ตอนที่ 492 ทำลายโชติช่วง
ความคิดที่แตกต่างกันวิ่งอาละวาดในจิตใจของผู้คน บางคนนั้นรำคาญ ขณะที่บางคนนั้นอิจฉาที่ตี๋เชาได้พบกับภรรยาที่ดี
เจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นกำจัดศัตรูและสร้างผู้บัญชาการที่มีความสามารถให้กับตี๋เชา นี้จะทำให้นางสร้างพายุฝนและเรียกลมได้ทั่วทั้งโลก - ความสามารถที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
" นางสมแล้วที่จะได้เป็นราชินี " ผู้เชียวชาญผีหลายคนไม่ชอบเหตุการณ์ในปัจจุบัน แต่พวกเขาก็ยอมรับความสามารถของนาง
" ไม่มีศัตรูถาวรมีเพียงสิ่งน่าสนใจที่ถาวร " ผู้ฝึกตนอีกคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ บางครั้งก็จำเป็นที่จะต้องจับมือกับศัตรูคู่อาฆาต ความจริงนั้นโหดร้ายอย่างมาก
สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปยังร่างของหลี่ฉีเย่ ทุกคนรู้ว่าหลี่ฉีเย่เป็นจอมโหดเหี้ยม หากเขาเข้าร่วมตามคำเชิญของเจ้าหญิงฟินิฟซ์ เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นผู้บัญชาการอมตะสำหรับตี๋เชา
หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะกับความของเจ้าหญิงฟินิกซ์ ก่อนจะโบกมือไปมาและเอ่ย " กลายเป็นสหาย ? โทษที ข้าไม่มีงานอดิเรกอย่างการกลายเป็นสหายกับศัตรู เว้นแต่ว่าข้าชอบคนที่มีความสามารถ หากตี๋เชาสาบานว่าจะจงรักภักดีกับข้า เช่นนั้นข้าก็อาจจะอภัยและกลายเป็นสหายของเขา "
คำกล่าวของหลี่ฉีเย่ทำให้ผู้นำสิบแปดอสูรและเจ้าหญิงเปลี่ยนการแสดงออกของพวกเขา เจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นอยู่ในอาการสงบ แต่ผู้นำหลี่สายตาของเขาและเอ่ยอย่างเย็นชา " เจ้าควรจะคิดให้ดีก่อนจะพูดอะไรออกมา ! "
หลี่ฉีเย่เอ่ยตอบพร้อมกับรอยยิ้ม " ข้าไม่เคยคิดอะไรก่อนจะพูด ! ฮ่าฮ่า ตี๋เชา ? แล้วไง ! เขามีคุณสมบัติอะไรที่จะได้รับความจงรักภักดีของข้า ? คุณสมบัติของเขาเป็นได้เพียงผู้บัญชาการระดับในการจัดลำกับของข้า และเขายังกล้ามาเชิญข้า ? บางที่รอจนกระทั้งจักพรรดิอมตะว่านกู่กลับมามีชีวิตเหอะ ! "
" เจ้าโง่ปากแข็ง ! " เจ้าหญิงฟินิกซ์กล่าวอย่างเย็นชา " อย่าได้ตำหนิพวกเราในเมื่อเจ้าเลือกเดินเส้นทางที่ยากลำบาก ! "
ล้มเหลวในการเชิญชวนนี้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย สำหรับเจ้าหญิงประกายศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้นให้กับน้องชายนางหรือการทำลายภัยคุกคาม นางนั้นสามารถปล่อยวางได้หากสามารถเชิญอัจฉริยะให้เข้ามาปูเส้นทางสู่จักรพรรดิอมตะให้กับคู่หมั้นนางได้
หลายคนกลายเป็นโล่งใจหลังจากได้ยินคำกล่าวนี้ นี้ทำให้สนามรบกลายเป็นตรึงเครียดมากขึ้น นี้หมายความว่าพวกเขาจะต้องตอ่สู้เป็นตายในเมื่อการเจรจาล้มเหลว
" ข้ามีประสบการกับความโหดเหี้ยมของเจ้าแล้ว " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " เข้ามา การส่งคนอื่นเข้ามาตายเปล่านี้ทำให้ทั้งเจ้าและข้าเสียเวลา ข้าอยากจะรู้จริงๆว่าคู่หมั้นตี๋เชามีดีขนาดไหน "
เจ้าหญิงฟินิกซ์ยังคงนั่งอยู่บนรถม้าของนางและจ้องหลี่ฉีเย่โดยไม่เคลื่อนไหวใดๆ
ผู้นำสิบแปดอสูรขว้างเส้นทางของหลี่ฉีเย่และกล่าวอย่างเย็นชา " เว้นแต่พวกเราจะตาย เจ้าก้ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะทำให้นางหญิงลงมือ "
" ยอดองค์รักษ์ ? " หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะและเอ่ยถาม " พวกเจ้าคิดจริงๆว่าจะสามารถหยุดข้าได้ ? "
คำกล่าวนี้ของหลี่ฉีเย่นั้นหยิ่งยโสอย่างมาก แต่หลังจากฟังเสียงหัวเราะของหลี่ฉีเย่ แม้แต่ผู้ที่คิดว่าตัวเองเป็นยอดองค์รักษ์ที่แข็งแกร่งก็ยังสั่นสะท้าน วันนี้มีประมาณแปดสิบถึงหนึ่งร้อยองค์รักษ์เทพสวรรค์ที่ตายด้วยน้ำมือเขา รวมถึงอีกหลายสิบคนเป็นอัจฉริยะยอดองค์รักษ์ที่มีชื่อเสียง
" จำนวนนับไม่ใช่ทุกอย่าง เหล่าคนที่ไม่ได้รู้ทักษะจักรพรรดิมีเพียงการบ่มเพาะที่เสียเปล่าแม้ว่าจะมาถึงระดับองค์รักษ์เทพสวรรค์ " ผู้นำสิบแปดอสูรเอ่ยอย่างเย็นชา
ตอนนี้สิบแปดอสูรนั้นปลดปล่อยพลังงานในสายเลือดเจาะผ่านชั้นฟ้า ตัวอักษรที่มีกลิ่นอายของจักรพรรดิอมตะปรากฏอยู่บนร่างของพวกเขา ทำให้พวกเขากลายเป็นกำแพงเหล็กที่ทอดยาวนับหมื่นไมล์ บดสวดจักรพรรดิปรากฏราวกับนี้เป็นเมืองของจักรพรรดิ ไม่มีอะไรที่สามารถผ่านพวกเขาไปได้แม้แต่ครึ่งก้าว !
คำพูดของผู้นำสิบแปดอสูรนั้นยากที่จะยอมรับแต่มันก็เป็นความจริง คัมภีร์จักรพรรดินั้นเป็นสมบัติล้ำค่าของผู้ฝึกตน ยอดองค์รักษ์ที่มาจากนิกายทรงอำนาจคนที่ไม่เคยเห็นคัมภีร์จักรพรรดิมาก่อนพวกเขาจะมีความรู้ที่จำกัด ไม่ว่าพวกเขาจะฝึกฝนสิ่งใดมา
มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างองค์รักษ์เทพสวรรค์ทั้งสองประเภท
สิบแปดอสูรนั้นเป็นผู้เชียวชาญของบัลลังก์หมื่นกระดูกที่มีคัมภีร์จักรพรรดิจำนวนมาก พวกเขาบ่มเพาะคัมภีร์จักรพรรดิรูปที่ทรงพลังทำให้ทั้งสิบแปดคนแข็งแกร่ง พวกเขาสามารถหยุดยอดองค์รักษ์นับร้อยหรือมากกว่านั้นได้
หัวใจของหลายคนสั่นขณะที่จ้องมองไปยังตัวอักษรจักรพรรดิที่ปรากฏบนร่างของพวกเขา
บางคนกระซิบ " ข้าสงสัยว่าข่าวลือที่ระบุว่าคนเหล่านี้นั้นบ่มเพาะทักษะจักรพรรดิเป็นจริงหรือไม่ ? "
หลี่ฉีเย่มองไปยังตัวอักษรเหล่านั้นอย่างไม่แยแส " นี้มันเป็นเรื่องเสียเวลาจริงๆ น่าเสียดายที่ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับพวกเจ้าทั้งหมด มาทำให้มันจบเถอะ "
หลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็ก้มลงและหยิบสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมออกมา มันเป็นอาวุธที่แตกหักของเผ่าพันธ์ผีที่ถูกเขาฆ่าตาย สมบัตินี้ถูกหลี่ฉีเย่ยิง
มันได้รับความเสียหายอย่างมากและเป็นเรื่องยากที่ใช้อำนาจที่แท้จริง เมื่อเวลาผ่านไป สมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมนี้จะเหี่ยวแห้งและกลายเป็นเศษโลหะ
หลี่ฉีเย่ถือสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมไว้ในมือก่อนจะอมยิ้มและเอ่ย " มันจบแล้ว " จากนั้นเขาก็พึมพำ " ทำลายความโชติช่วง ! "
" โอมมม ! " ตอนนั้นเอง เวลาทันใดนั้นก็กลายเป็นส่องสว่าง มือขวาของหลี่ฉีเย่ที่ถือสมบัติอยู่กลายเป็นโปร่งใสและส่องประกาย สายโซ่อมตะหมุนวนไปรอบแขนขวาของเขา
" ตูม ! " ด้วยเสียงระเบิดที่ดังออกมา ชั้นฟ้าเริ่มตจะหม่นหมองแผ่นดินเริ่มจะสั่นไหว สมบัติในมือของเขาระเบิดกลิ่นอายของบรรพชนเที่ยงธรรมราวกับบรรพชนเที่ยงธรรมนั้นกลับมามีชีวิตและปรากฏตัว
ความสว่างถูกปลกปล่อยออกมาถึงขีดจำกัดเมื่อหลี่ฉีเย่ปลดปล่อยการโจมตีอมตะด้วยสมบัติที่แตกหัก การโจมตีนี้เป็นพลังไร้ขีดจำกัด มันเป็นการโจมตีที่ระเบิดอำนาจทั้งหมดของบรรพชนเที่ยงธรรมออกมาและกวาดผ่านทุกสิ่งมีชีวิต
" ไม่ดีแล้ว เปิดใช้รูปแบบ ! " การโจมตีนี้ไม่เพียงที่ฝูงชนจะตกตะลึง กระทั้งสิบแปดอสูรก็ยังตกตะลึง ในเวลานี้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากถูกกลืน
" ตูม ! " เสียงระเบิดดังกึกก้อง รูปแบบที่ถูกเปิดใช้งานโดยสิบแปดอสูรได้ปะทะกับการโจมตีนี้ ทว่ารูปแบบนี้ไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากการระเบิดของวสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมได้แม้แต่วินาทีเดียว
วิถีของการโจมตีนี้ผสมไปด้วยหยินหยาง , เต๋าทั้งหก , กระทั้งกังขังเวลาและมิติ มันเป็นการปลดปล่อยอำนาจของบรรพชนเที่ยงธรรมด้วยสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมเพื่อระเบิดความแข็งแกร่งสูงสุดของมันออกมา
การโจมตีนี้มันจะทรงพลังขนาดไหนกัน ? ไม่ต้องเอ่ยถึงองค์รักษ์เทพสวรรค์ แม้แต่ราชันเทพสวรรค์ก็ยังต้องถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
ทำลายความโชติช่วง - การโจมตีที่มีอำนาจทำลายล้างมากที่สุด มันจะเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
ทำลายความโชติช่วงนั้นเป็นดังชื่อของมัน คือการทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นดังดอกไม้ไฟยามค่ำคืนจากนั้นก็หายไป
นี้เป็นทักษะที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลานานมากและไม่มีใครรู้ต้นกำเนิดของมัน คนจำนวนน้อยมากที่รู้ว่ามันมีตัวตน
ทำลายความโชติช่วงสามารถใช้อำนาจสูงสุดของอาวุธนั้นโดยสมบัติเป็นสื่อกลาง แม้แต่สมบัติระดับต่ำก็ยังปลดปล่อยการโจมตีที่ยอดเยี่ยมได้หากระเบิดอำนาจสูงสุดของมัน พวกมันจะเผาไหม้ทุกอย่างและถูกใช้ออกไปในการระเบิดครั้งเดียว
ด้วยเหตุนี้ แม้แต่ดาบธรรมดาก็สามารถปลดปล่อยการโจมตีที่น่ากลัวได้
แม้แต่สมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมระดับชีวิตก็ยังเปลี่ยนทุกอย่างเป็นอำนาจ แก่นแท้ , อำนาจของเต๋า ทุกอย่างถูกเปลี่ยนไปอำนาจทำลายล้างของทำลายความโชติช่วง มันเปลี่ยนจักรวาลและกลั่นคัมภีร์ด้วยสมบัติ มันราวกับบรรพชนเที่ยงธรรมมาที่นี่ด้วยตัวเองและปล่อยอำนาจสูงสุดของเขา ไม่มีอะไรที่จะแข็งแกร่งไปกว่าการโจมตีครั้งนี้
หลังจากการระเบิด สมบัตินั้นพุ่งออกไปและเผาไหม้ทุกอย่างให้เป็นเถ้าถ่านด้วนอำนาจอมตะ
ราคาที่ต้องจ่ายคือการทำลายชีวิตของสมบัตินั้นๆ
" ตูม ! " เสียงระเบิดดังกึกก้อง เมื่อทำลายความโชติช่วงทะลวงลงมา เลือดนั้นสาดกระจายไปทั่ว แม้แต่เศษกระดูกและเศษเนื้อก็ค่อยๆล่วงหล่น การโจมตีนี้ทำลายการป้องกันของสิบแปดอสูร พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะใช่รูปแบบที่แข็งแกร่งของเขา การโจมตีนี้ทำให้พวกเขาเหลือแต่เพียงเศษชิ้นเนื้อ
อาวุธนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่จะกลายเป็นความว่างเปล่าและไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย การโจมตีนี้ได้เผาไหม้ทุกอย่างที่ถูกสร้างขึ้น
หนึ่งการเคลื่อนไหวฆ่ายอดองค์รักษ์นั้นเป็นธรรมดาที่จะตกตะลึง ในระยะเวลาสั้นๆบรรยากาศได้ถูกห่อหุ้มด้วยความเงียบจนน่าากลัว นี้มันเรื่องน่าเหลือเชื่อเกินไป
ทั้งหมดนั้นตกตะลึงขณะที่กำลังจ้องไปยังฝนเลือดและฝนเนื้อและเศษกระดูก พวกเขาพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะหายใจและแทบจะหายใจไม่ออก
ทุกคนรู้เกี่ยวกับอำนาจของสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรม แต่นั้นเป็นเพียงสมบัติที่แตกหัก แม้แต่สมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมที่สมบูรณ์ที่ถูกใช้โดยบรรพชนเที่ยงธรรมเอง การโจมตีของมันก็ยังไม่รุนแรงเท่ากับการระเบิดครั้งนี้ !
ความคิดที่แตกต่างกันวิ่งอาละวาดในจิตใจของผู้คน บางคนนั้นรำคาญ ขณะที่บางคนนั้นอิจฉาที่ตี๋เชาได้พบกับภรรยาที่ดี
เจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นกำจัดศัตรูและสร้างผู้บัญชาการที่มีความสามารถให้กับตี๋เชา นี้จะทำให้นางสร้างพายุฝนและเรียกลมได้ทั่วทั้งโลก - ความสามารถที่น่ากลัวอย่างแท้จริง
" นางสมแล้วที่จะได้เป็นราชินี " ผู้เชียวชาญผีหลายคนไม่ชอบเหตุการณ์ในปัจจุบัน แต่พวกเขาก็ยอมรับความสามารถของนาง
" ไม่มีศัตรูถาวรมีเพียงสิ่งน่าสนใจที่ถาวร " ผู้ฝึกตนอีกคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเบาๆ บางครั้งก็จำเป็นที่จะต้องจับมือกับศัตรูคู่อาฆาต ความจริงนั้นโหดร้ายอย่างมาก
สายตานับไม่ถ้วนจับจ้องไปยังร่างของหลี่ฉีเย่ ทุกคนรู้ว่าหลี่ฉีเย่เป็นจอมโหดเหี้ยม หากเขาเข้าร่วมตามคำเชิญของเจ้าหญิงฟินิฟซ์ เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นผู้บัญชาการอมตะสำหรับตี๋เชา
หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะกับความของเจ้าหญิงฟินิกซ์ ก่อนจะโบกมือไปมาและเอ่ย " กลายเป็นสหาย ? โทษที ข้าไม่มีงานอดิเรกอย่างการกลายเป็นสหายกับศัตรู เว้นแต่ว่าข้าชอบคนที่มีความสามารถ หากตี๋เชาสาบานว่าจะจงรักภักดีกับข้า เช่นนั้นข้าก็อาจจะอภัยและกลายเป็นสหายของเขา "
คำกล่าวของหลี่ฉีเย่ทำให้ผู้นำสิบแปดอสูรและเจ้าหญิงเปลี่ยนการแสดงออกของพวกเขา เจ้าหญิงฟินิกซ์นั้นอยู่ในอาการสงบ แต่ผู้นำหลี่สายตาของเขาและเอ่ยอย่างเย็นชา " เจ้าควรจะคิดให้ดีก่อนจะพูดอะไรออกมา ! "
หลี่ฉีเย่เอ่ยตอบพร้อมกับรอยยิ้ม " ข้าไม่เคยคิดอะไรก่อนจะพูด ! ฮ่าฮ่า ตี๋เชา ? แล้วไง ! เขามีคุณสมบัติอะไรที่จะได้รับความจงรักภักดีของข้า ? คุณสมบัติของเขาเป็นได้เพียงผู้บัญชาการระดับในการจัดลำกับของข้า และเขายังกล้ามาเชิญข้า ? บางที่รอจนกระทั้งจักพรรดิอมตะว่านกู่กลับมามีชีวิตเหอะ ! "
" เจ้าโง่ปากแข็ง ! " เจ้าหญิงฟินิกซ์กล่าวอย่างเย็นชา " อย่าได้ตำหนิพวกเราในเมื่อเจ้าเลือกเดินเส้นทางที่ยากลำบาก ! "
ล้มเหลวในการเชิญชวนนี้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย สำหรับเจ้าหญิงประกายศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้นให้กับน้องชายนางหรือการทำลายภัยคุกคาม นางนั้นสามารถปล่อยวางได้หากสามารถเชิญอัจฉริยะให้เข้ามาปูเส้นทางสู่จักรพรรดิอมตะให้กับคู่หมั้นนางได้
หลายคนกลายเป็นโล่งใจหลังจากได้ยินคำกล่าวนี้ นี้ทำให้สนามรบกลายเป็นตรึงเครียดมากขึ้น นี้หมายความว่าพวกเขาจะต้องตอ่สู้เป็นตายในเมื่อการเจรจาล้มเหลว
" ข้ามีประสบการกับความโหดเหี้ยมของเจ้าแล้ว " หลี่ฉีเย่ยิ้มและเอ่ย " เข้ามา การส่งคนอื่นเข้ามาตายเปล่านี้ทำให้ทั้งเจ้าและข้าเสียเวลา ข้าอยากจะรู้จริงๆว่าคู่หมั้นตี๋เชามีดีขนาดไหน "
เจ้าหญิงฟินิกซ์ยังคงนั่งอยู่บนรถม้าของนางและจ้องหลี่ฉีเย่โดยไม่เคลื่อนไหวใดๆ
ผู้นำสิบแปดอสูรขว้างเส้นทางของหลี่ฉีเย่และกล่าวอย่างเย็นชา " เว้นแต่พวกเราจะตาย เจ้าก้ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะทำให้นางหญิงลงมือ "
" ยอดองค์รักษ์ ? " หลี่ฉีเย่ระเบิดเสียงหัวเราะและเอ่ยถาม " พวกเจ้าคิดจริงๆว่าจะสามารถหยุดข้าได้ ? "
คำกล่าวนี้ของหลี่ฉีเย่นั้นหยิ่งยโสอย่างมาก แต่หลังจากฟังเสียงหัวเราะของหลี่ฉีเย่ แม้แต่ผู้ที่คิดว่าตัวเองเป็นยอดองค์รักษ์ที่แข็งแกร่งก็ยังสั่นสะท้าน วันนี้มีประมาณแปดสิบถึงหนึ่งร้อยองค์รักษ์เทพสวรรค์ที่ตายด้วยน้ำมือเขา รวมถึงอีกหลายสิบคนเป็นอัจฉริยะยอดองค์รักษ์ที่มีชื่อเสียง
" จำนวนนับไม่ใช่ทุกอย่าง เหล่าคนที่ไม่ได้รู้ทักษะจักรพรรดิมีเพียงการบ่มเพาะที่เสียเปล่าแม้ว่าจะมาถึงระดับองค์รักษ์เทพสวรรค์ " ผู้นำสิบแปดอสูรเอ่ยอย่างเย็นชา
ตอนนี้สิบแปดอสูรนั้นปลดปล่อยพลังงานในสายเลือดเจาะผ่านชั้นฟ้า ตัวอักษรที่มีกลิ่นอายของจักรพรรดิอมตะปรากฏอยู่บนร่างของพวกเขา ทำให้พวกเขากลายเป็นกำแพงเหล็กที่ทอดยาวนับหมื่นไมล์ บดสวดจักรพรรดิปรากฏราวกับนี้เป็นเมืองของจักรพรรดิ ไม่มีอะไรที่สามารถผ่านพวกเขาไปได้แม้แต่ครึ่งก้าว !
คำพูดของผู้นำสิบแปดอสูรนั้นยากที่จะยอมรับแต่มันก็เป็นความจริง คัมภีร์จักรพรรดินั้นเป็นสมบัติล้ำค่าของผู้ฝึกตน ยอดองค์รักษ์ที่มาจากนิกายทรงอำนาจคนที่ไม่เคยเห็นคัมภีร์จักรพรรดิมาก่อนพวกเขาจะมีความรู้ที่จำกัด ไม่ว่าพวกเขาจะฝึกฝนสิ่งใดมา
มีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างองค์รักษ์เทพสวรรค์ทั้งสองประเภท
สิบแปดอสูรนั้นเป็นผู้เชียวชาญของบัลลังก์หมื่นกระดูกที่มีคัมภีร์จักรพรรดิจำนวนมาก พวกเขาบ่มเพาะคัมภีร์จักรพรรดิรูปที่ทรงพลังทำให้ทั้งสิบแปดคนแข็งแกร่ง พวกเขาสามารถหยุดยอดองค์รักษ์นับร้อยหรือมากกว่านั้นได้
หัวใจของหลายคนสั่นขณะที่จ้องมองไปยังตัวอักษรจักรพรรดิที่ปรากฏบนร่างของพวกเขา
บางคนกระซิบ " ข้าสงสัยว่าข่าวลือที่ระบุว่าคนเหล่านี้นั้นบ่มเพาะทักษะจักรพรรดิเป็นจริงหรือไม่ ? "
หลี่ฉีเย่มองไปยังตัวอักษรเหล่านั้นอย่างไม่แยแส " นี้มันเป็นเรื่องเสียเวลาจริงๆ น่าเสียดายที่ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับพวกเจ้าทั้งหมด มาทำให้มันจบเถอะ "
หลี่ฉีเย่ทันใดนั้นก็ก้มลงและหยิบสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมออกมา มันเป็นอาวุธที่แตกหักของเผ่าพันธ์ผีที่ถูกเขาฆ่าตาย สมบัตินี้ถูกหลี่ฉีเย่ยิง
มันได้รับความเสียหายอย่างมากและเป็นเรื่องยากที่ใช้อำนาจที่แท้จริง เมื่อเวลาผ่านไป สมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมนี้จะเหี่ยวแห้งและกลายเป็นเศษโลหะ
หลี่ฉีเย่ถือสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมไว้ในมือก่อนจะอมยิ้มและเอ่ย " มันจบแล้ว " จากนั้นเขาก็พึมพำ " ทำลายความโชติช่วง ! "
" โอมมม ! " ตอนนั้นเอง เวลาทันใดนั้นก็กลายเป็นส่องสว่าง มือขวาของหลี่ฉีเย่ที่ถือสมบัติอยู่กลายเป็นโปร่งใสและส่องประกาย สายโซ่อมตะหมุนวนไปรอบแขนขวาของเขา
" ตูม ! " ด้วยเสียงระเบิดที่ดังออกมา ชั้นฟ้าเริ่มตจะหม่นหมองแผ่นดินเริ่มจะสั่นไหว สมบัติในมือของเขาระเบิดกลิ่นอายของบรรพชนเที่ยงธรรมราวกับบรรพชนเที่ยงธรรมนั้นกลับมามีชีวิตและปรากฏตัว
ความสว่างถูกปลกปล่อยออกมาถึงขีดจำกัดเมื่อหลี่ฉีเย่ปลดปล่อยการโจมตีอมตะด้วยสมบัติที่แตกหัก การโจมตีนี้เป็นพลังไร้ขีดจำกัด มันเป็นการโจมตีที่ระเบิดอำนาจทั้งหมดของบรรพชนเที่ยงธรรมออกมาและกวาดผ่านทุกสิ่งมีชีวิต
" ไม่ดีแล้ว เปิดใช้รูปแบบ ! " การโจมตีนี้ไม่เพียงที่ฝูงชนจะตกตะลึง กระทั้งสิบแปดอสูรก็ยังตกตะลึง ในเวลานี้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากถูกกลืน
" ตูม ! " เสียงระเบิดดังกึกก้อง รูปแบบที่ถูกเปิดใช้งานโดยสิบแปดอสูรได้ปะทะกับการโจมตีนี้ ทว่ารูปแบบนี้ไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากการระเบิดของวสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมได้แม้แต่วินาทีเดียว
วิถีของการโจมตีนี้ผสมไปด้วยหยินหยาง , เต๋าทั้งหก , กระทั้งกังขังเวลาและมิติ มันเป็นการปลดปล่อยอำนาจของบรรพชนเที่ยงธรรมด้วยสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมเพื่อระเบิดความแข็งแกร่งสูงสุดของมันออกมา
การโจมตีนี้มันจะทรงพลังขนาดไหนกัน ? ไม่ต้องเอ่ยถึงองค์รักษ์เทพสวรรค์ แม้แต่ราชันเทพสวรรค์ก็ยังต้องถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน
ทำลายความโชติช่วง - การโจมตีที่มีอำนาจทำลายล้างมากที่สุด มันจะเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นเถ้าถ่าน
ทำลายความโชติช่วงนั้นเป็นดังชื่อของมัน คือการทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นดังดอกไม้ไฟยามค่ำคืนจากนั้นก็หายไป
นี้เป็นทักษะที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลานานมากและไม่มีใครรู้ต้นกำเนิดของมัน คนจำนวนน้อยมากที่รู้ว่ามันมีตัวตน
ทำลายความโชติช่วงสามารถใช้อำนาจสูงสุดของอาวุธนั้นโดยสมบัติเป็นสื่อกลาง แม้แต่สมบัติระดับต่ำก็ยังปลดปล่อยการโจมตีที่ยอดเยี่ยมได้หากระเบิดอำนาจสูงสุดของมัน พวกมันจะเผาไหม้ทุกอย่างและถูกใช้ออกไปในการระเบิดครั้งเดียว
ด้วยเหตุนี้ แม้แต่ดาบธรรมดาก็สามารถปลดปล่อยการโจมตีที่น่ากลัวได้
แม้แต่สมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมระดับชีวิตก็ยังเปลี่ยนทุกอย่างเป็นอำนาจ แก่นแท้ , อำนาจของเต๋า ทุกอย่างถูกเปลี่ยนไปอำนาจทำลายล้างของทำลายความโชติช่วง มันเปลี่ยนจักรวาลและกลั่นคัมภีร์ด้วยสมบัติ มันราวกับบรรพชนเที่ยงธรรมมาที่นี่ด้วยตัวเองและปล่อยอำนาจสูงสุดของเขา ไม่มีอะไรที่จะแข็งแกร่งไปกว่าการโจมตีครั้งนี้
หลังจากการระเบิด สมบัตินั้นพุ่งออกไปและเผาไหม้ทุกอย่างให้เป็นเถ้าถ่านด้วนอำนาจอมตะ
ราคาที่ต้องจ่ายคือการทำลายชีวิตของสมบัตินั้นๆ
" ตูม ! " เสียงระเบิดดังกึกก้อง เมื่อทำลายความโชติช่วงทะลวงลงมา เลือดนั้นสาดกระจายไปทั่ว แม้แต่เศษกระดูกและเศษเนื้อก็ค่อยๆล่วงหล่น การโจมตีนี้ทำลายการป้องกันของสิบแปดอสูร พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะใช่รูปแบบที่แข็งแกร่งของเขา การโจมตีนี้ทำให้พวกเขาเหลือแต่เพียงเศษชิ้นเนื้อ
อาวุธนั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมที่จะกลายเป็นความว่างเปล่าและไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย การโจมตีนี้ได้เผาไหม้ทุกอย่างที่ถูกสร้างขึ้น
หนึ่งการเคลื่อนไหวฆ่ายอดองค์รักษ์นั้นเป็นธรรมดาที่จะตกตะลึง ในระยะเวลาสั้นๆบรรยากาศได้ถูกห่อหุ้มด้วยความเงียบจนน่าากลัว นี้มันเรื่องน่าเหลือเชื่อเกินไป
ทั้งหมดนั้นตกตะลึงขณะที่กำลังจ้องไปยังฝนเลือดและฝนเนื้อและเศษกระดูก พวกเขาพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะหายใจและแทบจะหายใจไม่ออก
ทุกคนรู้เกี่ยวกับอำนาจของสมบัติบรรพชนเที่ยงธรรม แต่นั้นเป็นเพียงสมบัติที่แตกหัก แม้แต่สมบัติบรรพชนเที่ยงธรรมที่สมบูรณ์ที่ถูกใช้โดยบรรพชนเที่ยงธรรมเอง การโจมตีของมันก็ยังไม่รุนแรงเท่ากับการระเบิดครั้งนี้ !
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น