูกกลั่นและมีค่าอย่างมาก

สมุนไพรอมตะและต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ล้วนเติบโตขึ้นในสวนแห่งนี้ แต่ละต้นของพวกมันดูดซับพลังงานที่คล้ายหมอกเหล่านี้

เมื่อทั้งสองเดินเข้ามาภายใน แต่พวกเขาก็ต้องหยุดเพราะปรากฏเสียงมังกรคำรามอยู่ด้านหน้าของพวกเขา มันไม่ได้ใหญ่มาก แต่เป็นกลิ่นอายและเสียงคำรามของมังกรที่กำลังบอกให้ทั้งสองไม่เข้าไปยังสถานที่แห่งนี่

" ใจเย็นก่อน ใจเย็นก่อน " แม้จะเผชิญหน้ากับเสียงคำรามของมังกร หลี่ฉีเย่ก็เพียงยิ้มและเอ่ยอย่างนุ่มนวล " นี้ไม่ใช่วิธีที่ใช้ปฏิบัติกับแขกหรอกมั้ง "

" นี้ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะเข้ามา มันไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสมกับสิ่งมีชึวิตเล็กๆเช่นเจ้า " เสียงโบราณดังออกมาจากต้นไม้ ต้นไม้นี่มีใบหน้าของชายชรา คนขี้ขลาดทุกคนจะตกใจกลัวหลังจากเห็นใบหน้านี้

" แน่นอนว่าข้ามีเหตุผลที่มาที่นี่ " หลี่ฉีเย่เอ่ยตอบอย่างสบายๆ

" สิ่งนี่คืออะไร ? " หลานอวิ๋นจูกระซิบถามหลี่ฉีเย่ หลังจากเห็นมังกรจ้องจะโจมตีพวกเขา

หลี่ฉีเย่ยิ้มก่อนจะยืนมือไปสัมผัสกับมังกรบินด้านหน้าและเอ่ย " นี้เป็นรูปแบบที่สิบของหญ้าจิตวิญญาณมังกรไหม นี่ล้วนเป็นต้นไม้ทหารต้นไม้ที่มาอายุมากกว่าแปดล้านปี "

" ทุกสิ่งที่อยู่ทีนี่คือวิญญาณกลับสวรรค์..." หลี่ฉีเย่ยังคงเรียกชื่อของเหล่าพืชพรรณที่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกอย่างสบายๆ

หลังจากได้ยินคำกล่าวของหลี่ฉีเย่ หลานอวิ๋นจูก้มองพวกมันอย่างระวัง และเอ่ย " นั้นไม่ใช่ราชันโสมโลหิตอายุเจ็ดลานปี ? "

" ไม่ ชื่อของข้าคือบรรพบุรุษโสม " โสมที่เปล่งประกายสีม่วงรู้จักพูดคุย ! นี้ช่างน่าเหลือเชื่อย่างยิ่ง

หลานอวิ๋นจูอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก บรรพบุรุษโสมนี่เป็นส่วนผสมที่ดีที่สุดสำหรับเม็ดยาชีวิต แม้แต่จักรพรรดิอมตะก็ยังต้องการโสมนี้ หากจักรพรรดิอมตะมาที่นี่ เขาจะต้องใช้กำลังเพื่อเอามันออกไป แม้ว่าจะต้อองเจอกับการลงโทษจากสวนก็ตาม

" ที่นี่คือดินแดนของพวกเรา ! " ต้นไม้ทหารเอ่ยเตือนหลี่ฉีเย่และหลานอวิ๋นจู " จากไปซะ พวกข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะมาทำอะไรที่นี่ แต่พวกเจ้าไม่สามารถเข้าไปได้ ! "

" ข้าจะเข้าไปได้หรือไม่ ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะติดสินใจ " หลี่ฉีเย่หรี่สายตาของเขาและเอ่ย " ความจริงก็คือพวกเจ้าล้วนไม่ผู้ปกครองของสถานที่แห่งนี้ ใช่ไหม ? ข้าเป็นคนที่รักสันติและไม่ต้องการจะต่อสู้ ข้านั้นมีสิ่งนี่ บางที่ข้าอาจจะเข้าไปข้างในได้ละมั้ง ? "

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้